สำหรับบางคน ฝนคืออุปสรรค รถติด เสื้อผ้าเปียก และความยุ่งยากที่อยากหลีกเลี่ยง แต่ยังมีอีกกลุ่มหนึ่งที่มองเห็นความงามอันแผ่วเบาในวันที่เม็ดฝนโปรยลงมา คนกลุ่มนั้นถูกเรียกว่า ombrophile คนที่รักฝน คนที่รู้สึกสงบ อุ่นใจ หรือได้รับแรงบันดาลใจจากฟ้าหม่นๆ และเสียงฝนโปรยปราย
ombrophile มาจากภาษากรีก ombros แปลว่าฝน และ phile แปลว่าผู้ที่รัก เป็นคำที่สะท้อนความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง ไม่ใช่เพียงการ “ชอบฝน” แต่คือความผูกพันทางอารมณ์ ฝนไม่ใช่ความหม่นหมอง แต่เปรียบเหมือนบทกวีที่ปลอบประโลมและฮีลใจ ทำให้เราได้ยินเสียงของตัวเองชัดขึ้น
คนที่เป็น ombrophile มักหลงรักสิ่งเล็กๆ ที่เกิดขึ้นในวันที่ฟ้าหม่น กลิ่นของดินเปียกที่เรียกว่า petrichor เสียงเม็ดฝนกระทบกระจก ความหนาวเบาๆ ที่ทำให้การอยู่บ้านมีความหมายขึ้น หรือแม้แต่การยืนริมหน้าต่างแล้วสังเกตต้นไม้ที่สั่นไหวไปตามแรงลม ทุกอย่างดูช้าลง อ่อนลง และจริงใจขึ้นราวกับโลกกำลังบอกให้เราหยุดและหายใจอีกครั้ง
ด้านจิตวิทยาอธิบายว่าเสียงฝนเป็นลักษณะหนึ่งของ white noise ที่ช่วยให้ระบบประสาทสงบลง ลดความฟุ้งซ่านและความตึงตัวของร่างกาย ขณะที่แสงที่นุ่มลงและบรรยากาศเงียบกว่าปกติทำให้สมองรู้สึกเหมือนได้รับพื้นที่ส่วนตัวมากขึ้น จึงไม่น่าแปลกที่หลายคนจะใช้วันฝนตกเป็นจังหวะทบทวนชีวิต เขียนไดอารี หรือเริ่มต้นงานสร้างสรรค์ที่เลื่อนไปนาน


