×

ฟังทุกเรื่องที่ ‘ตาม ชุดารี’ แชมป์ Top Chef Thailand คนแรกอยากจะเล่า

14.07.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

7 mins read
  • เชฟตาม-ชุดารี เทพาคำ เป็นผู้เข้าแข่งขันที่อายุน้อยที่สุดด้วยวัยเพียง 24 ปี และเพิ่งคว้าแชมป์จากรายการทำอาหารลิขสิทธิ์จากอเมริกาอย่าง Top Chef Thailand ทางช่อง ONE 31
  • จุดเริ่มต้นของตามในการเป็นเชฟ เดิมเป็นหญิงสาวนักกีฬา ก่อนจะเบนสายมาเรียนทางด้านโภชนาการ และเกิดไปตกหลุมรักบรรยากาศในครัวขณะฝึกงาน เพราะเธอบอกว่ามันเหมือนอยู่ในสนามแข่งขันกีฬาที่มีเรื่องของความสามารถและเวลามากดดัน
  • เธอไม่ได้เป็นคนซีเรียสกับอาหารการกินของตัวเอง เธอชอบกินขนมไทยอย่างขนมบ้าบิ่น และข้าวเหนียวเผือกมาก

     เป็นช่วงเวลาแสนอร่อยของผู้บริโภคหลังจอตู้ ที่รายการเกี่ยวกับการ ‘ทำอาหาร’ เกิดฮิตและเป็นที่นิยมของผู้ชมมากขึ้น เพราะนอกจากรายการ เชฟกระทะเหล็ก ที่อยู่ตัวมา 5 ปีกว่าแล้ว ในช่วงครึ่งแรกของปี 2560 ที่ผ่านมา เรายังได้ชม Top Chef Thailand ที่เพิ่งจะจบซีซันไปหมาดๆ รวมไปถึงความดราม่าที่ละครหลังข่าวเรียกพ่อของรายการ MasterChef Thailand อีกด้วย

     Top Chef Thailand เป็นหนึ่งรายการที่ผู้ชมพูดถึงกันอยู่บ่อยๆ ในช่วงเวลาก่อนหน้านี้ โดยเป็นรายการที่ทางช่อง ONE 31 ซื้อลิขสิทธิ์มาจากประเทศสหรัฐอเมริกา รายการสนุกด้วยความเข้มข้นของการแข่งขันที่ดู ‘จริงจัง’ และโจทย์ที่สนุกสนานท้าทายความสามารถสุดๆ รวมไปถึงเสน่ห์ของผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนที่มีคาแรกเตอร์เด่นชัด น่าติดตามและเอาใจช่วยอยู่ในทุกๆ ตอน

     และหนึ่งในผู้เข้าแข่งขันที่อายุน้อยที่สุดด้วยวัยเพียง 24 ปี ตาม-ชุดารี เทพาคำ สาวรุ่นที่ดวงตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น ผู้หญิงเก่งที่มาดไม่เยอะ ฉาบใบหน้าด้วยความสดใส พร้อมมอบพลังบวกให้กับผู้ชมอยู่เสมอ และหลังจากคว้าแชมป์จากรายการมาได้หมาดๆ เราจึงถือโอกาสจับเข่าคุยกับเธอในอิริยาบถแสนสบาย พูดคุยถึงชีวิต ความชอบ และเรื่องอะไรง่ายๆ ที่เธออยากเล่า

 

 

จากสาวนักกีฬาสู่เส้นทางของการเป็นเชฟ

     ตอนแรกตามเป็นคนบ้ากีฬามาก สมัยมัธยมยังอยู่ที่เมืองไทย ตามแข่งกีฬากันเองกับเด็กไทยด้วยกัน แล้วเราก็เก่งไง (หัวเราะ) แขนยาวขายาว วิ่งเร็ว แข็งแรง คือเทียบกับคนไทยในวัยเดียวกันเราสูงกว่าพวกเขา ตามเล่นบาสเกตบอลเป็นกัปตันทีม เราเล่นได้ดี ก็รู้สึกว่า เออ เราอยากเป็นนักกีฬา เราก็เลือกไปเรียนโรงเรียนกีฬาที่เมืองนอกเลย ปรากฏว่า พอเจอฝรั่งเราสู้อะไรเขาไม่ได้เลย (หัวเราะ) ว่ายน้ำ วิ่ง เล่นบาสฯ ไม่ทันเขาสักอย่าง ก็เลยคิดว่าตัวเองต้องไปดูสายการเรียนอื่นแทนแล้ว

     และทีนี้ตอนเรียนกีฬามันก็จะมีสายโภชนาการด้วย ตามก็เลยคุยกับคุณพ่อคุณแม่ว่าจะขอไปฝึกงานที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งของเพื่อน เป็นร้านอาหารสุขภาพจ๋าเลย เราตั้งใจไปเรียนรู้เรื่องศาสตร์โภชนาการต่างๆ แต่แทนที่จะได้เรื่องโภชนาการมา ก็กลายเป็นว่าเราไปอินกับบรรยากาศในครัวแทน มันรู้สึกเหมือนอยู่ในสนามแข่งขันกีฬา มันใช่เลย เหมือนต้องใช้ความสามารถทำงานในภาวะที่มีเวลาเป็นตัวกดดัน กลายเป็นว่าตามอินกับบรรยากาศในครัวมากกว่าอะไรทั้งหมด เรียนจบมาก็ยังติดใจอยู่ เลยอยากกลับไปลองทำอะไรๆ ในครัวอีกรอบ

 

น้ำมันหมูคือนิพพาน

     ต้องบอกว่าการคิดเมนูของตาม ตามไม่เคยเอาหลักโภชนาการอะไรที่เคยเรียน หรืออะไรที่เกี่ยวกับแนวคิดเรื่องสุขภาพสมัยเล่นกีฬามาพ่วงด้วยเลยนะ แต่ส่วนใหญ่อาหารที่ตามทำ วัตถุดิบทั้งหมดมันเป็นออร์แกนิกอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเชื่อได้เลยว่ามันดีต่อสุขภาพอยู่แล้ว แต่ถ้าจะให้พูดจริงๆ อาหารของตามมันไม่เฮลตี้ขนาดนั้น อย่างเวลาทำผัดผัก ตามก็เอาไปผัดกับน้ำมันหมู คือตามจะมีมันหมู กากหมูอะไรพวกนี้ติดตู้เย็นไว้ตลอด มันเอาไปทำอะไรได้เยอะมาก ทั้งผัด ทอด ทำซอส ตามชอบน้ำมันหมูมาก เพราะมันหอมมากเวลาเอาไปทำอาหาร

“ถ้าให้พูดจริงๆ อาหารของตามมันไม่เฮลตี้ขนาดนั้น คือตามจะมีมันหมู กากหมูอะไรพวกนี้ติดตู้เย็นเอาไว้ตลอด มันเอาไปทำอะไรได้เยอะมาก ทั้งผัด ทอด ทำซอส ตามชอบน้ำมันหมูมาก เพราะมันจะหอมมากเวลาเอาไปทำอาหาร”

 

เคยกิน ‘มังสวิรัติ’ เพราะอ่านหนังสือ

     ตอนนั้นตามอ่านหนังสือเล่มหนึ่งชื่อว่า ‘Skinny Bitch’ (หนังสือโดย Kim Barnouin) ซึ่งพูดถึงอาหารต่างๆ ที่เรากิน ว่าอะไรที่อยู่ในจานของเรามันมีกระบวนการผลิตอย่างไร เราก็ขนลุก อินมาก เหมือนเปิดหูเปิดตามากว่าหมูเลี้ยงมาไม่ดีอย่างนั้น วัวที่เลี้ยงมาไม่ดีอย่างนี้ เป็นวงจรที่น่ากลัวของอุตสาหกรรมอาหารทำนองนั้น เราก็เลยเลี่ยงเลย ไม่กินเนื้อสัตว์ดีกว่า ลองดูสักครั้ง ซึ่งเป็นช่วงชีวิตที่เศร้าเหมือนกันนะ (หัวเราะ) เรากินแค่ผัก ปลา ไข่ งดของที่ทำจากนมและเนย มันเศร้ามาก แต่ว่าตามก็รู้สึกดีนะ มันกระปรี้กระเปร่า ได้รับอะไรที่เป็นผักๆ ลงไปแบบเพียวๆ เลย แต่ให้กลับไปกินคงไม่ทำอีกแน่ๆ (หัวเราะ)

 

จริตที่ไม่มีจริตของเชฟตาม

     คนมักจะคิดว่าคนเป็นเชฟ เวลาจะกินทีต้องมาดเยอะ ต้องนู่นนี่นั่น แต่จริงๆ แล้ว อย่างตามเอง ตามไม่ค่อยซีเรียสเรื่องการกินของตัวเองเท่าไรนะ เช้ากาแฟสักแก้ว แต่ตามเป็นคนกินจุกจิก และตามจะชอบกินขนมไทยอย่างขนมบ้าบิ่นและพวกข้าวเหนียวเผือกมาก

     ส่วนมื้อเย็นก็จะหนักหน่อย ตามก็กินข้าวกับแกงทั่วๆ ไป มีหมูย่างด้วย แต่การกินของตามจะแปลกๆ หน่อย คือตามจะตักกับข้าวหลายๆ อย่างมารวมๆ กันแล้วกิน น้ำแกงสักอย่างกับผัดอะไรสักอย่างมันก็จะไหลมารวมกัน ตามก็จะลองกินเพื่อหารสชาติใหม่ๆ ที่น่าสนใจไปเรื่อยๆ

 

ปลูกรักหลังบ้าน

     ตอนที่ตามกลับมาจากที่ทำงานที่นิวยอร์ก ร้านที่ตามไปทำงานอยู่เป็นร้านแบบ Farm-to-Table คือเป็นสวนผักและมีร้านอาหารตั้งอยู่ในพื้นที่ฟาร์ม สิ่งที่ตามต้องทำคือตอนเช้าไปปลูกผัก ตอนเย็นก็ไปเก็บพวกเขามาเป็นวัตถุดิบ เราได้เห็นครบทั้งวงจรการผลิต มันเป็นความรู้สึกที่ครบมาก เราได้ดูแลเขา เราได้เก็บเกี่ยวมา จนไปอยู่บนจาน เสิร์ฟไปให้ลูกค้า มันเป็นความรักที่มากกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว เพราะเราเพาะเลี้ยงตั้งแต่เริ่มต้น

     ตามก็อยากมีความรู้สึกแบบนั้นหลังจากกลับมาเมืองไทย ตามก็เลยปลูกเองเลย ปลูกอยู่หลังบ้านนั่นแหละ ตอนแรกก็ไม่ได้มีความรู้เรื่องพวกนี้สักเท่าไร เราก็เลยไปลงคอร์สเรียนปลูกผักสวนครัว อัดเสียง เลกเชอร์จนโน้ตหนังสือได้เป็นเล่มเลย (หัวเราะ) อย่างถั่วฝักยาวที่ตามปลูกเอง และนำมากินปรากฏว่ารสชาติมันดีมาก และรู้สึกว่ารสชาติจริงๆ ของสิ่งต่างๆ ที่ปลูกมันควรเป็นแบบนี้

 

“รายละเอียดที่เชฟที่ดีควรจะต้องรู้คือ ควรรู้ว่าผลิตภัณฑ์ที่ตัวเองใช้มาจากอะไร ปลูกอย่างไร มาจากไหน มันล้วนแล้วแต่เป็นรายละเอียดที่ใส่ใจแล้วมันคุ้มค่า”

 

หลากวัตถุดิบไทย หลากความตั้งใจ

     ตามเป็นคนชอบใช้วัตถุดิบไทยๆ มาทำอาหารมาก และส่วนใหญ่ตามจะนำสิ่งเหล่านั้นมาดัดแปลง ปรับปรุงให้มันถูกปาก ไม่ว่าในจานนั้นจะดูเป็นอาหารโมเดิร์นขนาดไหน แต่จริงๆ แล้วทุกอย่างเป็นวัตถุดิบจากท้องถิ่นหมดเลย ตามอยากนำเสนอวัตถุดิบไทยๆ ที่ใครก็ว่าเชยให้มันออกมาน่าสนใจ อย่างตอนนี้ตามชอบข้าวเม่ามาก ปกติข้าวเม่าก็จะอยู่แต่ในของหวาน ตอนนี้ตามก็พยายามคิดว่าจะเอามันมาทำอะไรในของคาวได้บ้าง ซึ่งมันทำให้เราได้ฝึกความคิดสร้างสรรค์ไปด้วย

     รายละเอียดที่เชฟที่ดีควรจะรู้คือ ควรรู้ว่าผลิตภัณฑ์ที่ตัวเองใช้มาจากอะไร ปลูกอย่างไร มาจากไหน หากเป็นเนื้อสัตว์ คุณควรรู้ว่ากรรมวิธีการเลี้ยงเป็นอย่างไร หมูกินอะไร ไก่กินอะไร ล้วนแล้วแต่เป็นรายละเอียดที่ใส่ใจแล้วมันคุ้มค่า ตามจะชอบไปหาวัตถุดิบจากเชียงราย เชียงใหม่ หรือถ้าใกล้ๆ กรุงเทพฯ หน่อย ก็ตลาดสุขใจ สามพราน ของดีเยอะมาก

 

 

‘No Regret’ ในแบบของเชฟตาม

     แนวคิดในการใช้ชีวิตของตามคือ อย่าเสียดาย ‘No regret’ ตามไม่ชอบคำว่าเสียดาย เรามักจะมีช่วงเวลาแบบ ‘เราน่าจะทำอย่างนั้น’ ‘ทำไมเราไม่ทำอย่างนี้’ การที่เราเสียดายที่เราไม่ได้ลองลงมือทำหรือตัดสินใจอะไรสักอย่าง มันเป็นความเสียใจที่มากกว่าเสียใจ เพราะสำหรับตาม เราคิดว่าทุกความผิดที่ทำพลาดไป มันคือการเรียนรู้ และมันจะทำให้เราเป็นคนที่เก่งขึ้น เพราะเรารู้แล้วไงว่าทำแบบนี้มันผิด ทำแบบนี้มันไม่ดี เพราะเราทำมันด้วยการตัดสินใจของตัวเราเอง

     ทุกคนต่างก็มีความฝัน และทุกๆ ความฝัน มันมีความกลัวและความหวาดระแวง ทุกอย่างมันมีผลเกี่ยวโยงกันกับทุกการกระทำของเรา เพราะฉะนั้นถ้าเราไม่ลงมือทำอะไรสักอย่าง เราจะรู้ได้อย่างไรว่ามันดีหรือไม่ดี คนที่อายุเท่าตามมันยังมีเวลาอีกเยอะ ตามเพิ่งจะอายุ 24 เอง แต่ถ้าสายไปกว่านี้มันก็อาจจะยากแล้วนะ

     สิ่งเดียวที่ตามคิดเกี่ยวกับชีวิตตัวเองตอนนี้คือ ‘ใช้ให้สุด’ ให้เต็มที่ไปเลย แล้วเดี๋ยวเรื่องที่จะต้องมาซีเรียสในภายภาคหน้าค่อยมาคิดหาทางแก้ปัญหาอีกที แต่ใช้ชีวิตให้เต็มที่ ไม่มีอะไรเสียหาย

FYI

6 วัตถุดิบที่เชฟตามประทับใจที่สุด

  • ข้าวก่ำ เป็นข้าวเหนียวที่ปลูกบนดอย ตามชอบเล่นเรื่องข้าวในจานของตาม เพราะพันธุ์ของข้าวมันเยอะมาก มันจะหนึบๆ เป็นแบบกึ่งข้าวสวยกึ่งข้าวเหนียว ความโดดเด่นคือมันหอมมาก และคุณค่าทางอาหารเยอะ
  • ผักหวานบ้าน หากจะซื้อต้องดูแหล่งที่มาให้ดีสักนิด ซื้อที่ไม่ดีมามันก็จะเหม็นเขียว ซึ่งตามมักจะได้มาจากสวนผักออร์แกนิก และมันหวานมาก (ย้ำ) กินได้ทั้งต้น อร่อยมาก
  • ขิง ตามชอบการมีขิงอยู่ในทุกอย่าง ในของคาวหรือของหวานก็ได้
  • เนื้อส่วนท้อง เป็นส่วนของเนื้อที่ส่วนใหญ่คนอื่นเขาจะเอาไปทำเนื้อบด แต่ตามชอบนะ เพราะรสชาติมันเข้มข้นมาก หนักแน่น และต้องเคี้ยวนิดนึง เราชอบเนื้อถูกๆ กินเน้นอร่อย
  • มะแขว่น เป็นเหมือนพริกไทย แต่มันโตบนต้นไม้ใหญ่ เขาจะเอามาทำให้แห้ง แล้วกลิ่นจะออกมาเหมือนเครื่องเทศ มีกลิ่นส้มนิดหน่อย เจ๋งมาก
  • มันหมู อันนี้แทบไม่ต้องบอกว่าทำไมถึงชอบ เพราะมีติดบ้านไว้ตลอด

ติดตามความเคลื่อนไหวและกิจกรรมต่างๆ ของเชฟตามได้ทางอินสตาแกรม @tamchudaree

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X