Stretch me Clinic คลินิกกายภาพบำบัดที่ต้อนรับมนุษย์ตัวตึงทุกระดับ

อาการปวดตึงกล้ามเนื้อ เมื่อยตัวเป็นครั้งคราวที่เกิดจากไลฟ์สไตล์ทำอะไรซ้ำๆ ไม่ว่าจะเป็นการนั่งทำงานท่าเดิม ยืนนานๆ หรือออกกำลังกายหนักหักโหม เพราะหากปล่อยไปนานวัน อาการที่เป็นแค่ปวดตึงเบาๆ อาจสั่งสมจนกลายเป็นอาการบาดเจ็บแบบเรื้อรังได้

สิ่งที่เราสามารถทำได้เป็นประจำคือการหมั่นยืดเหยียดร่างกายในทุกวัน ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต หรือถ้าให้ดีคือลองพบกับนักกายภาพบำบัดเพื่อการวิเคราะห์อาการ ประเมินร่างกาย และวางแผนรักษาได้อย่างเหมาะสมและตรงจุด

ล่าสุดเรามีโอกาสได้แวะไปที่ Stretch me Clinic คลินิกกายภาพบำบัดที่ต่อยอดความสำเร็จจาก Stretch me by Let’s Relax เลยอยากจะมาบอกต่อให้ผู้อ่าน LIFE ฟังว่า การไปคลินิกกายภาพบำบัดสักครั้งในชีวิตมันดีอย่างไร

What is it?

บรรยากาศสาขานี้ค่อนข้างสบายและใหม่เพราะเพิ่งเปิดได้ไม่ถึงปี มีห้องตรวจทั้งหมด 4 ห้อง แบ่งเป็นสองห้องคู่ สองห้องเดี่ยว และยังมีห้องสำหรับเลเซอร์แยก

บริการของที่นี่จะแบ่งหลักๆ เป็นสองส่วน ส่วนแรกคือ Studio ที่เน้นหัตถการยืดเหยียดเพื่อป้องกันอาการเจ็บปวดเรื้อรังในอนาคต เหมาะกับคนที่อาการบาดเจ็บไม่ชัดเจน มีความปวดเมื่อยเล็กน้อย หรือคนที่ยังไม่มีอาการ แต่มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ทำอะไรซ้ำๆ และต้องการป้องกันไว้ก่อน

บริการที่น่าจะตอบโจทย์มนุษย์เงินเดือนยุคนี้ก็คงไม่พ้น Office Stretch ที่ทำงานติดโต๊ะเป็นเวลานานๆ จนเริ่มปวดเมื่อยช่วงคอบ่าไหล่ ซึ่งตัวโปรแกรมก็มีให้เลือกตั้งแต่ Express (600 บาท / 30 นาที), Basic (1,200 บาท / 60 นาที) และ Advance (1,750 บาท / 90 นาที)

หรือถ้าใครเป็นสายฟิต ออกกำลังกาย เล่นกีฬาเป็นประจำ ไม่ว่าจะตีเทนนิส ตีกอล์ฟ วิ่ง ฯลฯ ก็ยิ่งเหมาะที่จะยืดเหยียดเพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บ และเพิ่มความคล่องแคล่วให้ร่างกาย โดยที่นี่จะมีเป็นโปรแกรม Sport Stretch ที่แตกย่อยเช่นเดียวกันกับ Office Stretch แต่เพิ่มในส่วนของการยืดสำหรับนักวิ่ง Marathon (1,200 บาท / 60 นาที) เข้ามา

ส่วนอีกบริการจะเป็น Clinic เหมาะกับผู้ที่มีอาการปวดตึงกล้ามเนื้อชัดประมาณหนึ่ง โดยลักษณะการรักษาจะผสมผสานระหว่างหัตถการและเครื่องมือ BTL จากสหรัฐอเมริกา อย่าง Ultrasound, Electrical Stimulation Therapy เครื่องกระตุ้นไฟฟ้า หรือถ้าปวดเรื้อรังมากก็จะมีการใช้เครื่อง High Power Laser ที่ลงพลังงานได้ลึกและตรงจุด แต่ละเครื่องมือล้วนมีคุณสมบัติในการซ่อมแซมกล้ามเนื้อชั้นลึก เส้นเอ็น ข้อต่อ ลดอาการบาดเจ็บเฉียบพลันและเรื้อรังได้

Experience

เริ่มแรกจะเป็นการดูสรีระร่างกาย ตรวจวิเคราะห์สภาพร่างกาย แล้ววางแผนการรักษาโดยนักกายภาพบำบัดก่อน ไม่ว่าจะเป็นการดูโพสเจอร์ขณะยืน การคลำกล้ามเนื้อและยืดเพื่อหาปัญหาแฝง แล้วจึงวางแผนการรักษา โปรแกรมที่เราเลือกรับบริการคือ Signature Plus Physical Therapy (1,800 บาท / 75 นาที) ซึ่งจะอยู่ในส่วนของคลินิก

หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าของทางคลินิกที่หน้าตาเหมือนชุดนักบอลแล้ว นักกายภาพก็จะเริ่มจากการกดจุดในส่วนร่างกายที่ตึง ซึ่งความรู้สึกนึกคิดในนาทีนั้นคือ “ช่างเป็นความเจ็บปวดที่สวยงามจริงๆ…” โดนทุกตรง โดนทุกจุด โดนกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว

นอกจากการกดจุดแล้วก็จะมีการยืดคลายกล้ามเนื้อท่าต่างๆ ซึ่งเป็นความรู้สึกใหม่ที่ไม่ได้จากการนวดแผนโบราณหรือสปาโดยทั่วไป

จากนั้นตามด้วยการใช้เครื่องมือเพื่อคลายกล้ามเนื้อในระดับลึกขึ้น โดยความรู้สึกของการใช้เครื่องมือนั้นไม่มีความเจ็บแต่อย่างใด มีเพียงความรู้สึกอุ่นๆ และจะมีความรู้สึกว่ากล้ามเนื้อกระตุกเป็นระยะระหว่างใช้เครื่องกระตุ้นไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นอาการปกติระหว่างการรักษา

Result

หลังเสร็จสิ้นทุกขั้นตอนก็สัมผัสได้ถึงความคลายตัวของกล้ามเนื้อ ความปวดตึงที่เบาลง และช่วงคอที่สามารถยืดได้ไกลกว่าเดิม แม้ขั้นตอนการรักษาจะจบ แต่นักกายภาพบำบัดของที่นี่ยังแนะนำท่ายืดให้เราหมั่นกลับไปทำที่บ้านเพื่อลดอาการตึงของกล้ามเนื้อมัดเดิมด้วย

Good for

จะมีอาการปวดตึงเรื้อรัง มีน้อย หรือไม่มี แต่มีไลฟ์สไตล์ที่เข้าข่ายกลุ่มเสี่ยงก็สามารถแวะมาทำการรักษาที่นี่ได้ การพบนักกายภาพบำบัดไม่ใช่เรื่องน่ากลัวหรือทำให้เราฟังดูมีอายุแต่อย่างใด ล้วนแต่ให้ผลดีต่อร่างกายทั้งในแง่ป้องกันและรักษา อีกจุดเด่นของที่นี่คือการบริการแบบ Customize ให้เหมาะปัญหาของแต่ละคนด้วยศาสตร์ทุกอย่างที่มี ไม่ใช่แค่การใช้เครื่องมืออย่างเดียว และสามารถเลือกรักษาแบบเป็นครั้งได้ ไม่ต้องจ่ายเป็นคอร์สในทีเดียว