×

มัลลิกาประกาศลงสมัครเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ หวังปฏิรูปพรรคจริงจังให้ยิ่งใหญ่ มั่นใจมีศักยภาพพลิกฟื้นพรรคได้

โดย THE STANDARD TEAM
09.07.2023
  • LOADING...
มัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข

วันนี้ (9 กรกฎาคม) ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น พรรคประชาธิปัตย์จัดประชุมใหญ่วิสามัญของพรรค เพื่อเลือกตั้งหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จำนวน 41 คน โดยมีองค์ประชุมจำนวน 299 คน

 

มัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวก่อนเข้าร่วมประชุมใหญ่วิสามัญประจำปีพรรคประชาธิปัตย์เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ว่า ถือเป็นปรากฏการณ์ที่จะทำให้เห็นว่าเสรีภาพประชาธิปไตยที่แท้จริงอยู่ที่พรรคประชาธิปัตย์ และเราเป็นหนึ่งคนที่จะได้แสดงศักยภาพให้ได้เห็นถึงความเป็นประชาธิปไตย และพรรคประชาธิปัตย์ถือเป็นพรรคการเมืองที่มีรากเหง้าและดำรงไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ดังนั้นจึงต้องการความไว้เนื้อเชื่อใจจากคนที่จะลงสมัคร และที่ผ่านมาพรรคได้เปิดโอกาสให้ทุกคนได้แสดงเจตจำนง 

 

มัลลิกากล่าวต่อว่า ตนเองตัดสินใจอยู่นานมาก และเมื่อพรรคต้องการบุคลากรที่หลากหลายตนจึงลงสมัครเพื่อต้องการทำเรื่องปฏิรูป เพราะเป้าหมายที่สูงที่สุดจะต้องมีการปฏิรูปพรรคอย่างจริงจัง ตอนที่เปิดตัวตั้งแต่ต้นไปออกรายการต่างๆ เราตั้งใจอยู่แล้วว่าพรรคประชาธิปัตย์จะต้องทันสมัย จะต้องมีการเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลงก็จะต้องปฏิรูปพรรคอย่างจริงจัง เพราะฉะนั้นการปฏิรูปพรรคอย่างจริงจังก็จะต้องการคนที่มีความเข้มแข็งทั้งจิตใจและภาวะต่างๆ ตนคิดว่าถึงเวลาแล้วที่คนรุ่นใหม่จะได้นำพาพรรคก้าวผ่านสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงให้ได้ และที่สำคัญการเป็นผู้นำจะต้องมีความเข้มแข็งทั้งจิตใจ การวางโครงสร้าง และความร่วมมือต่างๆ ดังนั้นเชื่อมั่นว่าการที่เรามีเจตจำนงในการทำงาน มั่นใจว่าคนที่เป็นแฟนคลับของพรรคจะได้มีความมั่นอกมั่นใจ รวมถึงมีกำลังใจต่อสู้ 

 

“ลุกขึ้นมาเพื่อที่จะนำพาพรรคประชาธิปัตย์ก้าวข้ามสิ่งต่างๆ ไปด้วยกัน” มัลลิกากล่าว 

 

มัลลิกากล่าวย้ำว่าจะไม่มีการถอนตัว และอยากสร้างปรากฏการณ์ว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่มีพระแม่ธรณีบีบมวยผม ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่จะมีผู้หญิงสักคน ไม่เพียงแต่การส่งชื่อไปในช่องทางต่างๆ แต่เราจะเอาจริงและจริงจังกับเรื่องนี้ พร้อมย้ำว่าไม่ได้ปรึกษาหารือกับใครเฉพาะเจาะจง เนื่องจากการปรึกษาหรือไม่ปรึกษาพรรคก็ไม่จำกัดเสรีภาพอยู่แล้ว ตนเองมีคุณสมบัติครบ ที่สำคัญคืออยู่พรรคประชาธิปัตย์มาตั้งแต่ปี 2550 ทำงานให้พรรคมาโดยตลอด มั่นใจว่าศักยภาพของตนและทีมสามารถพลิกฟื้นประชาธิปัตย์ได้

 

“เราก็รู้ว่าสถานการณ์ค่อนข้างหนักและท้าทายมาก แต่ด้วยความที่พรรคประชาธิปัตย์เราต้องก้าวผ่านจุดนี้ไปให้ได้ เพื่อจะให้เกิดความยิ่งใหญ่ และจะนำประชาชนสามารถแก้วิกฤตสถานการณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตการเมือง วิกฤตความเชื่อมั่น วิกฤตปากท้อง การแตกแยกทางความคิด ดิฉันมั่นใจว่าวิกฤตที่ใหญ่ที่สุดคือวิกฤตของการแตกแยกทางความคิด ซึ่งเจนอย่างเราอยู่ตรงกลางระหว่างเจนใหม่กับเจนเก่า ดังนั้นหากมีจุดที่เราเชื่อมได้ มีความทันสมัย และใช้รูปแบบ เช่น การนำ AI และ IT มาปฏิรูปพรรคได้ เชื่อว่าเราจะฝ่าสถานการณ์นี้ไปให้ได้”

 

มัลลิกายังกล่าวอีกว่า ตนมีความมั่นใจในตัวเองอยู่แล้วว่าเราจะเป็นผู้หญิงคนเดียว ถ้าไม่มีการเสนอชื่อผู้หญิงคนอื่น และเรามีแผนปฏิรูปพรรคอย่างชัดเจนในการพาพรรคผ่านไปได้ และมั่นใจว่าสมาชิกพรรคจะเห็นจุดที่ต่างออกไป ไม่เหมือนเดิม โดยเฉพาะเรื่องการนำพาพรรคไปสู่ความยิ่งใหญ่ได้อย่างไรในอนาคต และเชื่อมประสานคนทุกรุ่นได้ จึงมั่นใจว่าเป็นแนวทางที่แปลกและแตกต่าง พร้อมย้ำอีกว่าพรรคประชาธิปัตย์ยังคงอุดมการณ์เช่นเดิม แต่สิ่งที่ต้องเปลี่ยนคือเรื่องของยุคสมัยและเครื่องมือที่ใช้ การเข้าถึงประชาชนที่จะต้องเข้าหาประชาชนมากกว่าให้ประชาชนเข้าหา

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising