ว่ากันว่า ‘ความรัก’ เป็นพลังมหัศจรรย์ที่ทำให้เราอยากเป็นตัวเองในเวอร์ชันที่ดีขึ้น และยังทำให้เราปลดล็อกตัวเอง ทำอะไรใหม่ๆ เพื่อคนที่เรารักได้ ไม่ว่าจะเป็นการลองทำในสิ่งที่ไม่เคยทำหรือสิ่งที่เราอาจจะไม่ชอบ แต่เมื่อไรที่เราเริ่มรู้สึกอึดอัดหรือฝืนใจในสิ่งที่ทำจนเข้าสู่โหมด #อะไรก็ยอมเธอ วันนั้นเราอาจต้องถอยกลับมารีเช็กหัวใจตัวเอง ก่อนปล่อยให้ตัวเองจมอยู่ในความรู้สึกนั้นเพียงลำพังและสะสมจนรอวันระเบิด
คำถามที่เราสามารถถามตัวเองได้ง่ายๆ คือ “ทำแล้วเรามีความสุขหรือเปล่า”
การที่คนสองคนคบหาดูใจกัน แน่นอนว่าสิ่งที่เราต้องเผชิญคือ ‘ความแตกต่าง’ ต่างคน ต่างนิสัย และต่างความคิด การจะทำให้ความสัมพันธ์ไปต่อได้ต้องอาศัยความยืดหยุ่น การปรับตัวเข้าหากัน และการหาจุดตรงกลางให้เจอ
ยกตัวอย่างกรณีที่ฝ่ายชายชอบดูบอลมาก แต่ฝ่ายหญิงไม่ชอบแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตาม หากการใช้เวลานั่งดูบอลกับแฟนทำให้เธอมีความสุขและได้เปิดประสบการณ์ใหม่ไปในตัว ก็ไม่ถือว่าเป็นการสูญเสียความเป็นตัวเอง
แต่ในทางกลับกัน หากเธอรู้สึกฝืนใจและอึดอัดมาก ก็เป็นอีกกรณีที่ทั้งสองควรต้องเปิดใจคุยกันตรงๆ
หากการคุยกันซึ่งหน้ายังทำให้ทั้งสองหาจุดตรงกลางไม่เจอ อีกวิธีที่ช่วยได้คือการพบนักจิตบำบัดเพื่อทำ ‘Couple Therapy’ หรือการบำบัดชีวิตคู่ ซึ่งถือเป็นอีกทางเลือกที่สามารถช่วยปรับจูนให้ความสัมพันธ์ดีขึ้นได้
สุดท้ายแล้วไม่ว่าคุณจะอยู่ในความสัมพันธ์รูปแบบใด สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเสมอก็คือ ‘ความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเอง’ แล้ววันนี้คุณเช็กเสียงหัวใจตัวเองหรือยัง
อ้างอิง:
- บทสัมภาษณ์กับนักสุขภาพจิตจาก Mental Well Clinic