Maersk บริษัทขนส่งทางเรือที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นหนึ่งในมาตรวัดสถานการณ์การค้าโลก ออกโรงเตือนว่า สถานการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกนับต่อจากนี้อยู่ในขั้นน่าเป็นห่วง หลังจากมีสัญญาณบ่งชี้ชัดเจนว่าเศรษฐกิจโลกกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย ฉุดความต้องการบริโภคในตลาดโดยรวม ส่งผลต่อรายได้ของบรรดาบริษัททั้งหลายทั่วโลก
ความเห็นดังกล่าวของ Maersk มีขึ้นระหว่างที่บริษัทเปิดเผยผลประกอบการในไตรมาส 3 ซึ่งสามารถทำรายได้มากกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินกันไว้ก่อนหน้า โดยกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) อยู่ที่ 1.09 หมื่นล้านดอลลาร์ มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ 9.8 พันล้านดอลลาร์ และเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้ากว่า 60%
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เศรษฐกิจโลก กำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย แต่มี 7 ปัจจัย ที่รอบนี้แตกต่างจากวิกฤตการเงินปี 2008
- เปิด 5 สัญญาณอันตรายเศรษฐกิจ บ่งชี้โลกเสี่ยงเผชิญภาวะถดถอย
- นักเศรษฐศาสตร์ฟันธง เงินเฟ้อ ทั่วโลกผ่านจุดพีค แต่จะไม่กลับไปต่ำเท่ากับช่วงก่อนโควิด
ขณะที่ในส่วนของกำไรตลอดทั้งปี ทาง Maersk ประเมินว่าบริษัทน่าจะทำกำไร EBITDA พื้นฐานที่ 3.7 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยมีกระแสเงินสดหมุนเวียนสภาพคล่องบริษัทสูงกว่า 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์
Soren Skou ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Maersk กล่าวว่า ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมในปีนี้ได้รับแรงหนุนจากอัตราค่าระวางสินค้าทางเรือที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าค่าระวางเรือได้พุ่งขึ้นถึงจุดสูงสุดแล้ว และจะเริ่มกลับเป็นปกติในไตรมาส 4/22 ท่ามกลางอุปสงค์ที่ลดลงและความแออัดของห่วงโซ่อุปทานที่เริ่มคลี่คลาย
ทั้งนี้ Skou คาดการณ์ในเบื้องต้นว่า รายได้ของ Maersk จะปรับตัวลดลงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยมีปัจจัยฉุดรั้งเศรษฐกิจโลกไม่ให้ขยายตัวเติบโต ทั้งสงครามในยูเครน วิกฤตพลังงานในยุโรป อัตราเงินเฟ้อ และแนวโน้มการเกิดภาวะถดถอยทั่วโลก
แถลงการณ์ของ Skou ระบุว่า ปัจจัยถ่วงข้างต้นส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค และกระทบต่อความต้องการด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ทั่วโลก โดยแม้จะคาดว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกจะนำไปสู่ตลาดขนส่งทางเรือที่อ่อนแอลง แต่ผู้บริหารของ Maersk ยืนยันหนักแน่นว่าจะยังคงไล่ตามโอกาสการเติบโตภายในธุรกิจโลจิสติกส์ต่อไป
ก่อนหน้านี้ ในรายงานผลประกอบการของบริษัทประจำไตรมาส 2 Maersk ระบุว่า อุปสงค์คอนเทนเนอร์ขนส่งสินค้าทั่วโลกกำลังชะลอตัวลง ท่ามกลางความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่อ่อนตัวลงและปัญหาความแออัดของห่วงโซ่อุปทาน
เมื่อวานนี้ (2 พฤศจิกายน) Maersk ประเมินว่า ความต้องการตู้คอนเทนเนอร์ทั่วโลกน่าจะหดตัวลงระหว่าง 2-4% ในปี 2022 ลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้จาก +1% เป็น -1% โดยสังเกตว่าอัตราค่าระวางและเช่าเหมาลำลดลงในไตรมาสที่ 3 เนื่องจากความต้องการบริโภคสินค้าที่ลดลงและสถานการณ์โควิดในจีนที่เริ่มคลี่คลาย จนกระทั่งมีการคลายข้อจำกัดลง
อย่างไรก็ตาม รายงานระบุอีกว่าหุ้นของ Maersk ในตลาดยุโรปปรับตัวลดลง 6%
อ้างอิง: