สายอาหารญี่ปุ่นที่ชอบดูเชฟทำอาหารเสิร์ฟตรงจากหน้าเตาให้อิ่มเอมความอร่อยแบบสดๆ ร้อนๆ แต่อยากเพิ่มความสนุกในการกินด้วยบรรยากาศที่แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร เราอยากพาไปทำความรู้จักกับ Yankii Robatayaki and Bar ร้านอาหารและบาร์สไตล์โรบาทายากิย่านสุขุมวิท รังสรรค์โดยเชฟมากประสบการณ์พร้อมเหล่าทีม Yankii ที่จะทำให้ตลอดค่ำคืนที่อยู่ในร้านเต็มไปด้วยความน่าตื่นตาตื่นใจ
The Vibe
ร้านตั้งอยู่บริเวณชั้น G ของโรงแรม Skyview Hotel Bangkok โดยอยู่ชั้นสองของค็อกเทลบาร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจมากจากร้าน Dagashi หรือร้านขนมในยุค 50 ของญี่ปุ่น
เพียงก้าวแรกที่ถึงโซนร้านก็ต้องสะดุ้งไปกับเสียงต้อนรับอันฮึกเหิมของทีม Yankii ที่ดังกึกก้องไปทั่วชั้น เคล้าไปกับเสียงเพลงฮิปฮอปสไตล์นิวยอร์กย้อนยุคที่เปิดคลออยู่ตลอด บรรยากาศภายในร้าน Yankii ที่มีการใช้แสงไฟโทนสีอบอุ่น ผสมผสานกับการเน้นแสงไฟนีออน สะท้อนวัฒนธรรมสตรีทของญี่ปุ่น ไปจนถึงผนังที่ตกแต่งด้วยโปสเตอร์ลายกราฟฟิตี้
ในส่วนของตัวโลโก้ของร้านได้แรงบันดาลใจมาจากอาทิตย์อุทัยบนธงชาติของญี่ปุ่น สอดคล้องไปกับเครื่องแบบพนักงานภายในร้านที่ได้รับการออกแบบพิเศษโดยแบรนด์ Fah Chak สะท้อนภาพลักษณ์ของแก๊งไบเกอร์ยุค 80 ของญี่ปุ่น
The Taste
เมนูอาหารของร้านเป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างอาหารย่างแบบยากิโทริ คุชิยากิ และโรบาตะของญี่ปุ่น โดยใช้วัตถุดิบสดใหม่ เสริมด้วยเครื่องเทศจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งผู้ที่กุมรสชาติความอร่อยทั้งหมดคือ Hakan Imir เชฟชาวตุรกีที่มีประสบการณ์ในวงการอาหารญี่ปุ่นมายาวนานกว่า 10 ปี และยังมีความเชี่ยวชาญการรังสรรค์อาหารสไตล์โรบาทายากิโดยเฉพาะ
จานแรกที่มาเสิร์ฟเป็น Lobster Carpaccio (590 บาท) แคนาเดียนล็อบสเตอร์แล่บางราดด้วยซอสพอนสึ รสชาติกุ้งมีความสดกรอบ กินกับเกล็ดน้ำแข็งยูซุที่อยู่ด้านบนยิ่งให้ความหอมสดชื่น
ต่อด้วย Salmon Hand Roll (180 บาท) ที่มีแซลมอนเบิร์น (Aburi Salmon), อะโวคาโด, ต้นอ่อนหัวผักกาด (Kaiware) และไข่ปลาบิน (Tobiko) ราดด้วยซอสสไปซีมาโย ให้รสกลมกล่อม หอมมันกินเพลิน
ส่วนใครที่กินมังสวิรัติก็สามารถเลือกเป็น Vegetable Hand Roll (140 บาท) ที่ให้ความอร่อยไปอีกแบบด้วยอะโวคาโด, แตงกวา, ซอสปลาไหล (Kabayaki Sauce) และวาซาบิ
ต่อกันด้วย Broccolini (100 บาท) จานสุขภาพที่ช่วยตัดเลี่ยนได้ดีด้วยเบบี้บรอกโคลีย่างสดกรอบ ท็อปด้วยฮอร์สแรดิส (Horseradish) และซอยซอส จะเห็นได้ว่าการเสิร์ฟอาหารของที่นี่จะเป็นการเสิร์ฟบนไม้พายพร้อมการส่งเสียงขณะเสิร์ฟอย่างแข็งขัน ถ้าใครที่ง่วงๆ เหนื่อยล้าจากการทำงาน ก็มีสะดุ้งตื่นตลอดคืนแน่นอน
สายมันหวานคงจะชอบจานนี้กับ Satsumaimo No Sumibiyaki (80 บาท) ที่เสิร์ฟกับซอสดาร์กเทอริยากิโฮมเมด โรยด้วยงา จิ้มกินกับซอสก็ยิ่งได้รสหวานเค็มที่เข้มข้นขึ้น
ใครชอบเครื่องเทศแนะนำให้ลอง Kanzo (100 บาท) ตับไก่หมักด้วยซอสแอฟริกันอาร์ติโชกต้นตำรับชาวเปรู ซึ่งเป็นอาหารจานเด่นของที่นี่เลยล่ะ
ส่วน Buta-Bara (150 บาท) จานนี้เป็นหมูสามชั้นเสียบไม้ที่แอบมองเชฟย่างเงียบๆ ท่ามกลางเสียงซู่ซ่าของไฟ แม้จะเป็นหมูสามชั้นแต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าเลี่ยนเกินไป ตัวมันหมูมีความกรอบเด้งเบาๆ เข้ากันดีกับซอสฮอยซินรสหวานเค็มจากจีนที่ถูกเพิ่มรสเผ็ดเล็กๆ ด้วยพริกป่นโทการะชิ
มาถึงจานเด็ดเอาใจสายเนื้ออย่าง Ohmi Wagyu Tataki (980 บาท) ที่ใช้เนื้อมิยาซากิ A5 เนื้อวากิวอันเลื่องชื่อเรื่องความพรีเมียมในรสชาติที่ย่างมาในระดับมีเดียมแรร์ เสิร์ฟคู่กับกระเทียมแผ่น ต้นหอม และซอสยูซุพอนสึ ตัวเนื้อมีมันแทรกกำลังดี น่าจะถูกใจใครที่ไม่ชอบเนื้อที่ติดมันมากจนละลายหายไปในปาก ถือเป็นจานที่สายเนื้อต้องลองจริงๆ
ขณะที่กำลังเพลิดเพลินกับอาหารก็มีโมเมนต์ให้ระทึกอีกครั้งด้วยธรรมเนียมการสั่นระฆังเพื่อเสิร์ฟแก้วช็อตให้กับทั้งโต๊ะ พร้อมตบมือตามจังหวะที่ทางทีม Yankii ให้สัญญาณและดื่มไปพร้อมๆ กัน
ในส่วนของค็อกเทลที่นี่ก็มีให้เลือกหลากหลาย ถ้าเน้นดื่มง่ายในรสชาติเปรี้ยวหวานสดชื่น แนะนำเป็น Apple Six (390 บาท) ที่มีเบสเป็นวิสกี้จากญี่ปุ่น ผสมกับชูไฮ (Chu-Hi) รสแอปเปิ้ล เพิ่มความหอมหวานด้วยฮิบิสคัสไซรัปและมะนาว
แต่ถ้ามาด้วยคอนเซปต์แก้วเดียวรู้เรื่อง แนะนำเป็น Akasha (390 บาท) ที่รสเข้มแรงตีขึ้นจมูกตั้งแต่จิบแรกด้วยเบสที่เป็นวิสกี้ 2 ตัว เพิ่มมิติกลิ่นด้วยบิตเตอร์จากฝรั่งเศส หากใครไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ที่ร้านก็ยังมีม็อกเทลและซอฟต์ดริงก์เสิร์ฟเช่นกัน
ปิดท้ายค่ำคืนด้วยของหวานจานเด่นที่ถูกใจสายชาเขียวแน่นอนกับ Matcha Tiramisu (220 บาท) เสิร์ฟในกล่องไม้ตกแต่งลวดลายด้านบนด้วยผงมัทฉะ ตัวครีมมีความนุ่มละมุน ไม่หวานจนเกินไป
ตักกินเต็มๆ คำกับตัวเค้กมัทฉะด้านล่างอร่อยลงตัวไปหมด อิ่มท้องกำลังดีพร้อมส่งท้ายเข้านอน
Good For
ถ้าชอบอาหารหน้าเตาสไตล์ญี่ปุ่นเป็นทุนเดิม แล้วอยากหาร้านสังสรรค์หลังเลิกงานกับเพื่อน หรือมาปล่อยใจคนเดียวในบรรยากาศที่ไม่เหมือนใคร Yankii Robatayaki and Bar คือคำตอบ นอกจากจะได้นั่งฟังเพลงจังหวะคึกๆ ชวนโยกหัวตลอดคืนแล้วยังได้ร่วมสนุกไปกับกิมมิกของที่นี่อีกด้วย
Open: Yankii Robatayaki and Bar เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 18.00-02.00 น.
Address: Skyview Hotel Bangkok ชั้น G ซอยสุขุมวิท 24
Website: www.yankiirestaurant.com
Tel: 0 2821 6808
Budget: ราคาอาหารเริ่มต้นที่ 80 บาท, ราคาค็อกเทลเริ่มต้นที่ 320 บาท
ภาพ: ปวรุตม์ งามเอกอุดมพงศ์