×

RUAY MITR เอกมัย ข้าวต้มกุ๊ยพร้อมดีเจสาขาใหม่ที่อาหารและดริงก์แน่นที่สุด

28.06.2024
  • LOADING...

ขึ้นชื่อว่าร้านข้าวต้มกุ๊ย ภาพจำของโต๊ะพับเหล็ก เก้าอี้พลาสติก อาหารไทยผสมจีน ก็ผุดขึ้นมาทันที แต่สำหรับ ‘RUAY MITR’ (รวยมิตร) ที่นี่เป็นมากกว่าร้านข้าวต้มกุ๊ยทั่วไปด้วยการผสมผสานหลากองค์ประกอบผ่านมุมมองของ ธัช-ธัชชัย นาคพันธุ์ CEO เครือ Supanniga Group ที่หล่อหลอมให้ร้านข้าวต้มกุ๊ยแห่งนี้แจ่มจัดจ้านในทุกด้าน ตั้งแต่เมนูอาหารที่ถูกทวิสต์ให้คราฟต์มากขึ้น รสชาติที่รังสรรค์มาเพื่อคนไทยชนิดที่แกล้มดริงก์ได้ถึงใจ ไวบ์แสงสีฉูดฉาดที่ฉีกทุกกฎความเป็นร้านข้าวต้ม แถมยังมีดีเจมาเพิ่มความม่วนระหว่างการกิน

 

จากความสำเร็จของรวยมิตรตั้งแต่ยุคปลายโควิดในรูปแบบเดลิเวอรี สู่ป๊อปอัพชั้นบนร้านสุพรรณิการ์ ทองหล่อ จวบจนสาขาแรกที่สาทร วันนี้รวยมิตรขยายความสนุกครึกครื้นสู่ย่านเอกมัย สาขาใหม่ใหญ่กว่าเดิม พร้อมจัดหนักจัดเต็มกับอาหารและดริงก์ แถมยังขนทัพดีเจเซ็ตใหม่มาสร้างไวบ์สนุกไม่ซ้ำเดิม

 

 

The Vibe

 

รวยมิตร เอกมัย มีทั้งหมด 3 ชั้น ผลักประตูร้านเข้าไปแล้วคิดว่าหลุดไปอยู่ในซีนหนังจีน ไฟดิมสลัว โต๊ะและเก้าอี้ถูกวางสลับแพตเทิร์นพร้อมตะเกียบและช้อนสีจัดจ้านตัดกับจาน ผนังประดับด้วยกรอบรูปภาพสไตล์จีน ชาม ไห กา แจกัน ยันขวดซีอิ๊ว 

 

 

เหลือบไปด้านข้างเห็นตู้กระจกที่ไม่ใช่ผักหรือหมูเหมือนร้านทั่วไป แต่เป็นดิสเพลย์ที่ร้านตั้งใจให้เป็นอินสตอลเลชันอาร์ตสารพันวัตถุดิบที่ร้านเลือกใช้ 

 

 

“คอนเซปต์จะเป็นแบบไทยผสม Mid-Century ผสมจีน เหมือนอยู่ในบ้านเพื่อนที่ชอบสะสมของ สะสมต้นไม้ มีเล่นเพลย์ลิสต์อะไรของตัวเอง ชอบทำอาหาร มีของกระจุกกระจิกดีเทลน่ารักๆ ผสมผสาน” ธัชกล่าว องค์ประกอบที่ดูมาจากคนละทิศคนละทาง แต่เอามายำรวมมิตรได้อย่างลงตัวนี้ ยังคงถูกสร้างสรรค์โดย โอ-ศรัณย์ ​เย็นปัญญา ผู้อยู่เบื้องหลังการดีไซน์ร้านข้าวต้มกุ๊ยรวยมิตร สาทร

 

ส่วนอีกมุมของร้านถูกเนรมิตเป็นเคาน์เตอร์บาร์สีสันสดใสสไตล์เรโทร พร้อมขวดเครื่องดื่มบนเชลฟ์ที่สูงทะลุไปอีกชั้น

 

 

ก้าวขึ้นมาชั้นสอง สะดุดตากับไฟนีออนรวยมิตรในโซนโต๊ะที่มีความส่วนตัวขึ้นมาหน่อย ซึ่งชั้นนี้จะเป็นชั้นประจำจุดของดีเจทุกวันศุกร์-เสาร์ ตั้งแต่เวลา 20.00 น. เป็นต้นไป 

 

 

อีกความพิเศษของชั้นนี้คือโซน Glass House สำหรับคนที่อยากเสพบรรยากาศความเป็น City Night ของสุขุมวิท ส่วนใครที่มาในช่วงกลางวันสุดสัปดาห์ก็ไม่ต้องกลัวร้อน เพราะห้องนี้แอร์จะเย็นฉ่ำเป็นพิเศษ 

 

 

ส่วนใครอยากจัดปาร์ตี้หรืออีเวนต์ส่วนตัว ต้องไม่พลาดกับชั้น 3 ชั้นนี้เป็นโซนไพรเวต รองรับได้ราว 20 คน มีบาร์ส่วนตัวพร้อมบาร์เทนเดอร์ให้บริการ และยังมีโซนเซมิเอาต์ดอร์ให้ไปนั่งรับลมได้เพลินๆ

 

 

The Taste

 

“ไม่สนใจว่าชาติอะไร แต่พอกินแล้วมันต้องเข้ากับข้าวต้มได้ เข้ากับข้าวสวยได้ แล้วก็เข้ากับเหล้าได้ มันเป็นร้านข้าวต้มที่จะต้องดริงก์ได้ด้วย” ธัชเผยถึงความเรียบง่ายของสไตล์อาหารที่นี่ 

 

 

ประเดิมด้วยเมนูใหม่แกะกล่องเฉพาะสาขาเอกมัยอย่าง วากิวคาลบิย่างถ่าน (750 บาท) ใช่แล้ว ที่นี่เป็นร้านข้าวต้มกุ๊ยที่มีคาลบิสไตล์เกาหลีเสิร์ฟ เนื้อที่ใช้เป็นจัสมินวากิวที่เลี้ยงที่ขอนแก่น สไลซ์แบบ Short Ribs ย่างบนเตาถ่าน คลุกเคล้าผงน้ำตก 

 

 

ถือเป็นเสน่ห์ของเนื้อย่างเตาถ่านก็ว่าได้ เพราะเนื้อหอมกว่าปกติ หั่นเป็นชิ้นแบบกินง่าย จิ้มกินกับแจ่วยิ่งแซ่บ

 

 

ฉีกเมนูกุ้งอบวุ้นเส้นแบบเดิมๆ ด้วย หมูกรอบอบวุ้นเส้นต้มยำ (350 บาท) โดยมีไข่ข้นราดบนวุ้นเส้นจนจับตัวเป็นแผ่น ท็อปด้วยหมูกรอบจุกๆ เป็นเมนูที่จัดจ้าน เคี้ยวสนุกระหว่างวุ้นเส้นนุ่มๆ และหมูกรุบกรอบ 

 

 

มาดูเมนูยอดนิยมที่ยกขบวนมาจากสาทรกันบ้าง แน่นอนว่า เนื้อทอดเผิงโหย่ว (490 บาท) อย่างไรก็ต้องติดโผ กรรมวิธีการทำจานนี้คือการสะดุ้งเนื้อสันในแล่บางในน้ำมันเดือดปุดๆ ผสมซอสสูตรลับของทางร้าน เสิร์ฟพร้อมน้ำมันที่ราดบนเนื้อฉ่ำๆ เท็กซ์เจอร์เนื้อที่ได้ถูกใจคอมีเดียมแรร์แน่นอน 

 

 

กุยช่ายกรอบตลาดพลู (160 บาท) ทอดมาได้กรอบนอกนุ่มใน จิ้มกินกับซอสดำตอนร้อนๆ แล้วก็หยุดที่ชิ้นเดียวไม่อยู่จริงๆ 

 

 

อีกเมนูที่ต้องอยู่เคียงคู่ข้าวต้มกุ๊ยก็คือ เต้าหู้พุดดิ้งทอด (180 บาท) หรือเต้าหู้สไตล์แต้จิ๋วทอดร้อนๆ กรอบนอก กัดแล้วเจอเนื้อเต้าหู้ที่นุ่มละมุนแบบพุดดิ้งของจริง จิ้มกินกับน้ำจิ้มใบกุยช่ายยิ่งอร่อยเพลิน

 

 

คั่นด้วยความแซ่บกันบ้างกับ กุ้งแช่น้ำปลาอูรักลาโว้ย (260 บาท) กุ้งส่งตรงจากทะเล สด หวาน เด้ง ออนท็อปด้วยพริกซอยรสจัดจ้าน 

 

 

หมูสับต้มอูเมะ (290 บาท) เมนูที่ต้องติดดาว เพราะซดจนหม้อแห้ง

 

หมูสับเกี่ยมบ๊วยถือเป็นเมนูยืนพื้นที่ต้องมีในร้านข้าวต้ม แต่แทนที่จะใช้บ๊วยจีน ที่นี่ใช้อูเมะ ซึ่งจะให้รสชาติที่นวลกว่า มีความหอมหวานกลมกล่อม อมเปรี้ยวเล็กๆ 

 

 

หากใครเป็นสายเส้นจะเพิ่มมาม่าก็ซู้ดเส้นสนุกดี แต่ถ้าเน้นข้าวต้มก็ตักราดข้าวต้มร้อนๆ กินได้เลย 

 

มาร้านข้าวต้มกุ๊ยแล้วจะไม่พูดถึงข้าวต้มก็ไม่ได้

 

สูตรข้าวต้มที่นี่จะหุงทั้งข้าวขาวผสมข้าวเหนียวเล็กน้อย ทำให้ได้เท็กซ์เจอร์หนึบกว่าร้านทั่วไป และทีเด็ดเลยคือใส่ใบเตยเข้าไปด้วย ข้าวต้มที่ได้เลยหอมใบเตยเล็กๆ มากไปกว่านั้นคือที่นี่เสิร์ฟข้าวต้มแบบฟรีโฟลว สั่งถ้วยเดียวเติมได้ไม่อั้น 

 

 

ซดน้ำอูเมะไปแล้วก็อยากจะซดน้ำอย่างอื่นบ้าง ลองพลิกดูเมนูเครื่องดื่มแล้วก็สะพรึงเล็กน้อยกับลิสต์รายการที่มีเยอะเต็มไปหมด ทั้งค็อกเทล ไวน์ วิสกี้ เรียกได้ว่าสาขาใหม่นี้เปิดตัวพร้อมเมนูดริงก์ใหม่ทั้งหมด ยกเว้นเบียร์วุ้นและน้ำเปล่า ซึ่งเบียร์วุ้นที่นี่ก็เป็นวุ้นจริงตามภาพ

 

 

มาทั้งทีก็ต้องลองซิกเนเจอร์ค็อกเทล เริ่มจากแก้วดื่มง่ายสดชื่นสไตล์เบอร์รีอย่าง Berry Spritz (380 บาท) ที่ใช้เบสเป็นเวอร์มุทสตรอว์เบอร์รี น้ำแครนเบอร์รี และสปาร์กลิงไวน์ 

 

 

อีกแก้วที่ยังคงดื่มง่าย หอมแนวฟรุตตี้ คือ Melon & Melon (380 บาท) เบสเป็นวอดก้า เพิ่มความหอมหวานด้วยลิเคียวร์เมลอน น้ำแตงโม ตัดรสเปรี้ยวด้วยมะนาว 

 

 

แต่ถ้าชอบความสโมกหน่อยแนะนำเป็น Yuzu Smoke (380 บาท) ที่ใช้ชาเอิร์ลเกรย์อินฟิวส์กับเตกีลา เมซคัล มะนาว ส้มยูซุ ท็อปด้วยใบมะกรูด เป็นแก้วที่เปรี้ยวสดชื่นตาตื่น แต่ก็มีความหนักสโมกใช้ได้

 

 

คอชุ่มฉ่ำแล้วก็คีบตะเกียบจ้วงไปที่ ปลาหมึกผัดไข่เค็ม (390 บาท) เนื้อหมึกเท็กซ์เจอร์กรึบๆ เคลือบไปด้วยไข่เค็มมันนัวเข้มข้น ตัก แขนงไฟแดงหมูกรอบ (240 บาท) ที่ติดรสเผ็ดเล็กๆ มากินแกล้ม ซดข้าวต้มร้อนๆ ตามอีกสักช้อน อิ่มท้องสบายพร้อมนอน

 

 

แต่ยังนอนไม่ได้ เพราะฟ้ามืดปุ๊บดีเจมาปั๊บ…แปลได้แค่ว่าหนทางคืนนี้ยังอีกยาวไกล อย่างที่บอกว่าดีเจของสาขานี้จะเป็นทีมใหม่ สไตล์ใหม่ ที่เน้นไปทาง R&B, Soul, Funk ทั้งไทยและสากล ฟังสบายพร้อมปล่อยใจ ไม่ต้องตะโกนคุยกัน 

 

 

หากมองจากหน้าร้านเห็นได้ชัดว่าไวบ์ตอนกลางคืนนั้นเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง

 

 

จบคาวแล้วก็ต้องปิดท้ายด้วยของหวาน เราสั่งเป็น วุ้นเก๊กฮวยไต้หวัน (120 บาท) และ มองบลังค์อัลมอนด์พุดดิ้ง (160 บาท) ซึ่งล้วนเป็นเมนูใหม่และมีเฉพาะสาขานี้เท่านั้น

 

 

วุ้นเก๊กฮวยของที่นี่หวานน้อย รสเบา สดชื่น เหมาะจะเป็นเมนูของหวานล้างปากที่ดี 

 

 

ส่วนใครชอบความมิลกี้ พุดดิ้งถ้วยนี้ตอบโจทย์ ตัวพุดดิ้งรสละมุนนุ่ม กินกับมองบลังค์หอมๆ ด้านบนอร่อยเพลิน

 

 

Good for

 

แน่นอนว่าสาวกข้าวต้มกุ๊ยคงต้องชอบสไตล์อาหารที่นี่ จัดจ้านตามเทสต์คนไทย แต่ที่เรามองว่าเก๋ไม่ซ้ำใครคือเรื่องบรรยากาศและดริงก์ที่แน่นจริง เหมาะจะมานั่งชิลกับเพื่อนหลังเลิกงาน หรือจะมาจัดไพรเวตปาร์ตี้ก็เวิร์ก

 

 

แอบกระซิบว่าในอนาคตร้านจะเปิดวันธรรมดาช่วงกลางวันเพิ่มด้วย เชื่อว่าการได้แวะมาเอ็นจอยข้าวต้มยามบ่ายก็น่าจะได้ฟีลที่ดีไปอีกแบบ

 

 

RUAY MITR (Ekkamai)

Open: ทุกวัน เวลา 17.00-00.00 น.

Address: ซอยสุขุมวิท 61 (จอดรถริมถนนได้ตั้งแต่เวลา 20.00 น., ที่จอดรถแบบเสียค่าจอดที่พาร์คเลนและเมเจอร์ เอกมัย)

Budget: เริ่มต้นที่ 160 บาท

Instagram: https://www.instagram.com/ruaymitr/ 

Facebook: https://www.facebook.com/ruaymitr/

Map:

 

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

X
Close Advertising