ถึงวันนี้ ‘ลิสเตอรีน’ จะทำตลาดในไทยมานานกว่า 54 ปี ถึงเวลาเปลี่ยนจุดโฟกัสลบภาพจำในอดีตที่เน้นสร้างลมหายใจสดชื่น แต่จากนี้จะเน้นสื่อสารการขจัดแบคทีเรีย ดูแลสุขภาพช่องปากระยะยาว โดยมีเป้าหมายให้สินค้าเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันผู้บริโภคทุกครัวเรือน
ชวีนา จิตรสมบูรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ลิสเตอรีน ประเทศไทย กัมพูชา สปป.ลาว และเมียนมา กล่าวว่า จากการศึกษาตลาดทั่วประเทศพบว่า ประชากรมากกว่า 1 ใน 3 ของโลกต้องทนอยู่กับปัญหาฟันผุโดยไม่ได้รับการรักษา ขณะที่คนไทยที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไปประมาณ 20% ต้องเผชิญกับโรคเหงือกอักเสบหรือโรคปริทันต์ โดย 6.6% ของคนกลุ่มนี้จะต้องสูญเสียฟันหมดทั้งปากเมื่ออายุครบ 20 ปี
ถึงแม้จะมีการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันวันละ 2 ครั้ง แต่กลับพบว่าในกลุ่มวัยรุ่นอายุ 15 ปี มีเพียง 4.3% เท่านั้นที่ใช้ไหมขัดฟันในการทำความสะอาด ส่วนผู้ใหญ่อายุ 35-44 ปี เพียง 14.7% ที่ใช้ไหมขัดฟัน รวมถึงโรคฟันผุที่ส่งผลกระทบต่อคนอายุ 35-44 ปี มากถึง 91.8% สะท้อนถึงปัญหาสุขภาพช่องปากในระยะยาว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ชาไข่มุก: จากแผงลอยริมทางไต้หวัน สู่ปรากฏการณ์ระดับโลกที่อาจไม่หวานชื่นสำหรับนักลงทุน
- 7 แบรนด์ EV จีน กางแผนซื้อชิ้นส่วนในประเทศ ดึงผู้ผลิตไทยเข้าสู่ ‘สมรภูมิใหม่’ อุตสาหกรรมยานยนต์
- พนักงาน Singapore Airlines เฮ! รับโบนัส 7.94 เดือน หลังทำกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์กว่า 7.2 หมื่นล้านบาท
ขณะเดียวกันปัจจุบันคนไทยใช้น้ำยาบ้วนปากถึง 30% ถือว่าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ถ้าเทียบกับอเมริกายังน้อยกว่าค่อนข้างมาก จากเดิมแล้วแบรนด์จะเน้นสื่อสารการตลาดเรื่องใช้แล้วลมหายใจสดชื่น แต่จากนี้ลิสเตอรีนเปลี่ยนการสื่อสารเน้นเรื่องฟังก์ชันนัลอย่างจริงจัง ย้ำให้เห็นถึงความสำคัญในการใช้ผลิตภัณฑ์น้ำยาบ้วนปากเพื่อรักษาสุขภาพช่องปาก
ที่สำคัญยังจัดงาน LISTERINE LABS เปิดให้ KOL เยี่ยมชมโรงงานและศูนย์วิจัยพัฒนาสินค้าของลิสเตอรีน ซึ่งผลิตโดย บริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (ไทย) จำกัด นับว่าเป็นครั้งแรกที่เราตั้งใจให้ KOL เข้ามาเห็นจุดแข็งของผลิตภัณฑ์ และจะช่วยสื่อสารแบรนด์ไปถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างครอบคลุม
ทั้งนี้ เราเป็นผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากและฟันในไทย ที่ประกอบไปด้วย ยาสีฟัน แปรงสีฟัน และอุปกรณ์ทำความสะอาด มีมูลค่าอยู่ที่ 1.8 หมื่นล้านบาท มีแนวโน้มเติบโตไปในทิศทางที่ดี แน่นอนว่าตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันการแข่งขันสูงขึ้น มีทั้งผู้เล่นทั้งในและต่างประเทศเข้ามาเคลื่อนไหวตลาดด้วยการออกสินค้าใหม่ๆ
“ความท้าทายก็คือจริงๆ แล้วแบรนด์โลคัลสามารถปรับตัวตามเทรนด์คอนซูเมอร์ได้เร็วและมีราคาถูกกว่า แต่พฤติกรรมผู้บริโภคจะตัดสินใจซื้อสินค้าจากแบรนด์มากกว่าเรื่องราคา”
สำหรับ ลิสเตอรีน เราเป็นโกลบอลแบรนด์พรีเมียม ด้วยจุดแข็งของ R&D พยายามคิดค้นนวัตกรรมและสินค้าใหม่ๆ ในปีที่ผ่านมามีเปิดตัวสินค้าใหม่ 3 รายการ ขนาดโปรดักต์ตอบโจทย์ทั้งการใช้ในบ้านและขนาดพกพา และในครึ่งปีหลัง 2567 ก็จะมีการออกสินค้าใหม่ต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เสียโอกาสในการขาย
