หลายคนอาจเคยได้ยินคำแนะนำว่า ปล่อยเขาไปเถอะ หรือ มูฟออนเถอะ จะได้เริ่มต้นใหม่ แต่รู้ไหมว่า การมูฟออนไม่ใช่แค่เรื่องตัดใจ แต่มันคือกลไกในสมองที่ต้องใช้เวลา จากมุมของ Cognitive Psychology สมองของเราจะเชื่อมโยงคนกับประสบการณ์ ไม่ใช่แค่ความรู้สึก แต่รวมถึงสถานที่ เพลง กลิ่น หรือแม้แต่คำพูดบางคำ ทุกครั้งที่เราเจอสิ่งเหล่านี้ สมองจะดึงความทรงจำเดิมกลับมา และความรู้สึกก็วนกลับมาอีก นี่คือสิ่งที่เรียกว่า Emotional Triggers
มันไม่ใช่เพราะคุณอ่อนแอ แต่มันคือเพราะสมองของคุณยังเรียนรู้ไม่เสร็จ อีกเหตุผลที่เรามูฟออนได้ยาก คือเราไม่ได้เสพติดคนคนนั้น แต่เราเสพติดความคุ้นเคย (Familiarity) ในเชิงจิตวิทยา สมองเราชอบสิ่งที่เดาได้ แม้จะเจ็บ แต่มันคือความเจ็บที่เราคุ้น เลยทำให้การก้าวไปสู่สิ่งใหม่ๆ ที่ไม่รู้จัก กลายเป็นเรื่องยากกว่าที่คิด
บางคนก็ยึดติดกับอดีตเพราะความคาดหวังที่ยังไม่สมหวัง เราไม่ได้เศร้าเพราะเขาไม่อยู่ แต่เราเสียใจ เพราะภาพอนาคตที่เราเคยวาดไว้กับเขามันพังลง ใน Cognitive Psychology สิ่งนี้เรียกว่า Violated Expectations หรือความคาดหวังที่ถูกทำลาย ซึ่งมีผลต่อสมองและความรู้สึกพอๆ กับการสูญเสียจริงๆ
แต่ข่าวดีคือสมองของเรามี Neuroplasticity แปลว่ามันสามารถเรียนรู้ใหม่ได้ แค่ต้องให้เวลากับมัน เหมือนกล้ามเนื้อที่ต้องฝึกซ้ำ หัวใจก็ต้องการพื้นที่ใหม่ เพื่อจะเริ่มเรียนรู้วิธีอยู่โดยไม่มีคนคนนั้น
การมูฟออนไม่ใช่เรื่องของความแข็งแกร่ง แต่มันคือกระบวนการที่ต้องใช้ความอ่อนโยนกับตัวเอง วันไหนที่คุณยังไม่ลืม วันไหนที่ยังสะอึกกับชื่อของเขา หรือรู้สึกใจหวิวเวลาเลื่อนเห็นโพสต์เก่าๆ วันนั้นคุณยังเป็นมนุษย์มากๆ และมันโอเคที่จะยังไม่โอเค
สุดท้ายแล้ว การมูฟออน ไม่ใช่การลืมเขา แต่คือการเลิกทำร้ายตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยความทรงจำนั้น และคุณทำได้นะ แม้จะช้า แต่ก็ยังเดินไปข้างหน้าอยู่ดี
ภาพ: Shutterstock