เราเชื่อว่าใครที่เสพติดการออกกำลังกายเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะคนที่มี Workout Routine คงจะรู้สึกกระวนกระวายใจในวันที่ต้องจำใจงดออกกำลังด้วยความป่วย หรือสภาวะที่ร่างกายและจิตใจไม่พร้อม บ้างก็อาจเลือกที่จะฝืนเพื่อลดความรู้สึกผิดหรือวิตกกังวลว่ารูปร่างจะไม่เป็นไปตามเป้าหมาย แต่ความจริงแล้วการฝืนนั้นอาจนำไปสู่อาการป่วยที่ไม่ใช่แค่กาย แต่เป็นใจที่จะพังในระยะยาว
การรักการออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ดี แต่การรักและเข้าใจร่างกายตัวเองก็สำคัญไม่แพ้กัน ลองมาปรับมายด์เซ็ตกันสักนิด ใจดีกับตัวเองสักหน่อย แล้วคุณจะพบว่าการอนุญาตให้ตัวเองได้พักผ่อนเมื่อจำเป็น ไม่ใช่ความอ่อนแอหรือล้มเหลว แต่เป็นการแสดงความเข้าใจต่อร่างกายและจิตใจ แล้วเมื่อคุณโอบรับวันที่ไม่ได้ออกกำลังกายได้อย่างสบายใจ คุณจะสามารถกลับมาโลดแล่นบนเส้นทางสายฟิตได้อย่างสดใสและยั่งยืนกว่าเดิมแน่นอน
มองการพักผ่อนเป็นการชาร์จพลัง
ให้เวลาร่างกายและจิตใจได้ฟื้นฟูอย่างเต็มที่ เมื่อกายใจได้รับการชาร์จพลังแล้ว เผลอๆ ฟอร์มการออกกำลังกายของคุณอาจจะดีกว่าเดิมเสียอีก!
ให้ความสำคัญกับสมดุลองค์รวม
การมีสุขภาพที่ดีไม่ได้จำกัดอยู่แค่การออกกำลังกายเพียงอย่างเดียว แต่เป็นสมดุลองค์รวม การได้นอนหลับเต็มอิ่ม กินอาหารที่มีประโยชน์ ปล่อยใจจอยไปกับซีรีส์เรื่องโปรดบ้าง ก็ยังดีกว่าการฝืนสังขารตัวเอง ซึ่งมีแต่จะสร้างความเครียดและผลเสียต่อสุขภาพไปเปล่าๆ
ฟังเสียงร่างกาย
เรียนรู้ที่จะสังเกตสัญญาณที่ร่างกายส่งมาอย่างตั้งใจ ฝึกแยกให้ออกระหว่างความเหนื่อยล้ากับความขี้เกียจ การทำความเข้าใจความแตกต่างนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างเหมาะสมว่าควรพักหรือควรลุกขึ้นมาเคลื่อนไหว
หยุดเปรียบเทียบแล้วโฟกัสที่ตัวเอง
อย่าคิดว่า “คนอื่นยังไหว ทำไมเราไม่ไหว” แต่ละคนมีพื้นฐานร่างกาย สภาพแวดล้อม และเป้าหมายที่แตกต่างกัน การพักผ่อนในวันที่ร่างกายไม่พร้อม ไม่ได้แปลว่าคุณกำลังตามหลังใคร แต่เป็นการดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีต่างหาก
ยืดหยุ่นบ้างก็ได้
การพักไม่เท่ากับล้ม บางครั้งที่รู้สึกแย่อาจเป็นเพราะคุณกดดันตัวเองมากไปก็ได้ ลองผ่อนคลายกับตัวเองบ้าง แล้วคุณจะดูแลตัวเองได้อย่างสมดุลและยั่งยืน