ตั้งแต่ช่วงหลังคลายล็อกดาวน์เราจะเห็นได้ว่ามีบาร์ใหม่ผุดขึ้นเยอะราวดอกเห็ดจวบจนทุกวันนี้ พักค็อกเทลบาร์ไปสักวันแล้วมาจิบไวน์แทนบ้างดีกว่า รอบนี้ LIFE จะพากลับไปนั่งชิลแถวสะพานควาย ไม่ใช่ที่ไหนนอกจากชั้นลอยของ BONCI กับบาร์ที่ใช้ชื่อว่า oben
The Vibe
สะดุดตาตั้งแต่ชื่อบาร์ oben ซึ่งเป็นคำเยอรมัน เมื่อแปลเป็นภาษาอังกฤษจะหมายความว่า above/beyond the surface หรือ upstairs ในความหมายสแลง ซึ่งสอดคล้องกับทำเลบาร์นั่นเอง
oben อยู่ชั้นลอยของ BONCI ไม่ไกลจากแยกสะพานควาย การขึ้นไปที่บาร์อาจต้องเดินอ้อมหลังอาคารเข้าทางลานจอดรถ เพราะบาร์เปิดหลังจากที่ร้านกาแฟปิดแล้ว
ในช่วงกลางวันพื้นที่บาร์ในห้องนี้จะเป็นดีไซน์สตูดิโอ หากใครต้องการสอบถามหรือปรึกษาเรื่องงานออกแบบก็สามารถแวะเวียนขึ้นไปรับคำแนะนำได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย พอตกค่ำพื้นที่ทำงานส่วนนี้ก็จะกลายมาเป็นไวน์บาร์นั่นเอง
ความที่เป็นดีไซน์สตูดิโอในพื้นที่เล็กๆ แค่ห้องเดียวนี้ไม่ใช่อุปสรรคสำหรับการเปลี่ยนมู้ดเป็นไวน์บาร์ในยามค่ำคืนแต่อย่างใด ทุกอย่างยังคงกลิ่นอายเดิมของห้องไว้แทบจะครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นไม้หรือกระจกขุ่นที่คั่นระหว่างร้านกาแฟกับไวน์บาร์/สตูดิโอ มีโต๊ะ-เก้าอี้รองรับแขก (ที่เป็นเหมือนเพื่อน) ได้ราว 8-10 คน และเมื่อได้ลองไปนั่งชิลดูแล้วรู้สึกเหมือนอยู่บ้านเพื่อนขึ้นมาจริงๆ
เนื่องจากผู้ก่อตั้งและหุ้นส่วนร้านทั้งสามชอบดื่มไวน์อยู่แล้ว จึงคัดไวน์ฉลากที่จิบง่ายทั้ง Pét-nat (สปาร์กลิงไวน์) ขาวและแดงอย่างละ 2-3 ประเภท มาหมุนเวียนเสิร์ฟให้เพื่อนทุกคนได้ลองจิบ หากพลิกเมนูจะเห็นไวน์ลิสต์แบบสั้น กระชับ เข้าใจง่าย ใช้เวลาตัดสินใจไม่นานก็ได้ขวดโปรดมาวางตรงหน้าเรียบร้อย
The Taste
เมนูที่บาร์เป็นแผ่นพับ ด้านหนึ่งเป็นลิสต์ไวน์ โดยแต่ละประเภทจะมีเพียง 2 ฉลากให้เลือก และบางขวดก็รินขายเป็นแก้ว ส่วนอีกด้านเป็นเมนูของกินเล่น ซึ่งทุกโต๊ะจะถูกเสิร์ฟด้วยนาโช่ชิปส์เป็นของกินเล่นแกล้มไวน์อยู่แล้ว ไม่ต้องสั่งเพิ่ม
สำหรับไวน์ขาว แนะนำเป็นแบรนด์หนึ่งจากเยอรมนี ด้วยรสชาติที่ค่อนข้างกลม หอมกลิ่นแอปเปิ้ลชุบน้ำตาลไหม้ ผลไม้ซิตรัส และมะม่วง อีกทั้งยังให้รสเปรี้ยวสดชื่น ยิ่งทำให้แก้วนี้เหมาะสำหรับการจิบยาวๆ ตลอดคืน
ส่วนไวน์แดงต้องลองตัวเบลนด์พิเศษจากออสเตรีย ซึ่งขวดนี้เป็นการผสมรวมระหว่าง Zweigelt, Blauer Portugieser และ Rossier สดชื่นด้วยกลิ่นผลไม้แดง แซมด้วยโอ๊ก พลัม และกลิ่นหนังจางๆ แน่นอนว่านี่เป็นไวน์แดงที่ดื่มง่ายอีกตัวหนึ่งที่เราอยากแนะนำ
ของกินเล่นแกล้มไวน์แบบเรียบง่ายที่สุดต้อง Sourdough & Butter (95 บาท) ขนมปังซาวโดวจ์กับเนยฝรั่งเศส ยิ่งได้แกล้มไวน์แดงแก้วโปรดด้วยก็คืออยู่ต่อได้เรื่อยๆ
ถ้ายังจุใจไม่พอก็สั่ง oben Popcorn (150 บาท) มาเพิ่มได้ บอกเลยว่าจานนี้กินแล้วหยุดไม่ได้ มีให้เลือกระหว่างรสชีสกับคาราเมล ท็อปด้วยมะม่วงหิมพานต์ให้กินคู่ป๊อปคอร์นเพลินๆ
oben MIXED NUT (95 บาท) ถั่วรวมมิตรที่เบลนด์ระหว่างพิสตาชิโอ แมคาเดเมีย ถั่วลิสง อัลมอนด์ มะม่วงหิมพานต์ และลูกเกด
มากันหลายคน oben PLATTER (600 บาท) น่าจะตอบโจทย์ที่สุด เพราะมีทั้งชีสและโคลด์คัต ถั่วรวมมิตร และแครกเกอร์ให้เลือกมิกซ์แอนด์แมตช์ตามชอบ
Good For
Drink Up! Talk More. Less Screen. นี่คือคติประจำร้านที่อยากให้ทุกคนที่แวะเวียนมานั่งเล่นลองปฏิบัติตาม แล้วจะพบว่ามันให้ผลดีจริงๆ ไม่ว่าจะเป็น Introvert/Extrovert มาเดี่ยว ควงแขนจูงมือเป็นคู่ กลุ่มก๊วน หรือมาพร้อมน้องสัตว์เลี้ยงคู่ใจ oben ก็เป็นเหมือนห้องนั่งเล่นบ้านเพื่อนที่เปิดประตูต้อนรับเสมอ ไม่จำเป็นต้องเปิดขวด แค่สักแก้วก่อนกลับบ้านก็ได้ความสุขเล็กๆ ติดไม้ติดมือกลับไปแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้นทีมงานยังกระซิบมาว่าอีกไม่นานไวน์บาร์แห่งนี้จะเริ่มมีการจับมือกับธุรกิจอื่นๆ ในละแวก เพื่อช่วยเหลือ สานสัมพันธ์ และสร้างโอกาสให้ผู้คนที่แวะเวียนมา oben ได้ช่วยอุดหนุนของดีย่านอารีย์-สะพานควาย ไม่แน่ในอนาคตเราอาจจะเห็นกับแกล้มจากร้านอาหารแถวนี้มาจับคู่กับไวน์ก็เป็นได้
oben
Open: วันพุธ-อาทิตย์ เวลา 19.00-00.00 น.
Address: 1477 ถนนพหลโยธิน
Tel: 09 5695 3553
Budget: 500-1,000 บาท
Website: https://www.instagram.com/obenbangkok
Map: