ในวันที่ 7 เมษายนนี้ จะถึงคิวการดวลกันในเกมฟุตบอล ‘ศึกแดงเดือด’ ระหว่างทัพ ‘ปีศาจแดง’ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบกับ ‘หงส์แดง’ ลิเวอร์พูล ที่สนามโอลด์แทรฟฟอร์ด โดยจะแข่งขันกันในเวลา 21.30 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง True Premier Football 1 และ 2
และเช่นเคย THE STANDARD SPORT รวบรวมข้อมูลสำคัญๆ เพื่อพาแฟนบอลไปอุ่นเครื่อง ส่องความพร้อมของนักเตะทั้งฝั่งแมนฯ ยูไนเต็ด และลิเวอร์พูล รวมถึงสถิติต่างๆ ที่น่าสนใจมาฝากก่อนเกมนัดนี้ ศึกแดงเดือดครั้งสุดท้ายของฤดูกาลกับ 3 คะแนนสุดล้ำค่าที่สำคัญต่อทั้งสองทีมในช่วงท้ายฤดูกาลแบบนี้
ความพร้อมของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
หลังพักเบรกทีมชาติกลับมา แมนฯ ยูไนเต็ด ของ เอริก เทน ฮาก เริ่มกลับมาเครื่องสะดุดอีกครั้ง หลังจากทำผลงานเสมอเบรนท์ฟอร์ด 1-1 และบุกไปแพ้ให้เชลซีในเกมนัดล่าสุด 3-4
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะปัญหาในแผงแนวรับที่ยังคงมีปัญหาอย่างต่อเนื่องในการรับมือกับเกมรุกของคู่แข่ง ส่วนเกมรุกยังเล่นได้หวือหวา เพียงแต่ในจังหวะเข้าทำยังต้องการความเด็ดขาดมากกว่านี้
เกมนี้แมนฯ ยูไนเต็ด มีเรื่องต้องให้ปวดหัวอยู่ไม่น้อย เมื่อพวกเขาต้องมาเจอปัญหาผู้เล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กบาดเจ็บในเกมล่าสุดพร้อมกันถึง 2 คน นั่นคือ ราฟาเอล วาราน และ จอนนี อีแวนส์ ในเกมนัดล่าสุด ขณะที่ผู้เล่นในตำแหน่งสำคัญคนอื่นๆ พร้อมลงสนามทุกคน
คาดการณ์ 11 ตัวจริง
อังเดร โอนานา (ผู้รักษาประตู), ดีโอโก ดาโลต์, วิลลี คัมบวาลา, แฮร์รี แม็กไกวร์, อารอน วาน บิสซากา, ค็อบบี ไมนู, คาเซมิโร, อเลฮานโดร การ์นาโช, บรูโน แฟร์นันด์ส, มาร์คัส แรชฟอร์ด และ ราสมุส ฮอยลุนด์
ผลงาน 5 นัดหลังสุด | ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 2
- แพ้ เชลซี 3-4 (Premier League)
- เสมอ เบรนท์ฟอร์ด 1-1 (Premier League)
- ชนะ ลิเวอร์พูล 4-3 (FA Cup)
- ชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0 (Premier League)
- แพ้ แมนฯ ซิตี้ 1-3 (Premier League)
ความพร้อมของลิเวอร์พูล
หลังจากพ่ายต่อแมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมเอฟเอคัพ 3-4 ทีมของ เจอร์เกน คล็อปป์ กลับมาก่อร่างสร้างความมั่นใจกันใหม่ด้วยการกวาดชัยชนะได้ 2 เกมรวดในลีก (ชนะไบรท์ตัน 2-1 และชนะเชฟฟีลด์ ยูไนเต็ด 3-1)
ลิเวอร์พูลยังคงเป็นทีมที่สร้างสรรค์เกมรุกได้หลากหลาย ผู้เล่นทุกคนพร้อมวิ่งสู้ฟัด ทุกตำแหน่งพร้อมจบสกอร์ให้ทีมได้เมื่อมีโอกาส และโดยเฉพาะช่วงโค้งสุดท้ายที่ทุกคะแนนในเกมลีกมีความสำคัญต่อการลุ้นแชมป์ เราจึงน่าจะได้เห็นภาพของ เจอร์เกน คล็อปป์ สั่งลูกทีมแบบเน้นเป็นพิเศษ เพื่อให้ได้มาซึ่งผลลัพธ์ที่พวกเขาต้องการ
สภาพความพร้อม ปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บ ทีมลิเวอร์พูลยังคงเป็นนักเตะชุดเดิมที่มีอาการบาดเจ็บอยู่ก่อนแล้ว อย่างเช่น ดีโอโก โชตา, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และ อลิสสัน เบ็คเกอร์ จะหมดสิทธิ์ลงสนามแน่นอน
ส่วนรายของ วาตารุ เอนโดะ ยังคงต้องรอเช็กความฟิตอีกครั้งว่าจะสามารถลงมาเป็นออปชันให้คล็อปป์ในเกมนี้ได้หรือไม่ ส่วนกำลังคนอื่นพร้อมบู๊ศึกแดงเดือดทุกคน
คาดการณ์ 11 ตัวจริง
ควีวิน เคลเลเฮอร์ (ผู้รักษาประตู), โจ โกเมซ, เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, อิบราฮิมา โกนาเต, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, โดมินิก โซโบสไล, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, ไรอัน กราเวนเบิร์ช, โมฮัมเหม็ด ซาลาห์, หลุยส์ ดิอาซ และ ดาร์วิน นูนเญซ
ผลงาน 5 นัดหลังสุด | ชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 1
- ชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 3-1 (Premier League)
- ชนะ ไบรท์ตัน 2-1 (Premier League)
- แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 3-4 (FA Cup)
- ชนะ สปาร์ตา ปราก 6-1 (UEFA Europa League)
- เสมอ แมนฯ ซิตี้ 1-1 (Premier League)
ผลการดวลกัน 5 นัดหลังสุด
ผลการดวลกัน 5 นัดหลังรวมเกมอุ่นเครื่องที่พบกัน เป็นฝั่งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มีสถิติเหนือกว่าเล็กน้อย หลังจากสามารถชนะได้ 3 จาก 5 เกมที่พบกัน และการดวลกันในฤดูกาลปัจจุบัน ทัพปีศาจแดงยังไม่แพ้ให้กับลิเวอร์พูลเลย (ชนะ 1 เสมอ 1)
โดยนัดล่าสุดที่ลิเวอร์พูลเอาชนะแมนฯ ยูไนเต็ด เกิดขึ้นในฤดูกาลที่แล้ว กับเกมช็อกโลกที่พวกเขาเปิดแอนฟิลด์ถล่มแมนฯ ยูไนเต็ด ไปแบบขาดลอย 7-0
และนี่คือผลการแข่งขันที่ดวลกัน 5 นัดหลังสุด
- แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-3 ลิเวอร์พูล (FA Cup 2023/24)
- ลิเวอร์พูล 0-0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Premier League 2023/24)
- ลิเวอร์พูล 7-0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Premier League 2022/23)
- แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-1 ลิเวอร์พูล (Premier League 2022/23)
- ลิเวอร์พูล 0-4 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Friendlies Match 2022)
โปรแกรมการถ่ายทอดสด
โปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ประจำฤดูกาล 2023/24 เกมบิ๊กแมตช์ระหว่างทัพ ‘ปีศาจแดง’ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบกับ ‘หงส์แดง’ ลิเวอร์พูล ที่สนามโอลด์แทรฟฟอร์ด จะแข่งขันกันในเวลา 21.30 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง True Premier Football 1 และ 2
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- FOOTBALL FACT: ลิซานโดร มาร์ติเนซ พลาดการลงสนามให้ แมนยู ไปแล้ว 43 นัด
- ถ้าไม่ใช่ ชาบี อลอนโซ? ใครเหมาะสมต่อการคุม ‘ลิเวอร์พูล’ ต่อจาก เจอร์เกน คล็อปป์