วันที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมาถือเป็นวันแรกที่ร้าน ‘Maison RORU’ (เมซง-โรรุ) ร้านอาหารญี่ปุ่นร้านแรกที่ ปลา-อัจฉรา บุรารักษ์ แห่งเครือ iberry เปิดที่ Velaa หลังสวน ชั้น B1 โดยเป็นร้านที่ร่วมมือกับเซฟ Masato (มาซาโตะ) ผู้เป็นเจ้าของร้านโอมากาเสะชื่อดังในไทยอย่าง ‘Sushi Masat’
อัจฉราเล่าให้ THE STANDARD WEALTH ฟังว่า เป็นลูกค้าของเซฟ Masato มานานแล้ว หลังจากนั้นจึงรู้จักกัน และพูดคุยกันมาเรื่อยๆ จนในที่สุดตัดสินใจที่จะเปิดร้านอาหารร่วมกัน
“แต่เดิมไม่เคยคิดที่จะทำร้านอาหารญี่ปุ่น เพราะเป็นตลาดที่แข่งกันสูง และมีผู้เล่นในตลาดเยอะอยู่แล้ว แต่ด้วยความที่ชอบร้านของเซฟ Masato ที่บางครั้งต้องปิดร้านเพราะไปทำธุระและหากินไม่ได้ เลยชวนเปิดร้านที่หากินได้ง่ายขึ้น และไม่ต้องจองยากเหมือนร้านโอมากาเสะ”
Maison RORU วางตัวเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นแนว Hand Roll ที่อัจฉราเล่าว่ายังมีไม่มากนักในไทย โดยในร้านจะมีทั้ง A La Carte, แบบ Set และแบบ Omakase ราคาเริ่มต้น 690 ไปจนถึง 2,000 กว่าบาท รวมถึงมีบาร์สาเกด้วย
“เรานำประสบการณ์ในการเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นของเซฟ Masato มารวมกับวิธีบริหารจัดการร้านแบบ iberry ทำให้เกิดเป็น Maison RORU ที่ลูกค้าสามารถเดินเข้ามากินอาหารจากเซฟ Masato ได้บ่อยขึ้น อีกทั้งยังกินได้สนุกและเท่จากบรรยากาศของบาร์สาเก”
Maison RORU ถือเป็นร้านที่หาช่องทางที่แทรกเข้าไปในตลาดร้านอาหารญี่ปุ่นที่องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) กรุงเทพฯ เผยตัวเลขล่าสุดปี 2567 พบร้านอาหารญี่ปุ่นในไทยทะลุ 5,916 ร้าน เพิ่มขึ้น 2.9% จากปีก่อน
แต่การแข่งขันที่รุนแรงส่งผลให้อัตราการเติบโตชะลอตัวลง โดยเฉพาะในกลุ่มร้านซูชิที่เคยครองแชมป์มายาวนาน ต้องพ่ายให้กับร้านอาหารญี่ปุ่นทั่วไปที่ขึ้นแท่นอันดับหนึ่งด้วยจำนวน 1,439 ร้าน
อีกหนึ่งสัญญาณที่น่าจับตาคือการเติบโตของร้านระดับพรีเมียมที่มีราคาเฉลี่ยต่อหัวมากกว่า 1,000 บาท ซึ่งมีอัตราการเติบโตสูงถึง 13.9% สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคชาวไทยพร้อมจ่ายแพงขึ้น เพื่อประสบการณ์การรับประทานอาหารญี่ปุ่นที่ดีกว่า
ตัวร้านวางให้อยู่ในกลุ่มพรีเมียมแมส ซึ่งจะมีให้เปิดทั้งจองออนไลน์ประมาณ 70-75% ของที่นั่ง โดยแบ่งออกเป็น 6 รอบและ Walk-in ในส่วนที่เหลือ โดยจะมีช่วงพัก 15:30-17:00 น.
ปีนี้ Maison RORU ยังวางแผนที่จะเปิดอีกหลายสาขาในย่าน CBD ที่มีออฟฟิศและคนอยู่อาศัยที่มีไลฟ์สไตล์การกินที่เหมาะกับร้าน โดยคาดว่าจะไปเปิดในดุสิตเซ็นทรัลพาร์ค, ย่านราชประสงค์ และชิดลม เป็นต้น
“ความท้าทายของ Maison RORU คือเป็นร้าน Hand Roll ที่ไม่ถือว่าเป็นเรื่องใหม่สำหรับบ้านเรา มีคู่แข่งที่เห็นได้ในทุกราคา” อัจฉราระบุ “แต่เราอยากให้ลูกค้าที่เดินเข้าร้านได้ประสบการณ์ที่แตกต่างกับบรรยากาศของร้าน เมนูที่แตกต่าง และอยากเห็นคนเต็มร้านในทุกๆ วัน”
อย่างไรก็ตาม ปีนี้นอกจาก Maison RORU อัจฉราวางแผนที่จะเปิดร้านใหม่อีก 2 แบรนด์ ได้แก่ อาหารไทยที่จะเป็นคนละลายเซ็นกับ ‘กับข้าวกับปลา’ โดยจะมีอาหารจานเดียวด้วย คาดว่าจะเปิดในเดือนกรกฎาคมนี้ และมีร้านอาหารตะวันตกอีก 1 ร้าน ซึ่งจะเป็นร้านรูปแบบไหนนั้น โปรดอดใจรอจนกว่าวันที่ร้านจะเปิดตัว!