Lotus Arts de Vivre แบรนด์จิวเวลรีและของแต่งบ้านชั้นสูงของไทย ร่วมกับดีไซเนอร์ชื่อดังอย่าง หมู-พลพัฒน์ อัศวะประภา แห่ง Asava Group ออกแบบไม้เท้าที่ได้แรงบันดาลใจจากสัตว์ป่าในคอลเล็กชันชื่อว่า ‘The Wild Animals’
สำหรับไม้เท้าในคอลเล็กชันนี้ Lotus Arts de Vivre ได้นำเอางานช่างศิลป์ของแบรนด์มาใช้ในการผลิต โดยมีจุดเด่นที่หัวไม้เท้าที่ออกแบบมาเป็นรูปหัวสัตว์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เสือ, สิงโต, ม้า, มังกร, นกอินทรี, เป็ด, จระเข้ และลิงในอิริยาบถต่างๆ ออกมาเป็นไม้เท้ารุ่นพิเศษทั้งหมด 15 ดีไซน์
เริ่มที่หัวไม้เท้า Lotus Arts de Vivre ได้ใช้วัสดุหลักเป็นเขี้ยวหมูป่าและเงินเป็นหลัก ประดับด้วยอัญมณีที่ช่วยเพิ่มมิติให้หัวไม้เท้า ตั้งแต่ พลอยซาโวไรท์, หินอาเกต, หินปะการังแดง, พลอยตาเสือ, หยก ส่วนด้ามไม้ยาวทำมาจากไม้หายากทั้งไม้มะฮอกกานีและไม้โซโน
พร้อมได้ 6 เซเลบริตี้ชื่อดังที่มาร่วมถ่ายทอดไม้เท้าคอลเล็กชันพิเศษนี้ผ่านนิทรรศการภาพถ่ายทั้ง นิกกี้ วอน บูเรน ทายาทคนเล็กของ รอล์ฟ วอน บูเรน ผู้ก่อตั้งแบรนด์ชาวเยอรมัน, พลพัฒน์ อัศวะประภา, เล็ก-ณพาภรณ์ โพธิรัตนังกูร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท นายเลิศปาร์ค ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด, แพร-วทานิกา ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา ดีไซเนอร์และนักธุรกิจ, บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์ และ ปอย-ตรีชฎา เพชรรัตน์
หมู พลพัฒน์ กล่าวถึงอิทธิพลที่เขาได้รับและส่งผลด้านสไตล์ของเขาว่า “เราโตมากับหนังยุค 1920 ซึ่งเป็นยุคที่เทรนด์การแต่งตัวตอนนั้นจะเป็นแนวแกสบี้ และไอเท็มที่จะต้องอยู่คู่กายตลอดก็คือไม้เท้า ในหัวของเราจึงค่อนข้างมีภาพการแต่งตัวที่เป็นแนวแดนดี้ (Dandy) ซึ่งคือการแต่งกายที่มีความพิถีพิถัน และมีรสนิยมค่อนข้างดี ทำให้เราหลงใหลในสไตล์การแต่งตัวของยุคนั้นมาก ซึ่งหากให้แนะนำการแต่งตัวเพื่อแมทช์กับไม้เท้า แนะนำว่าอาจจะส่วมสูทเรียบๆ ตัวหนึ่ง แล้วเลือกไม้เท้าที่ชอบก็จะทำให้ดูมีพลังและดูมีความพิเศษขึ้นอย่างแน่นอน”
พบกับไม้เท้าดีไซน์พิเศษจาก Lotus Arts de Vivre ได้ที่ โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพ แอท เจ้าพระยา ริเวอร์ และร้านบูทีค ชั้น 1 โรงแรม อนันตรา สยาม กรุงเทพฯ
ภาพ: Lotus Arts de Vivre
