×

ลอยกระทง 2023 ยังคงเสน่ห์ในสายตาทั่วโลก ‘กรุงเทพฯ-เชียงใหม่-ภูเก็ต’ ครองอันดับปลายทางยอดนิยม หอการค้ามองดึงเศรษฐกิจไทยพ้นปากเหว ดีขึ้นในรอบ 8 ปี

26.11.2023
  • LOADING...
Airbnb

ประเพณีลอยกระทง ยังคงเป็นการเริ่มต้นฤดูท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในช่วงปลายปีของไทย ซึ่งปีนี้หากดูจากรายงาน Airbnb แพลตฟอร์มจองห้องพักระดับโลก พบว่า นอกจากกรุงเทพฯ, เชียงใหม่, ภูเก็ต ยังมีพัทยา, พะงัน และกระบี่ มียอดจองคึกคัก ส่วนนักท่องเที่ยวชาวจีนค้นหาห้องพักมากสุด 88% ขณะที่หอการค้าประเมินว่าเทศกาลลอยกระทงปีนี้เงินสะพัด 10,000 ล้านบาท และเป็นปีที่ถือว่าดีขึ้นในรอบ 8 ปี เชื่อช่วยให้เศรษฐกิจไทยพ้นปากเหว และคาดว่าจะฟื้นตัวเต็มที่ในช่วงครึ่งหลังของปี 2567

 

ข้อมูลจาก Airbnb ระบุว่า ยอดการค้นหาที่พัก Airbnb ของนักท่องเที่ยวต่างชาติช่วงลอยกระทงในประเทศไทย วันพรุ่งนี้ (27 พฤศจิกายน) เพิ่มขึ้น 17% โดยกรุงเทพมหานครเป็นจุดหมายปลายทางที่มีผู้จองมากที่สุดอันดับ 1 รองลงมาคือเชียงใหม่ ตามด้วยจุดหมายปลายทางริมชายหาดของไทยก็ได้รับความนิยม อย่างพัทยา, ภูเก็ต, เกาะสมุย, หัวหิน, พะงัน และกระบี่ ตามลำดับ

 

ทั้งนี้ ประเพณีลอยกระทงถือเป็นการเริ่มต้นฤดูท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในช่วงปลายปีของประเทศไทย และข้อมูลของ Airbnb สะท้อนให้เห็นว่ามีการเดินทางเพิ่มขึ้นท้ายปีอย่างมาก โดย Airbnb พบว่านักท่องเที่ยวชาวจีนค้นหาเพิ่มขึ้นประมาณ 88% ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม โดยสองเมืองที่ชาวจีนค้นหามากสุดคือภูเก็ตและกรุงเทพฯ   

 

รวมไปถึงชาวออสเตรเลียก็ต้องการหนีจากฤดูหนาวมาท่องเที่ยวไทย ซึ่งจากข้อมูลพบว่า ช่วงสองเดือนสุดท้ายของปี 2023 เพิ่มขึ้นเกือบ 16% 

 

Amanpreet Bajaj ผู้จัดการทั่วไปประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย ฮ่องกง และไต้หวัน ของ Airbnb กล่าวว่า ประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่ดึงดูดในระดับนานาชาติ จากชื่อเสียงด้านการต้อนรับนักท่องเที่ยวระดับโลก รวมถึงไฮไลต์อย่างอาหารและวัฒนธรรมไทย ชวนให้นักท่องเที่ยวมาสัมผัส

 

“ลอยกระทงเป็นประเพณีที่มีเสน่ห์ และสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก จนล่าสุดจำนวนคืนที่จองในประเทศไทยเพิ่มขึ้นมากกว่า 30% ในช่วงลอยกระทงปีนี้” 

 

ลอยกระทงปีนี้ คาดเงินสะพัด 10,000 ล้านบาท

 

ด้าน ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจ พฤติกรรมและการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงวันลอยกระทง และทัศนะต่อสถานการณ์ปัจจุบันว่า หอการค้าฯ ได้ทำการสำรวจพฤติกรรมและการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงวันลอยกระทงทั่วประเทศ พบว่า ประชาชนร้อยละ 64.3 มองว่า จะออกไปลอยและทำกิจกรรมอื่น และปีนี้บรรยากาศสนุกสนานมากกว่าปีที่ผ่านมา

 

ปัจจัยหลักเนื่องจากคนส่วนใหญ่เห็นว่าขณะนี้ภาพรวมเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิดที่ผ่านมาเริ่มน้อยลง และเห็นว่าประเทศเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศมากขึ้น ทำให้คนส่วนใหญ่กล้าออกมาท่องเที่ยว และจับจ่ายใช้สอยกันมากขึ้น รวมถึงได้รับอานิสงส์จากมาตรการต่างๆ จากภาครัฐ 

 

ส่วนสถานที่ไปลอยกระทง ส่วนใหญ่จะไปลอยตามสถานที่ที่จัดงานถึง 51.4% และนิยมลอยผ่านออนไลน์เพิ่มขึ้นจากปีก่อน อยู่ที่ 32.2% โดยกลุ่มคน Gen Z และกลุ่ม Gen Y บอกว่าจะไปลอยกระทงและไปทำกิจกรรมอื่นถึง 64.3% ในขณะที่กลุ่มที่ตอบไม่ลอยกระทงแต่ไปทำกิจกรรมอื่น คือกลุ่มคน Gen X มากถึง 29.9% ส่วนกลุ่ม Baby Boomer 31.4% ตอบว่ายังไม่แน่ว่าจะไปไหนดี

 

ธนวรรธน์กล่าวอีกว่า เทศกาลลอยกระทงปี 2566 ประเมินว่าเงินสะพัดอยู่ที่ 10,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 3.3%

 

“ลอยกระทงปีนี้ถือว่าดีขึ้นในรอบ 8 ปี และมองว่าเศรษฐกิจไทยพ้นปากเหวแล้ว ซึ่งเศรษฐกิจไทยเริ่มที่จะกลับมาฟื้นตัว และคาดว่าจะฟื้นตัวเต็มทีในช่วงครึ่งหลังของปี 2567”

 

นอกจากนี้ หอการค้าไทยฯ สำรวจทรรศนะต่อสถานการณ์ทั่วไปในปัจจุบัน ภายใต้เงื่อนไขที่จะได้รับเงินดิจิทัลวอลเล็ต ประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วยที่รัฐบาลจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการแจกเงินดิจิทัล และมากถึง 94.4% แต่แนวทางในการออก พ.ร.บ.กู้เงินเพื่อนำมาใช้ในโครงการนี้มากถึง 50.6% ไม่เห็นด้วย เพราะเป็นการก่อหนี้ระยะยาว, เป็นภาระให้คนรุ่นหลัง, คอร์รัปชันได้ง่าย และอีก 49.4% เห็นด้วย เพราะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ, ช่วยคนมีรายได้น้อย และช่วยเพิ่มกำลังซื้อ

 

อ้างอิง: 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising