สายฟิตที่ได้ลองเข้าวงการ ‘พิลาทิส’ จะมีอยู่ 2 แบบหลักๆ ไม่ยกธงขาวตั้งแต่จบคลาสแรกก็ตกหลุมรักเลย ถ้าคุณเป็นหนึ่งในคนกลุ่มหลังที่ได้เดินหน้าทัวร์กรุ๊ปคลาสพิลาทิสมากมายจนถึงจุดที่ร่างกายเริ่มชิน เราอยากจะชวนมาอัปเลเวล ชาเลนจ์ตัวเองแบบถึงพริกถึงขิง กับคลาสพิลาทิสไพรเวต 1:1 ที่ Breathe Pilates สตูดิโอพิลาทิสอันดับ 1 จากสิงคโปร์ ที่เพิ่งมาปักหลักในไทยอย่างเป็นทางการเมื่อต้นปีนี้
What is it?
Breathe Pilates เป็นสตูดิโอพิลาทิสที่ก่อตั้งโดย Dennis Teo, Cholthicha Srivisal และ Deborah Wong ซึ่งมุ่งเน้นนำเสนอประสบการณ์ระดับพรีเมียมในรูปแบบกรุ๊ปคลาสและไพรเวต ทั้งยังเป็นศูนย์รวมผู้สอนพิลาทิสมืออาชีพระดับแนวหน้า ซึ่งมีความเชี่ยวชาญครอบคลุมทั้งด้านคลินิกบำบัดและพิลาทิสสำหรับคุณแม่ก่อนคลอด นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์ฝึกอบรมสำหรับ STOTT PILATES® ในสิงคโปร์และกรุงเทพฯ อีกด้วย เรียกว่าใครที่อยากผันตัวเป็นครูสอนพิลาทิสก็สามารถตบเท้ามาสมัครเรียนที่นี่ได้
บรรยากาศของสตูดิโอถูกตกแต่งในสไตล์มินิมัล มอบความสบายตาด้วยโทนสีครีม ตัดด้วยพื้นหลังสีกรมเด่นกลางห้อง จากจำนวนของเครื่อง Reformer Pilates, Tower รวมถึงอุปกรณ์อื่นๆ จะเห็นได้ว่าที่นี่รองรับนักเรียนเป็นกลุ่มเล็กไม่เกิน 8 คน เพื่อความทั่วถึงในการสอน
ในส่วนของครูผู้สอนคลาสไพรเวต 1:1 ของเราในวันนี้ก็เป็นหนึ่งในทีมผู้ก่อตั้งอย่าง ชลธิชา ศรีวิศาล หรือ ครูธิชา ที่คอยบินไป-กลับจากสิงคโปร์เพื่อเทรนนักเรียนเป็นระยะ
เดิมทีครูธิชาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทจากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (Massachusetts Institute of Technology: MIT) และใช้เวลา 15 ปีไปกับงานด้านการธนาคาร ทว่าเธอได้รับบาดเจ็บบริเวณหลังและข้อเท้าจากอุบัติเหตุในปี 2545 และนั่นได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตที่ทำให้เธอได้สัมผัสกับพิลาทิส เธอรักษาและฟื้นฟูร่างกายของด้วยพิลาทิสอย่างแท้จริง และตัดสินใจลาออกจากโลกธุรกิจเพื่อทำตามความฝันในการเป็นผู้สอนพิลาทิส
View this post on Instagram
ครูธิชาได้รับการรับรองจาก STOTT PILATES® อย่างเต็มรูปแบบในปี 2550 และกลายเป็น Merrithew® Instructor Trainer ที่เชี่ยวชาญด้าน STOTT PILATES® และในปีถัดมาเองเธอก็ยังได้รับรางวัลในตำแหน่ง Lead Instructor Trainer และมุ่งเน้นไปที่การศึกษาในศาสตร์ของ STOTT PILATES® เป็นหลักอีกด้วย
Try
“วันนี้เราจะไม่ใช้ Reformer Pilates เลย มันง่ายไป” ครูธิชากล่าว สิ้นสุดคำพูด ครูธิชาก็ให้เราขึ้น (เขียง) เครื่อง Cadillac เพื่อวอร์มร่างกาย และฝึก Activate หน้าท้อง
หลังวอร์มเสร็จก็จะเริ่มเข้าสู่การฝึกความแข็งแรงอย่างจริงจังบนเครื่อง Cadillac ซึ่งเป็นอะไรที่ค่อนข้างเซอร์ไพรส์สำหรับมือใหม่ เพราะเครื่องนี้สามารถเล่นได้สารพัดท่า และทำให้เรารู้เลยว่ากล้ามเนื้อส่วนไหนของร่างกายที่อ่อนแรงหรือแข็งแรง
นอกจากนี้ยังทำให้เราได้ฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็กทั่วร่าง และแน่นอนว่าได้ยืดเหยียดสุดทาง โดนทุกจุดตึงของร่างกาย พิสูจน์ได้จากเสียงเอ็นลั่นกร๊อบแกร๊บเป็นระยะ
ระหว่างการฝึกนั้น สิ่งที่ครูธิชาจะให้ทำเสมอคือการฝึกกำหนดลมหายใจให้ถูก และเกร็งหน้าท้องไว้เสมอ ซึ่งสิ่งที่เราสัมผัสได้ตลอดช่วงเวลาที่ห้อยโหนบนเจ้าเครื่องนี้คือการเกร็งร่างกายร้อยเปอร์เซ็นต์ เรียกว่าเกร็งทุกส่วน โดยเฉพาะแกนกลางลำตัว เลยถึงบางอ้อว่า ทำไมคนที่ฝึกพิลาทิสบ่อยๆ ถึงได้มีร่างกายที่ลีน แข็งแรง แถมยังบาลานซ์ดีอีกต่างหาก
จบจากเซสชันบนเขียงไปแล้ว ครูธิชาก็ให้พุ่งตัวไปต่อที่ Pilates Chair สำหรับสเตชันนี้ครูธิชาให้ฝึกท่าที่ได้บริหารแกนกลางลำตัวกันต่อ โดยมีทั้งท่า Side Bend และชาเลนจ์ความร้าวไปอีกขั้นด้วยการทำท่า Plank โดยวางมือบน Pedal ทั้งสองข้าง ต่อด้วยท่า Side Plank Rotation ซึ่งได้ฝึกความแข็งแรงทั้งไหล่ แขน ก้น และท้อง ในคราวเดียว
ต่อด้วยการฝึกความยืดหยุ่นของร่างกายบน Ladder Barrels ซึ่งเป็นเครื่องที่ดีต่อการฝึกความแข็งแรงของหน้าท้องและยืดเหยียดมากๆ
สำหรับสเตชันนี้ครูธิชาได้ให้เราลองฝึกท่า Scorpion โดยการนอนคว่ำแล้วจับบาร์ตำแหน่งล่างสุดของเครื่อง เกร็งหน้าท้องแล้วงอขากลับมาแตะผนัง ซึ่งคนที่กล้ามเนื้อแกนกลางยังไม่แข็งแรงและลำตัวที่แข็ง ไม่ยืดหยุ่นแบบเรา อาจจะรู้สึกชาเลนจ์หน่อย แต่เชื่อเลยว่าการได้ฝึกฝนเป็นประจำจะทำให้ฝึกท่านี้ได้ไม่ยาก
หลังเจอความร้าวรานจากการฝึกบริหารไปหลายท่า ก็ถึงช่วงเวลาแห่งการ Stretching ซึ่งเป็นเซสชันที่ฟังดูผ่อนคลาย สบายๆ แต่ความเป็นจริงก็ยังเป็นการฝึกอยู่ดี โดยมีการกลับไปที่ Cadillac อีกรอบ โดยครูธิชาได้สาธิตท่าให้ดูก่อน ซึ่งคงไม่ต้องบอกว่าท่าครูสวยแค่ไหน
ส่วนมนุษย์ขาตึงจากการเล่นเวตเป็นประจำอย่างเรา แค่วางขาลงบนบาร์ก็สัมผัสได้ถึงความร้าวรานแล้ว เมื่อได้ลองยืดเหยียดร่างกายไปสุดนั้น ก็สัมผัสได้ถึงความทรมานที่สวยงาม
Result
จากนักเรียนที่เคยเข้าเพียงคลาส Reformer Pilates แบบกลุ่ม พอได้มาลองแบบไพรเวตแล้วทำให้รู้เลยว่า นี่แหละการฝึกพิลาทิสที่ตามหา ความเชี่ยวชาญของครูผู้สอนนั้นทำให้เราได้ปลดล็อกศักยภาพตัวเองทุกด้านแบบเต็มที่จริงๆ และทำให้เรารู้ว่าจุดอ่อนของร่างกายเราคืออะไร
Good for
ข้อดีของคลาสไพรเวตแบบ 1:1 คือการได้ฝึกความแข็งแรงโดยอิงจากพื้นฐานความแข็งแรงของร่างกายของเราจริงๆ เรียกได้ว่าเราจะได้พัฒนาศักยภาพร่างกายกับครูฝึกอย่างตรงจุด ใครท่ีต้องการฝึกพิลาทิสแบบจริงจัง ไม่ว่าจะด้วยจุดประสงค์ในด้านการเพิ่มความลีน ความฟิต หรือความยืดหยุ่น คลาสไพรเวตของ Breathe Pilates ก็สามารถจัดให้ได้หมด และยังสามารถวางใจได้กับความเชี่ยวชาญของครูผู้สอนที่มีประสบการณ์ครบเครื่อง
Breathe Pilates
Open: วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.00-20.00 น., วันเสาร์ เวลา 08.00-16.00 น. และวันอาทิตย์ เวลา 08.00-12.00 น.
Address: 494 ชั้น 4 Erawan Bangkok (ติดกับสถานีรถไฟฟ้า BTS ชิดลม)
Tel.: 09 2629 4433
Budget: Private Class: 4,000 บาทต่อครั้ง, 17,500 บาทต่อ 5 ครั้ง และ 30,000 บาทต่อ 10 ครั้ง (สอบถามราคาเพิ่มเติมได้ทางสตูดิโอ)
Website: https://www.breathepilates.co.th
Facebook: https://www.facebook.com/breathepilatesbkkth
Instagram: https://www.instagram.com/breathepilatesth