การแช่ออนเซนที่แพร่หลายในปัจจุบันมาจากวัฒนธรรมการแช่ออนเซนของประเทศญี่ปุ่น การเริ่มต้นแช่ออนเซนจนเป็นที่นิยมเนื่องจากประเทศญี่ปุ่นมีหมู่เกาะเกือบ 7,000 เกาะในพื้นที่กว่า 70% ของประเทศ และยังมีภูเขาไฟมากกว่า 200 ลูก ทำให้มีออนเซนหรือน้ำพุร้อนกระจายอยู่ทั่วทุกเมืองในประเทศ โดยบ่อน้ำพุร้อนในญี่ปุ่นที่อยู่ในร่มจะเรียกว่าโนเท็นบุโระ และบ่อน้ำพุร้อนที่อยู่กลางแจ้งจะเรียกว่าอุจิยุ ซึ่งประโยชน์ของการแช่น้ำแร่ธรรมชาติในออนเซนนั้นเชื่อว่าจะช่วยบำบัดโรคต่างๆ และบำรุงผิวพรรณไปในตัว
ปัจจุบันในประเทศไทยของเราก็มีแหล่งออนเซนผุดขึ้นจำนวนมากให้ได้เลือกไปผ่อนคลายความปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ สำหรับคนที่ไม่เคยเปิดโลกของการแช่น้ำออนเซนเลยอาจรู้สึกประหม่า ไม่กล้าเปลือยกายในออนเซนที่เปิดสาธารณะ เพื่อเป็นการแบ่งปันประสบการณ์ให้มือใหม่หัดแช่ออนเซนได้รู้ถึงสเต็ปการแช่ออนเซนอย่างถูกวิธีในพับลิกออนเซนที่มีในประเทศไทย เพื่อให้มีความกล้าและมั่นใจมากขึ้น LIFE จึงจะมาบอกหมดในทุกเรื่องที่ควรรู้ในการแช่ออนเซนครั้งแรกสำหรับมือใหม่ดังนี้
ขั้นตอนการทำ
- แจ้งพนักงานว่าต้องการใช้บริการออนเซน และชำระเงินหน้าเคาน์เตอร์ให้เรียบร้อยก่อนใช้บริการ จากนั้นจะได้รับ Wristband สำหรับใช้ตู้ล็อกเกอร์มา และได้รับ Onsen Kit ประกอบด้วยชุดเสื้อคลุมสำหรับชาย/หญิง หรือชุดจินเบสไตล์ญี่ปุ่นที่เลือกไซส์ให้เหมาะกับตัวเองได้ 1 ชุด (เพื่อใช้ในการสวมใส่ระหว่างพักผ่อนในห้องพักผ่อน) ผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ 1 ผืน ผืนเล็ก 1 ผืน
- เก็บกระเป๋าและของมีค่าไว้ในตู้ล็อกเกอร์ของตัวเอง (ไม่สวมแหวน ไม่ใส่สร้อยคอ หรือต่างหู) ถอดเสื้อผ้าออกทั้งหมด สิ่งที่ถือเข้าไปในพื้นที่การแช่ออนเซนได้คือผ้าขนหนูผืนเล็ก 1 ผืนเท่านั้น จากนั้นล็อกตู้ล็อกเกอร์ และสวมใส่ Wristband ไว้ที่ข้อมือตลอดเวลาที่ใช้บริการออนเซน
- เข้าสู่พื้นที่สำหรับทำความสะอาดร่างกาย/ล้างตัวก่อนแช่ออนเซน โดยจะมีบริการเจลอาบน้ำ แชมพู ครีมนวดผมให้ครบ ผู้หญิงที่ผมยาวควรใช้ยางรัดรวบผมให้เรียบร้อย เมื่ออาบน้ำและทำความสะอาดร่างกายเรียบร้อยก็เตรียมพร้อมสำหรับขั้นตอนถัดไป
- หลังจากอาบน้ำล้างตัวแล้ว ก่อนลงแช่ออนเซนจะมีจุดบริการปรับอุณหภูมิร่างกาย โดยมากจะมีถังน้ำในอุณหภูมิปกติหรืออุ่นเล็กน้อยตั้งไว้ก่อนเข้าสู่พื้นที่แช่ออนเซน ให้ตักน้ำราดตัว 2-3 ครั้ง แล้วเข้าสู่บริเวณบ่อแช่ออนเซนได้เลย
- ก่อนที่จะเอาตัวลงไปแช่ในบ่อต่างๆ ให้ปรับอุณหภูมิร่างกายด้วยการตักน้ำในบ่อค่อยๆ ราดที่มือ แขน ขา เท้า และตัว ซึ่งเมื่อร่างกายได้สัมผัสกับความอุ่นและเริ่มปรับตัวได้แล้ว ให้เริ่มต้นจากการหย่อนเท้าลงไปก่อน แล้วค่อยๆ นั่งลงครึ่งตัว เมื่อรู้สึกว่าผ่านไป 2-3 นาที ร่างกายชินกับอุณหภูมิในบ่อแล้วก็นั่งลงแช่จนถึงระดับคอ ส่วนผ้าขนหนูผืนเล็กที่ถือมาด้วย ให้วางไว้บริเวณศีรษะ หรือจะวางข้างบ่อก็ได้ แต่ห้ามให้ผ้าขนหนูจุ่มหรือแช่ในบ่อเด็ดขาด
- ในแต่ละบ่อควรแช่ครั้งละประมาณ 10 นาที แล้วค่อยเปลี่ยนบ่อใหม่ไปเรื่อยๆ ก่อนจะเปลี่ยนไปแช่บ่อใหม่ ควรตักน้ำล้างตัวใหม่อีกครั้ง ระหว่างการแช่มารยาทที่ควรมีคือ ไม่ส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่น ไม่ว่ายน้ำ ไม่กระโดดลงบ่อ
- ตลอดระยะเวลาที่ใช้บริการในพื้นที่สำหรับแช่ออนเซน จะไม่อนุญาตให้นำขนม อาหาร หรือเครื่องดื่มเข้าไปรับประทานภายใน หากรู้สึกหิวน้ำ จะมีตู้กดน้ำไว้คอยบริการอยู่แล้ว ซึ่งคนที่แช่ออนเซนควรพักมาจิบน้ำบ่อยๆ เพื่อป้องกันอาการขาดน้ำจากการสูญเสียน้ำ
- แนะนำว่านอกจากการแช่น้ำในบ่อออนเซนแต่ละบ่อแล้ว ควรใช้บริการห้องอบไอน้ำ ห้องสตรีม และห้องเกลือหิมาลายันด้วย เพื่อบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งแลดูสุขภาพดี
- เมื่อแช่ออนเซนจนพึงพอใจและสมควรแก่เวลาแล้ว ให้นั่งพักสักครู่ราวๆ 10 นาที แล้วค่อยไปอาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย หากมีเวลาเหลือควรสวมใส่ชุดเสื้อคลุม และไปใช้บริการอื่นๆ เช่น ห้องเกลือ ห้องความเย็น หรือห้องพักผ่อนสำหรับงีบผ่อนคลาย
- เมื่อใช้บริการเสร็จแล้ว ให้เปลี่ยนเป็นชุดของตัวเอง นำ Onsen Kit ไปคืนที่จุดคืนของและคืน Wristband เพียงแค่นี้ก็เสร็จสิ้นการแช่ออนเซนที่ช่วยคลายความเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อ ได้กลับบ้านไปนอนหลับสนิทแบบฟินสุดๆ
ข้อควรระวังอื่นๆ
- ไม่ดื่มของมึนเมาก่อนไปแช่ออนเซน
- ผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ควรหลีกเลี่ยงการแช่ออนเซน
- ไม่นำอาหาร เครื่องดื่ม หรือขนม ไปกินในพื้นที่ออนเซน
- ไม่ส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่นระหว่างแช่ออนเซน
- ไม่ว่ายน้ำหรือกระโดดลงบ่อออนเซน ไม่หยอกล้อเล่นน้ำออนเซนใส่กัน
- ไม่สวมเสื้อผ้าลงแช่บ่อออนเซน
- ผู้หญิงที่มีประจำเดือนห้ามแช่ออนเซนเด็ดขาด