ข้าวต้มกุ๊ยของ LonLon Local Diner มีทั้งแบบสั่งข้าวต้มหรือข้าวสวยแยกต่างหากเพื่อมากินคู่กับข้าว หรือจะออร์เดอร์เป็นเซตข้าวต้มที่มีให้บริการตลอดทั้งวันหรือแบบอิ่มได้ในเซตเดียวก็ดีเหมือนกัน และยังมีออปชันพิเศษสำหรับผู้เป็นมังสวิรัติหรือแพ้กลูเตน สามารถสั่งบางเมนูให้เชฟทำสอดคล้องความต้องการได้แบบไม่ต้องเคอะเขินหรือเกรงใจเพื่อนร่วมโต๊ะ ส่วนเครื่องดื่ม ลองสั่งไวน์เป็นแก้วหรือคราฟต์เบียร์มากินคู่กับข้าวต้มก็น่าลองเหมือนกันนะ
นราธิวาสฯ ซอย 3 พูดชื่อแค่นี้หลายคนอาจจะนึกไม่ออกว่าอยู่ช่วงไหนของสาทร แต่หากบอกว่าอยู่ไม่ไกลจากบีทีเอสช่องนนทรีก็คงร้องอ๋อ ซอยนี้แม้จะไม่ใช่ย่านเมนสตรีทของสาทร-สีลม-ช่องนนทรี แต่กลับมีร้านอาหารดีๆ ตั้งอยู่มากมาย ถ้าถามพนักงานออฟฟิศแถวนี้ก็คงรู้จักร้าน The Local Canteen ร้านฝากท้องมื้อเที่ยงที่แคบและลึกที่สุดในช่องนนทรี ซึ่งตอนนี้ก็เพิ่งทำโปรเจกต์ LonLon Local Diner ร้านข้าวต้มกุ๊ยใหม่ที่เลยจากร้านเดิมไปอีกไม่กี่ก้าว ข้างโรงแรมตรีนิตี้สีลม แต่เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งชะล่าใจเมื่อเห็นว่าเป็นร้านข้าวต้มกุ๊ย เพราะที่นี่มีดีกว่าที่คิดไว้เยอะ
มองจากด้านนอก ตอนแรกเรานึกว่าเป็นคาเฟ่เสียอีก เพราะผลักประตูเข้าไปก็มีโซนบาร์และมุมขายของฝากเล็กๆ น้อยๆ โซฟาและที่นั่งก็ช่างอบอุ่นและมีความย้อนยุคบวกกลิ่นอายสแกนดิเนเวียนิดๆ ด้วยการตกแต่งร้านที่เกิดจากไอเดียสนุกๆ ว่าหากไปขายร้านข้าวต้มที่โคเปนเฮเกนแล้วจะทำร้านในรูปแบบไหน สุดท้ายแล้วก็ตกผลึกออกมาเป็นอย่างที่เห็น จากเดิมที่ตรงนี้เคยเป็นร้านอาหารบรรยากาศมืดทึบมาก่อน ถูกรีโนเวตใหม่หมดจด เจาะช่องหน้าต่างเพื่อให้แสงธรรมชาติส่องเข้าถึง แม้ตั้งอยู่ในมุมหนึ่งของโรงแรม แต่ก็มีมู่ลี่มากั้นเพื่อความเป็นส่วนตัวและไม่จอแจเวลามีนักท่องเที่ยวเดินเข้าออกล็อบบี้
ในส่วนของบรรยากาศ โทนสีร้านและเฟอร์นิเจอร์ต่างก็ให้กลิ่นอายเรโทรผสมความเป็นไดเนอร์หรือร้านอาหารที่เปิดดึกหรือเปิดตลอด 24 ชั่วโมงในอเมริกา ขณะเดียวกันก็มีลูกเล่นเป็นลอนสังกะสีตามเสาและผนังร้าน ซึ่งชื่อร้าน LonLon ก็มาจากลอนสังกะสีนี่เอง นั่งมุมไหนก็ถ่ายรูปขึ้นทั้งนั้น อัพสตอรีเมื่อไรต้องมีคนทักถามว่าที่ไหนแน่นอน
ถามว่าทำไมถึงเป็นคอนเซปต์ขายข้าวต้มกุ๊ย ก็เพราะว่าข้าวต้มกุ๊ยเป็นอาหารแนวคอมฟอร์ตฟู้ดที่อยู่คู่สังคมไทยมานาน ไม่ว่าจะเป็นแรงงานหาเช้ากินค่ำหรือเศรษฐีขับเบนซ์ต่างก็มีประสบการณ์ร่วมกับการนั่งกินข้าวต้มกุ๊ยริมทางในยามค่ำคืน จะเป็นการขับรถออกต่างจังหวัดแล้วแวะพักระหว่างทาง เที่ยวจนผับปิด ทำงานดึกๆ ดื่นๆ ไฟลต์ดึกเพิ่งจะแลนดิ้ง หรือแม้แต่การเพิ่งกลับมาจากงานศพ คนไทยก็มักจะแวะกินข้าวต้มกุ๊ยก่อนกลับบ้านเสมอ ถ้าจะเรียกร้านข้าวต้มกุ๊ยว่าเป็นไทยไดเนอร์ก็คงไม่ผิด เพราะหลายร้านก็ตั้งโต๊ะขายกันตั้งแต่บ่ายยันรุ่งสาง แต่สิ่งที่เป็นจุดด้อยของร้านข้าวต้มกุ๊ยริมทางก็คือเรื่องความสะอาดและบรรยากาศ ด้วยความที่อากาศประเทศไทยร้อนเป็นทุนเดิม การกินข้าวต้มร้อนๆ และกับข้าวรสจัดจ้านก็ดูจะไม่ค่อยแฮปปี้เท่าไรนัก หรือความสะอาดและสุขอนามัยที่หากไปกินร้านแนวนี้ก็อาจต้องมองข้าม แล้วทำไมเราจึงไม่มีร้านอาหารติดแอร์เย็นฉ่ำ บรรยากาศชิคๆ ที่ขายข้าวต้มกุ๊ยพร้อมกับข้าวรสจัดจ้านแบบสตรีท แถมยังมีให้บริการทั้งวัน เผื่อใครไม่อยากออกดึก
เพื่อเป็นไอเดียสำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจว่ามาที่นี่จะกินอะไรดี เราแนะนำ เซตผัดผักคะน้า หมูสามชั้นทอดน้ำปลา ไข่พะโล้เต้าหู้ดำ (155 บาท) กับข้าวสองอย่างมาพร้อมกันในถาด ผักคะน้าสดกรอบมาก ยิ่งได้หมูสามชั้นทอดน้ำปลาร้อนๆ มากินคู่กัน เราว่านอกจากข้าวต้มแล้ว กินแกล้มเบียร์ก็ดูน่าอร่อย ส่วนไข่พะโล้เต้าหู้ดำรสชาติเบากำลังดี แถมมีเกี่ยมฉ่ายน้ำมันงาถ้วยเล็กให้กินแก้เลี่ยน และถ้าเลือกเซตแบบนี้ไม่ต้องสั่งข้าวเพิ่มแล้ว เพราะในเซตมาพร้อมข้าวสวยหรือข้าวต้มใบเตยให้เรียบร้อย
หากมาคนเดียวแล้วอยากกินปูนิ่มผัดพริกเกลือ โดยปกติร้านอาหารทั่วไปมักจะมาเป็นกับข้าว แถมราคาก็ไม่เบา แต่ไม่ใช่ปัญหาสำหรับที่นี่ เพราะมีให้เลือกเป็นเซตเมนูเช่นกัน อัปเกรดขึ้นอีกนิดจากกับข้าวธรรมดาก็จะได้ เซตปูนิ่มผัดพริกเกลือ ไข่พะโล้เต้าหู้ดำ (195 บาท) ได้กินสมใจอยาก
ถ้าเซตข้าวต้มกินไม่พอก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะยังมีกับข้าวให้สั่งเพิ่มได้อีกหลายสิบอย่าง หากเป็นคนชอบกินเผ็ดและรสจัดจ้านกันอยู่แล้ว ห้ามพลาด ต้มแซ่บพะโล้น่องเป็ด (165 บาท) เมนูลูกผสมระหว่างต้มแซ่บกับน่องเป็ดพะโล้ที่นอกจากจะได้รสเปรี้ยวแซ่บและเผ็ดถึงทรวงแล้วก็ยังมีน่องเป็ดเนื้อนุ่มตุ๋นอย่างดีมาให้กินพร้อมซดน้ำซุปให้หายสร่างจากงานที่เหนื่อยมาทั้งวัน
หรือจะเป็น ผัดพริกแห้งก้านเห็ดกับถั่วแขก (145 บาท) บางทีเมนูพื้นๆ นี่ล่ะที่กินกี่ทีก็อร่อยทุกครั้ง ถั่วแขกกรุบกรอบ รสเค็มหน่อยๆ คีบกินตัดรสเผ็ดจากต้มแซ่บ
เสริมอีกจานคงต้องเป็น ปลากะพงทอดราดพริกสด (285 บาท) ธรรมดาร้านอื่นมักจะขายเมนูนี้กันแบบปลาทั้งตัว ถ้าไปกันไม่กี่คนกินไม่หมดแน่นอน แต่ไม่ต้องกังวล เพราะที่นี่เสิร์ฟมาไซส์กำลังดี จะสั่งกับข้าวมาเป็นสิบอย่างก็ไม่จุก
ของหวานที่ LonLon Local Diner ขอบอกว่าไม่ธรรมดาเหมือนกัน ใครจะไปเชื่อว่าไอศกรีมกะทิจะสามารถใส่ลูกเล่นให้มีอะไรมากกว่าที่คิดได้ ดูอย่างถ้วยนี้ ไอศกรีมกะทิงาดำส้มสด (155 บาท) ที่นำไอศกรีมกะทิมาเบลนด์กับงาดำ ความขมและหอมของงาตัดรสหวานมันและเค็มของกะทิได้แบบพอดิบพอดี ไม่ใช่เท่านี้ บนไอศกรีมยังมีเปลือกส้มขูดให้กินพร้อมกับไอศกรีมเพื่อตัดเลี่ยน กินแล้วได้กลิ่นหอมของส้มและรสขมจากผลไม้ตระกูลซิตรัสแบบที่เจอในค็อกเทล และอย่าลืมกินส้มสดที่เสียบมาในถ้วยไอศกรีมด้วยล่ะ
อีกถ้วย ไอศกรีมกะทิโฮจิฉะ (155 บาท) เอาใจคนรักชาเขียว แม้เบสจะยังเป็นไอศกรีมกะทิ แต่ครั้งนี้เปลี่ยนจากเบลนด์งาดำมาเป็นโฮจิฉะ ชาเขียวคั่วหอมๆ ชั้นเลิศจาก Peace Oriental Teahouse ผสมในไอศกรีมจนเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน รสชาติได้ทั้งความมันและหอมเป็นเอกลักษณ์ มี Cacao Nibs ขูดมาบนไอศกรีม ส่วนฐานล่างไอศกรีมมีเฉาก๊วยเหนียวหนึบ ตักกินพร้อมกันทุกส่วนเพื่อความฟิน
What You Should Know:
- นอกจากข้าวต้มกุ๊ยแล้ว ก่อนเช็กบิลออกจากร้านอย่าลืมสั่งไอศกรีมกะทิขึ้นชื่อของร้าน เพราะนอกจากเมนูไอศกรีมกะทิพื้นฐานยังมีไอศกรีมกะทิเมนูพิเศษเฉพาะที่ร้านเท่านั้น โดยเฉพาะไอศกรีมกะทิงาดำส้มสด ไอศกรีมกะทิโฮจิฉะ และไอศกรีมกะทิเค็ม คาราเมลซอส
LonLon Local Diner
Open: ทุกวัน เวลา 12.00-14.30 น. และ 17.30-22.00 น.
Address: Trinity Hotel ซอยนราธิวาสราชนครินทร์ 3
Budget: 200-500 บาท
Contact: 09 7078 5710
Page: www.facebook.com/lonlonlocaldiner
Map: