ในฐานะของคนชอบกินข้าวแกง เมื่อมีโอกาสได้ลอง ‘วรรณยุค’ ครั้งแรกสมัยที่เชฟชาลี กาเดอร์ เพิ่งเปิดร้านใหม่ๆ ก็อดตื่นเต้นไม่ได้ เพราะไม่คิดว่าจะมีใครหยิบเอาอาหารจานด่วนอย่างข้าวแกงมาใช้เป็นคอนเซปต์หลักในการทำอาหารสไตล์ไฟน์ไดนิ่งที่มีความพิถีพิถันและซับซ้อนสูง
บวกกับที่เชฟกล่าวว่า ข้าวแกงนั้นเป็นศาสตร์แห่งการผสมผสานเมนูต้ม ผัด แกง ทอด และน้ำพริกไว้ในข้าวหนึ่งจาน ที่เราเห็นด้วยเอามากๆ เพราะในข้าวแกงหนึ่งจานสามารถมีอาหารได้หลากหลายอย่าง ใครชอบแบบไหน อยากกินอะไรก็เลือกเอาเมนูนั้นๆ มาอยู่ในจาน ไม่มีถูกหรือผิด ถือเป็นอาหารตามใจคนกินอย่างแท้จริง ดังนั้น สำหรับเราแล้วสิ่งที่วรรณยุคทำ จึงเป็นเหมือนการสดุดีให้กับข้าวแกง เมนูจานด่วน จานง่าย ที่ทำให้คนไทยอิ่มท้องมาหลายยุคสมัย
เชฟชาลี กาเดอร์
แต่ข้าวแกงของเชฟชาลีจะเป็นการตีความใหม่ โดยที่ยังคงรักษาเสน่ห์ของข้าวแกง อย่างการนำเสนอรสชาติที่หลากหลายในหนึ่งคำ ที่ยิ่งกิน ยิ่งเซอร์ไพรส์
The Vibe
วรรณยุค ตั้งอยู่ที่โครงการ 515Victory ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยดัดแปลงเอาบ้านเก่าสไตล์โคโลเนียลสองชั้นมาทำเป็นห้องอาหาร ภายในร้านตกแต่งในสไตล์โมเดิร์นโอเรียนทัล โอ่อ่า นั่งสบาย มีห้องส่วนตัวสำหรับคนที่มาเป็นกรุ๊ปใหญ่
The Taste
รอบนี้เชฟชาลีได้เปลี่ยนเมนูใหม่ ตีความข้าวแกงเป็นอาหารทั้งหมด 9 คอร์ส ซึ่งเป็นเทสติ้งเมนูที่ใช้วัตถุดิบในฤดูฝนและได้มาจากผู้ผลิตท้องถิ่น เกษตรกร และชาวนา ที่เชฟได้คัดเลือกข้าวสายพันธุ์ต่างๆ จากทั่วประเทศไทย เช่น ข้าวทับทิมชุมแพจากจังหวัดสกลนคร, ข้าวหอมมะลิ 105 จากอุบลราชธานี หรือข้าวบือซอมีจากเชียงใหม่ ก่อนเสิร์ฟมาพร้อมอาหารทุกจาน
เมี่ยงลิ้นจี่
ส่วนสไตล์อาหารที่เสิร์ฟยังคงเป็นเมนูอาหารที่เรามักเจอในร้านข้าวแกง แต่เชฟชาลีได้ปรับเปลี่ยนวิธีการนำเสนอ เริ่มจากเมนูกินเล่นที่มาเป็นคำๆ อย่าง ข้าวคลุกปลาทู แกงกะหรี่เนื้อ เมี่ยงลิ้นจี่ 3 คอร์สที่กระตุ้นน้ำย่อย ตามด้วย ต้มข่าไก่ / น้ำพริกผัด / กุ้งแพทอด หรือ ต้มจิ๋วเนื้อน่องลาย / น้ำพริกกะปิ / มันเทศ เมนูโบราณรสจี๊ดจ๊าดที่ซดร้อนๆ แล้วสดชื่นมาก
ต้มจิ๋วเนื้อน่องลาย / น้ำพริกกะปิ / มันเทศ
หรือจะเป็นขนมจีนซาวน้ำมังคุด ผลไม้ประจำฤดูฝน จานนี้ถือเป็นเมนูล้างปาก
ขนมจีนซาวน้ำมังคุด
ส่วนไฮไลต์ได้แก่ ข้าวแกงวรรณยุค สำรับอาหารจานหลักของที่นี่ ที่เมนูจะเปลี่ยนไปในแต่ละสัปดาห์ตามวัตถุดิบที่ได้มา มาพร้อมข้าวสองชนิด ผักแนม และไข่ดาว ที่นำไข่แดงไปดอง 2 แบบ ได้แก่ น้ำปลาและแม็กกี้ วางไว้บนไข่ขาวที่ทอดจนกรอบฟู
ข้าวแกงวรรณยุค
ต่อด้วยคอร์สขนมหวานขึ้นชื่อของที่นี่อย่างเปียกปูน ที่แม้หน้าตาอาจดูไม่เหมือนเปียกปูน แต่เมื่อได้ลองชิมทุกองค์ประกอบในจานพร้อมๆ กันแล้ว ก็ได้รสของเปียกปูนจริงๆ
เปียกปูน และ ขนมเปอตีฟูร์
ปิดท้ายด้วยขนมเปอตีฟูร์ ที่น่าสนใจไม่แพ้เปียกปูน และเป็นเมนูขนมหวานที่เรามักเห็นอยู่ในหม้อตามร้านข้าวแกง เช่น กล้วยบวชชี ข้าวเหนียวเปียกลำไย ชู อา ลาเคร์มไส้ไข่เค็ม
Good for
ฟู้ดดี้ที่ชื่นชอบอาหารไฟน์ไดนิ่งรสชาติดีและมีความคิดสร้างสรรค์ อยากลองเมนูอาหารไทยในท่าทีใหม่ๆ แต่รสชาติไม่ได้ผิดเพี้ยน รวมถึงคนที่ชื่นชอบการกินข้าวแกง คุณจะรู้สึกสนุกกับอาหารที่นี่มาก เพราะจะเก็ตกับรสชาติที่ผสมผสานกันในหนึ่งคำ ที่แม้บางอย่างอาจดูไม่เข้าพวก แต่พอกินรวมๆ กันแล้วกลับออกมากลมกล่อม
เมนูนี้พร้อมเสิร์ฟตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-กันยายน 2566
คลิกอ่านบทความเกี่ยวข้องได้ที่ TASTE: ‘วรรณยุค’ มื้ออาหารที่รวมความสนุกของการกินข้าวแกง มาเสิร์ฟแบบไฟน์ไดนิ่ง
วรรณยุค
Open: เปิดให้บริการวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 18.00-23.00 น.
Address: โครงการ 515Victory BTS อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ (ทางออก 4)
Budget: 4,500 บาท
Contact: 06 3662 3598
Website: https://instagram.com/wana.yook
Map: