Shersanctuary Tea Bar ร้านชาบรรยากาศสงบ ที่จะเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้คนจิบชา

เพราะโลกภายนอกมันวุ่นวาย ‘Shersanctuary Tea Bar’ บาร์น้ำชาเล็กๆ บนตึกสุดลอฟต์ย่านบางเขน จึงอยากเป็นพื้นที่หลบภัยให้ทุกคนแวะเข้ามานั่งพัก หายใจลึกๆ กินขนม จิบชาเบาๆ แล้วค่อยออกไปใช้ชีวิตต่อแบบเต็มไปด้วยพลังบวก

โดย Shersanctuary เกิดขึ้นจากความหลงใหลในการจิบชาของ เปียว-เฌอร์ลิน เหลืองประเสริฐ เพราะเธอเชื่อว่าชาสามารถช่วยเยียวยาอารมณ์ อีกทั้งเป็นตัวกลางในการส่งต่อความรู้สึกดีๆ ให้กับคนรอบข้างได้ หลังจากศึกษาเรื่องชามาสักพักก็เลยตัดสินใจเปิดเคาน์เตอร์ชาแห่งนี้ขึ้นมา

The Vibe

Shersanctuary ให้อารมณ์เหมือนร้านชาลับๆ (ตัดสินจากโลเคชัน) เพราะซ่อนอยู่ในตึกชื่อ Ground For อาคารเปลือยดิบๆ ติด BTS พหลโยธิน ที่มีทั้งร้านกาแฟและออฟฟิศนักออกแบบรวมอยู่ด้วย โดยทุกคนต้องเดินขึ้นมาชั้น 4 จึงจะพบบาร์น้ำชาเล็กๆ แห่งนี้ ร้านไม่ตกแต่งอะไรมาก ตามสไตล์ร้านน้ำชาที่อยากให้ทุกคนมานั่งจิบชาอย่างจริงจัง

มีเพียงเคาน์เตอร์บาร์ไม้, โคมไฟกระดาษ, อุปกรณ์ชงชา, เก้าอี้ 4 ตัว และของตกแต่งอีกประปราย ที่ทำให้พื้นที่ดูอบอุ่น เรียบง่าย ผ่อนคลาย และน่านั่งใช้เวลาลิ้มรสน้ำชาไปเรื่อยๆ

และทุกคนจะได้เจอเพื่อนบ้านข้างๆ ของ Shersanctuary ที่เป็นห้องโชว์งานออกแบบของแบรนด์ naphakard ด้วย สามารถเดินเข้าไปชมได้

The Taste

ที่นี่เสิร์ฟเฉพาะชาใสเท่านั้น แต่ก็มีให้เลือกทั้งชาญี่ปุ่นและชาจีน รวมไปถึงชาเบลนด์ ซิกเนเจอร์ที่เปียวคิดขึ้นเอง โดย Shersanctuary จะเน้นเสิร์ฟชาร้อนเป็นหลัก แต่ก็มีเมนูเย็นให้เลือก

เปียวบอกว่าชาแต่ละชนิดต้องการรายละเอียดที่แตกต่างกัน เราจึงจะดึงเสน่ห์ของเขาออกมาได้อย่างชัดเจน อย่างเช่น ‘Hojicha (250 บาท)’ ชาจากจังหวัดชิซึโอกะ เราเพิ่งเคยจิบโฮจิฉะที่รสชาติละมุนนุ่มนวลแบบนี้ เปียวบอกว่าเป็นเพราะใช้เวลาต้มไม่นาน เนื่องจากตั้งใจให้ชาทุกตัวในร้านจิบง่าย มีความละมุนกลมกล่อม มากกว่าความฉูดฉาด

ถ้าใครชอบโฮจิฉะอยู่แล้วเราอยากให้ลองนะ เพราะดื่มแล้วยังมีคาแรกเตอร์ของชาอยู่ครบทั้งกลิ่นและรส โดยร้านจะเสิร์ฟโฮจิฉะมาคู่กับวาราบิโมจิที่ทำเอง (ขนมมีเฉพาะช่วงสุดสัปดาห์) และขนมจะเสิร์ฟเมื่อเราเติมน้ำครั้งที่ 2 เพื่อให้จิบแรกโฟกัสกับรสชาติน้ำชาก่อน

คนไหนอยากลองชาเบลนด์ที่แปลกใหม่ดูบ้าง เราแนะนำ ‘Sherlyn (250 บาท)’ เบสเป็นชาดำ ผสมกับเครื่องเทศหลายๆ ชนิด เพราะเปียวได้แรงบันดาลใจมาจากประเทศอินเดีย ชาตัวนี้จึงมีกลิ่นของซินนามอนชัดตั้งแต่รินใส่แก้ว ทว่าจิบแล้วรสชาติเบาๆ ไม่รุนแรงเท่าไร เสิร์ฟมาพร้อมกะหรี่ปั๊บโฮมเมดที่มีทั้งไส้ไก่และไส้ถั่ว

‘Wine Not ? ( 300 บาท )’ เปียวตั้งใจเสิร์ฟชาในแก้วไวน์และกินคู่กับชีส เพราะตั้งใจเบลนด์ชาแก้วนี้ให้มีรสเปรี้ยวโดยใช้กระเจี๊ยบ และมีความฝาดนิดๆ ให้คล้ายไวน์

เมนูชาแบบเย็นหนึ่งเดียวในร้าน ‘Shersanc ( 250 บาท)’ น่าสนใจตรงใช้โฮจิฉะโคลด์บรูว์ ก่อนเติมโทนิกและเปลือกส้มให้ดื่มแล้วสดชื่น และฉีดสเปรย์วิสกี้ตบท้ายให้มีอโรมา เหมาะกับการเป็นแก้วที่หนีมานั่งดื่มดับร้อนช่วงบ่ายๆ มากเลย

Good For

อย่างที่บอก Shersanctuary เกิดขึ้นมาจากความหลงใหลในน้ำชา ที่นี่จึงเหมาะกับคนที่อยากนั่งพักจิบชาสบายๆ หรือจริงจังก็ได้ หรือคนที่อยากลองเริ่มต้นดื่มชา หาชาเบลนด์สนุกๆ จิบ ก็แวะมาได้เช่นกัน

เพราะเราเชื่อว่าหากใครได้มาที่ Shersanctuary ก็น่าจะรู้สึกว่าที่นี่เป็นพื้นที่ปลอดภัยชวนให้อยากแวะมานั่งพัก หันหลังให้กับโลกภายนอกแสนวุ่นวาย โดยมีชาละมุนๆ ให้จิบเยียวยาจิตใจ

แต่ขอกระซิบนิดหนึ่งว่า ร้านเปิดรับลูกค้าแค่รอบละ 4 ที่นั่งเท่านั้นนะ ถ้าใครจะไปแนะนำให้จองไปก่อน