วานนี้ (10 มิถุนายน) กระทรวงเกษตรและป่าไม้ของลาวรายงานว่า โคและกระบือจาก 126 หมู่บ้าน ใน 7 จังหวัดของ สปป.ลาว ติดเชื้อโรคลัมปี สกิน (Lumpy Skin Disease) มากกว่า 11,000 ตัว โดยมีโคและกระบือตายจากโรคนี้แล้วมากกว่า 100 ตัว และได้รับการรักษามากกว่า 8,000 ตัว
จังหวัดคำม่วน ซึ่งอยู่ห่างจากนครหลวงเวียงจันทน์ของ สปป.ลาว ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 250 กิโลเมตร เป็นพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดขนาดใหญ่ที่สุด โดยตรวจพบสัตว์ติดเชื้อ 5,100 ตัว และตาย 60 ตัว
โรคลัมปี สกิน เป็นเชื้อไวรัสที่แพร่กระจายในหมู่โคและกระบือ แต่ไม่สามารถแพร่เชื้อสู่คนได้ โดยสามารถติดต่อผ่านการสัมผัสโดยตรง เช่น การกินอาหารที่ปนเปื้อน การอยู่ใกล้ชิดกับฝูงสัตว์ด้วยกัน และการสัมผัสกับสัตว์ที่ติดเชื้อ
หนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ ไทมส์ อ้าง วิไลพอน วอระพิม อธิบดีกรมปศุสัตว์และประมง สังกัดกระทรวงเกษตรและป่าไม้ รายงานว่า เชื้อไวรัสดังกล่าวยังสามารถติดต่อทางอ้อมจากแมลงดูดเลือดและยุงได้อีกด้วย โดย สปป.ลาว ตรวจพบการแพร่ระบาดของโรคตั้งแต่กลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา
กรมปศุสัตว์และประมงได้ออกคำแนะนำป้องกันการแพร่กระจายของโรคในพื้นที่ที่ไม่ติดเชื้อและแนะนำวิธีดูแลปศุสัตว์ในพื้นที่ติดเชื้อ พร้อมทั้งสั่งห้ามนำเข้า ส่งออก และขนส่งโคและกระบือระหว่างหมู่บ้าน อำเภอ จังหวัด และประเทศ เป็นเวลา 30 วัน ตลอดจนจัดส่งยาที่จำเป็นไปยังพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ
ขณะเดียวกัน เกษตรกรเลี้ยงสัตว์ต้องดูแลโคและกระบือ และปฏิบัติตามคำแนะนำของหน่วยงานท้องถิ่น เพื่อป้องกันสัตว์ติดเชื้อโรคดังกล่าว ทั้งยังควรเฝ้าระวังกลุ่มโคและกระบือที่กินอาหารร่วมกัน และคุ้มกันไม่ให้แมลงดูดเลือดกัดโคและกระบือ เนื่องจากสามารถแพร่กระจายเชื้อโรคได้
นอกจากนี้ยังจำเป็นต้องมีการควบคุมป้องกันไม่ให้ฝูงสัตว์ที่ไม่ติดเชื้อล้มป่วย และใช้ความระมัดระวังหากต้องการกำจัดแมลงดูดเลือดโดยใช้ยาฆ่าแมลง
อนึ่ง โรคลัมปี สกินถูกตรวจพบในแอฟริกา ตะวันออกกลาง และยุโรปตะวันออก เมื่อปี 2020 และในประเทศประเทศไทยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
อ้างอิง:
- สำนักข่าวซินหัว
