วันนี้ (27 พฤษภาคม) ที่อาคารอนาคตใหม่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า แถลงข่าวกรณีการรับสมัครสมาชิกวุฒิสภา ที่ล่าสุดศาลปกครองมีคำสั่งเพิกถอนระเบียบการแนะนำตัวผู้สมัคร สว. ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ในส่วนการแนะนำตัวผู้สมัครไม่เกิน 2 กระดาษ A4 และการให้ผู้สมัครที่เป็นสื่อหรือศิลปินไม่ใช้ความสามารถเอื้อในการแนะนำตัว
โดยเรียกร้องไปยัง กกต. ให้มีความชัดเจนต่อคำสั่งศาลปกครอง ดังนี้
- ขอเรียกร้องให้ กกต. ออกระเบียบใหม่โดยทันที และระเบียบใหม่นั้นต้องสอดคล้องกับคำสั่งศาลปกครอง
- ขอเรียกร้องให้ กกต. ประกาศเจตนารมณ์ว่าจะไม่อุทธรณ์คำสั่งของศาลปกครองนี้ เพราะหาก กกต. ทำตามข้อเรียกร้องนี้ ผู้สมัครจะสามารถแนะนำหรือนำเสนอตัวเองได้ในเนื้อหาที่กว้างขึ้น ผู้สมัครจะแนะนำและประชาสัมพันธ์ตัวเองได้ผ่านโซเชียลมีเดีย ซึ่งจะทำให้ช่องทางในการสื่อสารกว้างขึ้น ง่ายขึ้น ทำให้ผู้สมัครมีอำนาจ มีข้อมูลในการตัดสินใจมากขึ้น และการตัดสินใจเลือกผู้สมัครมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ประชาชนจะได้ช่วยตรวจสอบ เนื่องจากตามระเบียบเดิมของ กกต. ประชาชนและสื่อมวลชนไม่มีส่วนร่วมในการเลือก สว. ครั้งนี้เลย ทั้งๆ ที่ สว. เป็นสถาบัน เป็นองค์กรที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาการเมืองไทย
ดังนั้นถ้าปลดล็อกคำสั่งนี้แล้ว และ กกต. ไม่ยื่นอุทธรณ์ ประชาชนจะเข้าถึงข้อมูลมากขึ้น ง่ายขึ้น รวมถึงสื่อมวลชนด้วย ทั้งสังคมจะได้ประโยชน์ และร่วมกันตรวจสอบ ร่วมกันติดตามกระบวนการเลือก สว. ครั้งนี้ เรียนรู้และเติบโตไปด้วยกัน อันจะส่งผลให้สุขภาพของประชาธิปไตยดีขึ้น
เรื่องที่ 2 การเชิญชวนผู้สมัคร วันนี้ กกต. ได้ทำเว็บไซต์และแอปพลิเคชันที่ชื่อว่า SMART VOTE เรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีข้อมูลของผู้สมัครทุกอาชีพ ทุกอำเภอทั่วประเทศ จึงอยากจะเชิญชวนผู้สมัครทุกคนเข้าไปตรวจสอบและศึกษาข้อมูลของผู้สมัครในอำเภอตัวเอง ศึกษาข้อมูลของทั้งกลุ่มที่ตัวเองลงสมัครและกลุ่มอื่น เพื่อทำการบ้านล่วงหน้า เพราะการลงคะแนนค่อนข้างสำคัญมากต่อการคัดเลือกผู้ที่มีความเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่ง สว.
เรื่องที่ 3 เชิญชวนพ่อแม่พี่น้องประชาชน เนื่องจากตามระเบียบฉบับนี้ของ กกต. กีดกันประชาชนจำนวนมากออกจากการเลือก สว. ครั้งนี้ คนที่มีทุนทรัพย์ 2,500 บาท เป็นค่าสมัครที่แพงเกินไป คนที่มีอายุไม่ถึง 40 ปี ก็ไม่มีคุณสมบัติในการลงสมัคร ทำให้ไม่สามารถมีส่วนร่วมในการเลือก สว. ครั้งนี้ได้เลย
แต่อย่างน้อยที่สุดวันนี้ กกต. ก็เปิดโอกาสให้ประชาชนเป็นผู้สังเกตการณ์การเลือก สว. ในแต่ละระดับได้ ตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายนนี้ ใกล้อำเภอไหนไปอำเภอนั้น ลองไปที่สำนักงานเขตของท่านดู ไปติดตามการเลือก สว. ของท่านดูว่ากระบวนการเลือก สว. ทำอย่างไร เพราะการไปนั่งติดตามสังเกตการณ์จะทำให้สิ่งที่ไม่ถูกต้องหรือแทรกแซงกระบวนการเลือก สว. เป็นไปได้ยากขึ้น เช่น การไปซื้อเสียง การจ้างหน้างาน หากมีคนตรวจสอบก็จะทำได้ยากขึ้น และจะทำให้ผู้ที่คิดจะทำกังวลใจมากขึ้น
“เหตุผลที่เรารณรงค์ สว. ประชาชนตั้งแต่ครั้งแรก เราต้องการให้มี สว. คุณภาพ สว. ที่มีอุดมการณ์ สว. ที่เข้าไปดำรงตำแหน่งแล้วไม่ขายเสียงตัวเองในการโหวตครั้งสำคัญๆ เพื่อให้ประชาธิปไตยของไทยพัฒนาต่อไปได้” ธนาธรกล่าว
ทั้งนี้หากพบความผิดปกติของการเลือก สว. สามารถแจ้ง We Watch ได้ที่สายด่วน โทร. 0 2114 3189
ธนาธรยังเผยว่าเห็นร่องรอยความผิดปกติหลายอย่าง เช่น การจัดตั้งหรือการฮั้ว แต่ไม่มีหลักฐานชัดเจน ทำได้เพียงตั้งข้อสังเกตว่ามีการเกณฑ์คนหรือจ้างวานคนเพื่อผลักดันให้เข้ารอบเลือก สว. หรือไม่ จึงย้ำให้มีการตรวจสอบข้อมูลโดยกว้างขวาง เพื่อจะทำให้การเลือก สว. ครั้งนี้เป็นธรรม
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าผู้สมัครบางคนเป็นผู้มีอิทธิพลทางการเมือง หรือเป็นตัวแทนการเมืองบางฝ่าย หรือกระทั่งอดีตนายกรัฐมนตรี ทำให้กระบวนการเลือกไม่ชอบมาพากลหรือไม่ ธนาธรกล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องผิดที่ผู้มีอิทธิพลทางความคิด หรือบุคคลที่เคยมีตำแหน่งในรัฐบาลหรือมีตำแหน่งทางการเมืองที่ผ่านมา ลงสมัคร สว. ถือเป็นสิทธิที่สมัครได้ แต่จะผิดก็ต่อเมื่อมีการเกณฑ์คนไปลงคะแนนให้ ซึ่งมีข่าวว่าบางจังหวัดจ้างคนไปสมัคร 15,000 บาท ซึ่งส่งผลให้บรรยากาศการเลือก สว. อาจไม่ได้คนที่มีอุดมการณ์ ซึ่งหากไปขอข้อมูลกับชาวบ้านหรือประชาชนก็อาจได้รับผลกระทบ ถูกคุกคาม
สำหรับข้อสังเกตว่ากลุ่มที่มีคนมาสมัครเยอะ เช่น กลุ่มทำสวน หรือกลุ่มที่มาสมัครน้อย เช่น กลุ่มสื่อมวลชน จะทำให้การแข่งขันเข้มข้นหรือไม่ ธนาธรอธิบายว่า ภาพสุดท้ายจะมี สว. ที่มาจากชาวนา 10 คน หรือ สว. ที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ 10 คน หรือตัวแทนกลุ่มต่างๆ กลุ่มละ 10 คน แม้กลุ่มใดจะมีคนมาสมัครมากกว่า แต่กระบวนการเลือกท้ายที่สุดก็เหลือกลุ่มละ 10 คน ซึ่งการแข่งขันในแต่ละกลุ่มก็ไม่เท่ากัน ปัญหาสำคัญคือความไม่สมเหตุสมผลในการแบ่งกลุ่มอาชีพเช่นนี้
“ดังนั้นจึงกลับมาที่ปรัชญาหลักของการออกแบบการเลือก สว. ว่าไม่สมเหตุสมผลตั้งแต่ต้น เพราะโดยธรรมชาติคาดเดาได้ว่ากลุ่มสื่อมวลชน กลุ่มอุตสาหกรรม กลุ่มวิทยาศาสตร์จะน้อย เพราะคนที่ทำวิชาชีพนี้น้อยกว่าเยอะมาก” ธนาธรกล่าว
พร้อมให้ข้อสังเกตว่า ในการเลือกระดับอำเภอ หากบุคคลต้องการเข้าไปเป็น สว. ก็จะต้องให้คะแนนตนเอง ส่วนคนที่ไม่ต้องการเป็นแต่ต้องการเลือกคนที่มีอุดมการณ์ก็จะเลือกคนอื่นทั้งสองใบ ดังนั้นรอบแรกในระดับอำเภอเชื่อว่าทุกคนมีหมายเลขในใจว่าจะเลือกใคร ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือรอบเลือกไขว้ ซึ่งแต่ละกลุ่มสาขาอาชีพก็ไม่ได้รู้จักคนในกลุ่มอาชีพอื่น จึงเชื่อว่าการเลือกในระดับอำเภอและระดับจังหวัดจะพบปัญหามากกว่า แต่การเลือกระดับประเทศจะสามารถเลือกคนที่มีคุณภาพได้ง่ายขึ้น
“เพราะระดับประเทศ ผู้สมัครแต่ละคนมีคะแนนเยอะ ทำให้มีโอกาสจะเลือกคนที่มีความน่าเชื่อถือทางสังคมผ่านเข้าไปได้ เพราะอาจมีคะแนนเหลือที่จะเลือกคนที่มีความน่าเชื่อถือ” ธนาธรกล่าว
อัปเดตข่าวล่าสุด เลือก สว. 2567 เกาะติดผลการเลือก สว. ได้ที่ https://thestandard.co/thai-senate-election-2024/, Facebook : THE STANDARD และ YouTube : THE STANDARD
