วันนี้ (22 มิถุนายน) นพ.สงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand โดยเปิดเผยถึงคลัสเตอร์โรงเรียนสอนศาสนาในศูนย์มัรกัสยะลา บ้านเปาะยานิ หมู่ 3 ตำบลสะเตงนอก อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา ซึ่งระบุว่า โรงเรียนสอนศาสนาแห่งนี้มีนักเรียนทั้งหมด 492 คน และกลุ่มที่มายื่นใบสมัครเรียนอีก 70 กว่าคน
“ประมาณปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นักเรียนก็มาเตรียมการเรียนภาคเรียนใหม่ แต่ทางจังหวัดก็มีการประกาศเลื่อนการเรียนการสอนแบบ On Site ออกไป จึงน่าจะเป็นช่วงนั้นที่มีการพบหลายคลัสเตอร์ในชุมชนที่มีการระบาดและลามเข้ามาที่โรงเรียนแห่งนี้” นพ.สงกรานต์ กล่าว
นอกจากนี้เทศบาลนครยะลายังได้มีการพิจารณาจองวัคซีนทางเลือกคือ Sinopharm โดยมีการจัดซื้อผ่านทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เพื่อมาใช้ในการระงับการระบาดเป็นการเร่งด่วน ส่วนเรื่องต้นตอเชื้อนั้นยังไม่มีความชัดเจน เนื่องจากผลการตรวจเชื้อของยะลายังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นเชื้อสายพันธุ์ใด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้จังหวัดยะลาได้มีการซีลจังหวัด ห้ามเข้า-ออกจังหวัดแล้ว
สืบเนื่องจากเมื่อวานนี้ (21 เมษายน) พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยถึงคลัสเตอร์โรงเรียนสอนศาสนาในศูนย์มัรกัสยะลา บ้านเปาะยานิ หมู่ 3 ตำบลสะเตงนอก อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา ที่ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อแล้วทั้งสิ้น 402 ราย กระจายตัวไปใน 11 จังหวัด โดยพบผู้ติดเชื้อรายแรกเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน แต่จากการสอบสวนโรคน่าจะมีการผู้ติดเชื้อตั้งแต่วันที่ 29 พฤษภาคม ชุมชนดังกล่าวมีประชาชนประมาณ 3-4 พันคน เป็นนักเรียน 500 คน มาจาก 17 จังหวัด
ในส่วนของการแพร่เชื้อพบว่ามีการรวมกลุ่มรับประทานอาหารร่วมกัน ใช้ถาดอาหารและแก้วน้ำร่วมกัน อีกทั้งยังมีการประกอบศาสนกิจโดยไม่ได้ใส่หน้ากาก มาตรการขณะนี้มีการปิดพื้นที่ สอบสวนโรค ค้นหาผู้สัมผัสใกล้ชิด ขอให้ประชาชนที่คิดว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงเข้ารายงานกับเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อตรวจหาเชื้อ
อย่างไรก็ตาม กรมควบคุมโรคได้ติดตามสถานการณ์การติดเชื้อในภาคใต้ กำลังหาเชื้อกลายพันธุ์ สัปดาห์นี้จะได้ข้อสรุป แต่เบื้องต้น นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ระบุว่า พบเชื้อโควิด-19 ทั้งสายพันธุ์แอฟริกาใต้และอังกฤษ ขณะนี้อยู่ระหว่างหาต้นตอว่าติดมาจากที่ไหน และกำลังเร่งติดตามว่าเชื้อกระจายไปยังจังหวัดไหนบ้าง
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา สำนักจุฬาราชมนตรี แจ้งประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดทั่วราชอาณาจักร ประชาสัมพันธ์ให้ทุกมัสยิดสำรวจว่า มีนักเรียนเดินทางมาจากมัรกัสยะลาหรือไม่ หากมีให้รีบไปรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน เพื่อตรวจหาเชื้อ ที่โรงพยาบาล หรือจุดบริการในพื้นที่ต่างๆ โดยเร็ว พร้อมให้บุคคลดังกล่าวปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข กักตัวเองที่บ้านหรือที่รัฐจัดให้
และขอให้บุคคลดังกล่าวและครอบครัวงดละหมาดที่มัสยิดจนกว่าจะมีผลตรวจออกมาชัดเจนว่าไม่ติดเชื้อโควิด-19 ขณะที่ในเดือนกรกฎาคมนี้จะมีวันตรุษอีฎิลอัฎฮา ซึ่งจะมีการรวมตัวจัดกิจกรรมเฉลิมฉลอง การเดินทางข้ามจังหวัด ทางจุฬาราชมนตรีได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์จากประกาศจังหวัด
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า