ถ้าเราชวนทุกคนไปตามหาร้านอาหารที่เยาวราช หลายคนคงไม่นึกถึงอาหารใต้รสเผ็ดๆ อย่างแน่นอน เพราะใครจะเชื่อว่าบนถนนมังกรที่มีวัดจีน ร้านอาหารจีนเปิดอยู่เต็มไปหมด จะมีหนึ่งร้านอาหารใต้เปิดอยู่อย่างกลมกลืนท่ามกลางความจอแจสไตล์เยาวราช
วันนี้เราจะพาทุกคนไปนั่งกินอาหารใต้บนถนนมังกรด้วยกันที่ Phukej (ภูเก็จ) ร้านอาหารไวบ์อบอุ่นสมัยใหม่ที่เปลี่ยนตึกเก่าในซอยมังกรให้กลายเป็นครัวอาหารใต้ที่นำเสนอหลายวัฒนธรรม
The Vibe
Phukej เปิดอยู่ในตึกเก่าอดีตโกดังเก็บของ ซึ่งตอนนี้ถูกรีโนเวตให้กลายเป็นร้านอาหารใต้บรรยากาศดี เมื่อเปิดประตูเข้ามาทุกคนจะเจอกับการตกแต่งที่เหมือนอยู่บ้าน มีทั้งโต๊ะไม้ เก้าอี้ไม้ และตู้กับข้าวที่เต็มไปด้วยตำรับตำราทำอาหาร เนื่องจากเจ้าของร้านเป็นคนครัวในร้านอาหารมีชื่อมาก่อน
แล้วเราก็ชอบที่สามารถนั่งมองบรรยากาศภายนอกร้านระหว่างกินอาหารใต้ได้ด้วย ทำให้รู้สึกว่าร้านนี้มีชีวิตชีวาขึ้นมา
The Taste
Phukej เป็นร้านอาหารใต้สไตล์ภูเก็ตอย่างที่ชื่อบอก และถ้าหากเราลองศึกษาวัฒนธรรมอาหารภูเก็ตจริงๆ จะรู้ว่ามีวัฒนธรรมชาวจีนฮกเกี้ยนผสมอยู่ด้วย และนั่นคืออีกหนึ่งเหตุผลที่ดีที่ Phukej มาเปิดอยู่ในย่านนี้
เช่นเดียวกับอาหาร เมนูและสูตรที่ร้านจึงมีทั้งอาหารใต้สไตล์ภูเก็ต ผสมกลิ่นอายชาวเปอรานากัน (ชาวจีนในแถบภาคใต้) รวมไปจนถึงอาหารใต้ในจังหวัดใกล้เคียง และปีนัง มะละกา หรือประเทศสิงคโปร์ ที่ล้วนมีวัฒนธรรมอาหารคล้ายๆ กัน
“สูตรอาหารเรานำมาจากหนังสือเก่าบ้าง โดยใช้วิธีเทียบสูตร หรือผมไปชิมเองที่ภูเก็ต มะละกา ปีนัง สิงคโปร์ แล้วนำสูตรมาปรับเป็นสไตล์ของเรา แต่บางเมนูก็ทำตามรสชาติดั้งเดิม บางเมนูที่คนรู้จักแล้วก็ปรับใหม่บ้างให้ดูสนุกขึ้น” เชฟกร เจ้าของร้าน Phukej บอก
เมนูซิกเนเจอร์ที่แนะนำให้สั่งก็มี หลนหอยเชลล์กระทงทอง (350 บาท) กรบอกว่าถ้าไปภูเก็ตอาจไม่ค่อยเห็นกระทงทองลักษณะนี้ เพราะเป็นถ้วยทรงสูง จะเจอในปีนัง มะละกา หรือสิงคโปร์มากกว่า โดยร้านนำมาทำให้แปลกใหม่ขึ้นด้วยการใส่ไส้เป็นหลน และท็อปหอยเชลล์
หอยกอและย่างกับผักดอง (250 บาท) เมนูนี้น่าสนใจดี ร้านใช้หอยแมลงภู่หมักกับเครื่องแกง ก่อนนำไปย่างรมควันกับกาบมะพร้าว เสิร์ฟมาพร้อมผักดอง ทุกอย่างรสชาติตัดกันลงตัวดี
หมูฮ้องทอดภูเก็จ (330 บาท) อาหารขึ้นชื่อประจำภาคใต้ แต่สำหรับ Phukej ร้านจะเสิร์ฟแบบใหม่ โดยนำหมูสามชั้นไปตุ๋นและทอด ก่อนราดซอสเสิร์ฟ เนื้อหมูจะไม่ฉ่ำๆ อย่างที่ทุกคนคุ้นเคยกัน จะมีความนุ่มแน่นเคลือบซอสมากกว่า
ยำกะปิสตรอว์เบอร์รีกุ้ง (320 บาท)’ เมนูนี้เราชอบ แม้จะไม่ใช่แฟนกะปินัก เพราะรสชาติสตรอว์เบอร์รีช่วยทำให้ทุกอย่างสดชื่นและมีความเปรี้ยวหวานอีกแบบ
คอหมูสะตอคั่วน้ำพริกกุ้งเสียบ (320 บาท) จานนี้ก็เด็ด เพราะน้ำพริกกุ้งเสียบเป็นของขึ้นชื่อแดนใต้ ร้านนำมาผัดกับคอหมู สะตอ และมะเขือเปราะ กินแต่ละคำรสเข้มข้นจัดจ้านดีเลย
ถ้าใครอยากลองของเผ็ดต้องสั่ง แกงเนื้อใบยี่หร่า (420 บาท) ร้านนำเนื้อออสเตรเลียไปตุ๋น ส่วนเครื่องแกงทำเอง และผสมสมุนไพรไทยให้มีความเผ็ดร้อนมากขึ้น แต่กลมกล่อมด้วยกะทิ
ปิดท้ายด้วยขนม ชีสเค้กบีโกหมอย (250 บาท) ที่หน้าตาโมเดิร์น หรือ โอ้เอ๋วกุหลาบลิ้นจี่ (180 บาท) ที่กินแล้วสดชื่น เหมาะกับสั่งกินปิดท้ายมื้ออาหารใต้รสเผ็ดร้อน
Good for…
ถ้าใครอยากกินอาหารใต้ในบรรยากาศดีๆ เราว่า Phukej เป็นอีกร้านที่น่าสนใจ เพราะรสชาติยังมีความเป็นอาหารใต้อยู่ ทว่ามาในรูปลักษณ์หน้าตาที่ดูพิเศษขึ้น แถมร้านยังเดินทางมาง่าย อยู่ในซอยมังกร แต่เราแนะนำให้เดินเข้ามาจะง่ายกว่า โดยอยู่ไม่ไกลจาก MRT สถานีวัดมังกร
Phukej Restaurant
Address: ถนนมังกร
Open: วันพฤหัส-จันทร์ เวลา 11.00-21.00 น.
Contact: ภูเก็จ Phukej
Budget: 500-1,500 บาท
Map: