นอกจากอารีย์จะเป็นแหล่งรวมคาเฟ่และร้านอาหารเกือบทุกหัวมุมถนน อารีย์ก็ยังเป็นที่ตั้งของ Josh Hotel โรงแรมขนาด 71 ห้องที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งยุค Mid-century ไม่ว่าจะเป็นของตกแต่งเก่า เฟอร์นิเจอร์ เหลี่ยมมุมในโรงแรม และรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อีกสารพัดที่ชวนให้นึกถึงภาพยนตร์ของเวส แอนเดอร์สัน ด้วยตัวอาคารเป็นตึกเก่าที่ผ่านการรีโนเวตใหม่ทั้งหมด รวมถึงมุมซิกเนเจอร์อย่างสระว่ายน้ำที่หากมองจากมุมสูงก็จะเห็นชื่อโรงแรมปรากฏอยู่ที่ก้นสระ
นอกจากนั้น Josh Hotel ยังเป็นโรงแรมที่มีมากกว่าห้องพัก ภายในอาคารหลังนี้ยังมีฟังก์ชันใช้งานมากมาย ไม่ว่าจะเป็นห้องอาหาร พูลบาร์ ร้านไอศกรีม ร้านเสื้อผ้า โรงหนังไซส์เล็ก และห้องเวิร์กช็อปสำหรับจัดกิจกรรมและสอนทำผลงาน DIY เรียกได้ว่าถ้ามาที่นี่จะสามารถกิน นอน เล่น เที่ยวได้ครบจบในที่เดียว แต่ครั้งนี้เราเน้นเรื่องกินเป็นหลัก เพราะได้ยินมาว่าที่นี่มีอาหารตำรับสมุยเสิร์ฟด้วยนี่สิ
ขอต้อนรับสู่โรงแรมจิ๋วที่ราวกับเป็นสปินออฟจากภาพยนตร์ของเวส แอนเดอร์สัน
The Vibe
Marigold (มาริโกลด์) หรือภาษาไทยคือดาวเรือง ดอกไม้อันเป็นทั้งชื่อและสัญลักษณ์ของห้องอาหารนี้เป็นชื่อของห้องอาหารหนึ่งในโรงแรม บรรยากาศชวนให้นึกถึงความชิลริมทะเล โต๊ะเก้าอี้ไม้ ค็อกเทลบาร์ และพูลบาร์ด้านนอก ทำให้ลืมไปชั่วขณะว่าตอนนี้เราอยู่ในย่านอารีย์
ร้านแห่งนี้ยังเป็นร้านอาหารที่มีจุดยืนรสชาติอาหารใต้ชัดเจน โดยนำเสนออาหารใต้อย่างสมุยที่เน้นความเผ็ดที่คงเส้นคงวา แต่ก็ไม่เผ็ดเรียกพี่แบบรสชาติแกงใต้อย่างนครศรีธรรมราช หรือรสติดหวานอย่างภูเก็ต
บรรยากาศของส่วนร้านอาหาร Marigold
The Dishes
ลองชิมเมนูอิ่มท้องในจานเดียวอย่าง ขนมจีนแกงไก่ (220 บาท) รสชาติแตกต่างจากแกงไก่ของภาคกลางอย่างสิ้นเชิง แกงไก่ถ้วยนี้มีส่วนผสมของพริกแกงใต้และกะปิ รสชาติที่ได้จึงเผ็ดและเข้มข้นกว่า โดยมาพร้อมผักเคียงเต็มกระบุง และอย่าลืมยำมะละกอถ้วยเล็กที่ให้กินเป็นเครื่องเคียง
(บน) ผัดมันแกวหมูโคใส่แปะก๊วย, (ซ้าย) ไข่พะโล้หมูหวานหัวไชเท้า, (ขวา) ขนมจีนแกงไก่
ถ้ามากันหลายคน เราแนะให้สั่งหลายอย่างมาแชร์กัน สำหรับใครที่คิดว่าอาหารใต้มีแต่รสเผ็ดหรือไม่ก็ต้องมีกะปิเป็นส่วนผสม ไม่จริงเสมอไป แนะนำ ผัดมันแกวหมูโคใส่แปะก๊วย (180 บาท) จานนี้ประกอบด้วยวัตถุดิบหลัก 3 อย่างคือ มันแกวหั่นเส้น เม็ดแปะก๊วย และหมูโค (หมูสามชั้นเค็ม) นำมาผัดให้เข้ากัน จุดเด่นอยู่ที่ความกรุบกรอบของมันแกวซึ่งหากินแบบที่อยู่ในอาหารคาวได้ยากในปัจจุบัน
เคยชิมเลียงเท่กุ้งสดแล้วหรือยัง
เลียงเท่กุ้งสด (220 บาท) ครั้งแรกที่ได้ยินชื่อก็พลันนึกถึงแกงเลียง แต่สำหรับสมุยแล้ว เลียงเท่คือแกงเลียงใส่กะทิ ซึ่งแกงถ้วยนี้เริ่มต้นด้วยเครื่องแกงเลียง ใส่ฟักทอง เห็ด บวบ และกุ้ง จากนั้นนำไปต้มกะทิสด เคี่ยวจนเข้ากันดี เสิร์ฟพร้อมน้ำพริกกะปิ ลองซดแกงเดี่ยวๆ เพื่อรับรู้รสชาติหวานมันเค็มที่กลมกล่อม จากนั้นค่อยกินน้ำพริกกะปิตามเข้าไป
แกงสับปะรดกุ้งจัดจ้านเครื่องพริกแกงแบบตำรับสมุย
อีกหนึ่งเมนูที่แม้จะไม่ใช่อาหารใต้เสียทีเดียว แต่ก็อยากให้ลองก็คือ ไข่พะโล้หมูหวานหัวไชเท้า (190 บาท) ไข่พะโล้สูตรพิเศษที่ใส่หัวไชเท้าแทนเต้าหู้ ได้รสหวานทั้งจากหัวไชเท้าและน้ำพะโล้ไปพร้อมกัน ส่วนหมูสามชั้นก็ต้มจนพะโล้ซึมเข้าเนื้อ และที่สำคัญคือไข่พะโล้มีความหนังกรอบ อันถือเป็นไข่พะโล้ที่ผ่านการปรุงได้อย่างได้ที่
ตอบโจทย์คนชอบกินเผ็ดกับ แกงสับปะรดกุ้ง (280 บาท) แกงส้มรสจัดจ้านเครื่องพริกแกงแบบตำรับสมุย เบรกรสเผ็ดด้วยความเปรี้ยวอมหวานของสับปะรด พร้อมกุ้งตัวใหญ่ไว้กินคู่กับแกง
สั่งเครื่องดื่มออกไปนั่งชิลริมสระไหมล่ะ
ตัดรสเผ็ดร้อนของแกงใต้ด้วยค็อกเทลสักตัว Long Island Iced Tea (330 บาท) แค่ชื่อก็บอกแล้วว่าแก้วนี้ดูเหมือนชาเย็นจริงๆ แต่เต็มไปด้วยเหล้า ไม่ว่าจะเป็นจิน วอดก้า รัม เตกีลา และทริปเปิลเซก (เหล้าส้ม) บีบมะนาวเพิ่มรสเปรี้ยวแล้วเทโค้กเย็นๆ ตามเข้าไป
ถ้าไม่เน้นแอลกอฮอล์ Pomegranate Spring (190 บาท) ก็ดูจะเป็นตัวเลือกที่เข้าท่า น้ำสับปะรดกับน้ำส้มผสมกัน หยดโฮมเมดเกรนาดีน (ไซรัปทับทิม) แล้วท็อปด้วยจิงเจอร์เอลเป็นอันเสร็จพิธี ม็อกเทลนี้มาพร้อมเม็ดทับทิมที่ใส่มาในช่อใบตองเล็กๆ หนีบข้างแก้ว
What You Should Know
- ตกเย็นแล้วมานั่งชิลยามเย็นที่พูลบาร์ก็เก๋ไม่ใช่น้อย ลองสั่งรัมหรือจินค็อกเทลสักแก้ว หรือจะเป็นน้ำมะพร้าวสด แค่นี้ก็เหมือนได้วาร์ปไปทะเลแล้วล่ะ
Marigold
Open: เปิดทุกวัน เวลา 11.00-23.00 น.
Address: Josh Hotel ซอยอารีย์ 4 (เหนือ) ถนนพหลโยธิน กรุงเทพฯ
Contact: 0 2102 4999
Website: www.joshhotel.com/dining.php
Map:
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์