ใครที่ไม่ใช่สายฟิตอาจจะเบือนหน้าหนีเวลาได้ยินใครชักชวนไปออกกำลังกายด้วยกัน อย่าเพิ่งไถฟีดหนีถ้าเราจะเป็นอีกหนึ่งคนที่ชวน เพราะล่าสุดทีม THE STANDARD LIFE ได้ไปสัมผัสคลาสปั่นจักรยานที่ Native Cycle แล้วคงต้องบอกต่อจริงๆ
What is it?
เพียงกดลิฟต์ขึ้นมาชั้น 6 ของโรงแรมสีสันแสนสะดุดตาอย่าง The Fig Lobby ก็จะเจอกับตัวสตูดิโอที่เดินเข้ามาแล้วไม่ได้ให้ความรู้สึกตึงเครียดเหมือนกำลังจะมาทรมานตัวเอง ด้วยบรรยากาศและการตกแต่งที่เรียบง่าย สบายตา สะอาดสะอ้าน และยังมีห้องอาบน้ำ ผ้าขนหนู ของใช้ในห้องน้ำให้บริการอย่างครบครัน
คลาสที่ Native Cycle จะเป็นในรูปแบบ Rhythm Cycling หรือการปั่นตามจังหวะของเสียงเพลง ซึ่งเพลงที่ว่านี้ไม่ใช่แบบช้าๆ สำหรับปั่นชมนกชมไม้ แต่เป็นบีตเพลงสุดมันที่พร้อมปลุกอะดรีนาลีนให้พุ่งกระฉูดตลอด 45 นาที
ขนาดของสตูดิโอที่นี่จะรองรับนักปั่นได้สูงสุด 17 คน ดังนั้นไม่ต้องกลัวว่าจะรู้สึกเบียดแน่นหรืออึดอัดแต่อย่างใด
Try
สำหรับขั้นตอนการเตรียมตัวนั้นไม่มีอะไรมากเป็นพิเศษ เพียงแค่สวมใส่ชุดที่พร้อมปั่นแบบสะดวกคล่องตัวและถุงเท้าเป็นพอ เพราะที่นี่มีรองเท้าสำหรับปั่นโดยเฉพาะให้บริการ และยังมีผ้าเช็ดเหงื่อผืนเล็กประจำจักรยานทุกคันให้อีกด้วย (เรียกว่าอู้ไม่ได้)
หากใครพกกระบอกน้ำมาส่วนตัวก็สามารถเติมน้ำแล้วนำเข้าคลาสไปจิบระหว่างพักเหนื่อยด้วยได้ บรรยากาศในสตูดิโอให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในคลับ ด้วยแสงสีเสียงที่พร้อมจะสลับสับเปลี่ยนไปตามจังหวะเพลง เริ่มแรกครูฝึกจะแนะนำวิธีการเซ็ตจักรยานให้พอดีกับความสูงและสรีระของแต่ละคน ซึ่งไม่ต้องกังวลว่าจะเซ็ตผิดแล้วเกิดอาการบาดเจ็บภายหลัง เพราะครูจะเดินเช็กความปลอดภัยอย่างทั่วถึงให้ทุกคนก่อนเริ่มคลาส
พอนำเท้ามาวางตรงที่พักเท้าเลยเข้าใจว่าทำไมจึงต้องสวมใส่ของเท้าสำหรับปั่นของที่นี่โดยเฉพาะ เพราะใต้รองเท้านั้นถูกออกแบบให้มีปุ่มยื่นออกมาเพื่อล็อกกับร่องบริเวณที่พักเท้าได้อย่างพอดีและแนบแน่น กันการปั่นแล้วหลุดออกจากเท้า ซึ่งแตกต่างจากคลาสปั่นจักรยานในยิมทั่วไปที่สามารถใช้รองเท้าออกกำลังกายทั่วไปปั่นได้ โดยมีสายคาดเป็นตัวรัดเท่านั้น
เมื่อทุกอย่างพร้อมโค้ชก็ให้เริ่มวอร์มอัพทำความคุ้นเคยกับการปั่น ผู้ที่รับหน้าที่โค้ชวันนี้คือโค้ช Araya และ Natcha ซึ่งการสอนที่นี่จะอยู่ในรูปแบบภาษาอังกฤษทั้งหมด โดยจะเน้นให้ขาขวาปั่นลงจังหวะตามบีตเสมอ
แต่ละแทร็กที่ทางสตูดิโอเตรียมมานั้นจะชาเลนจ์ขึ้นเรื่อยๆ โดยโค้ชจะให้ปรับความหนืดของตัวเครื่องตามความเหมาะสม และคอยให้สัญญาณวิธีการปั่น เช่น การปั่นนั่งสลับยืน, การยืนปั่นไปยาวๆ ตลอดจนการสปรินต์หรือเร่งปั่นด้วยความเร็วเท่าที่เราสามารถจะเร็วได้ และยังเดินลงมาบิลด์เพิ่มความตื่นเต้นให้นักปั่นอีกด้วย
อย่าเพิ่งคิดว่าการปั่นจักรยานจะได้แค่บริหารขาเป็นหลัก เพราะโค้ชจะมีท่าบริหารเสริมระหว่างการปั่นอย่าง Crunch ที่บังคับให้เราต้องเกร็งทั้งแกนกลางลำตัว อก ไหล่ แขน
และในแทร็กหลังๆ ก็ยังมีการใช้เวตเทรนนิ่งอีก เรียกว่าได้บริหารกล้ามเนื้อครบทุกส่วนจริงๆ
Result
หลังจาก 45 นาทีแห่งความหรรษา โค้ชก็จะให้ลงจากจักรยานมายืดเส้นคลายกล้ามเนื้อ สิ่งที่เราต่างสัมผัสได้คือความรู้สึกของความ ‘ขาหล่อย’ ความเบาหวิวล่องลอยขณะเดิน แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกสดชื่นเหมือนร่างกายได้ปลดปล่อยพลังและก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง โดยเฉพาะในแทร็กที่ต้องปั่นให้ไวที่สุดขณะยืน
Good for
Native Cycle เหมาะกับทั้งมือใหม่ที่อยากสัมผัสกับความสนุกเร้าใจของ Rhythm Cycling และนักปั่นตัวยง รับรองว่ามาแล้วจะได้เพื่อนใหม่กลับไปแน่นอน หลังจากปั่นเสร็จใครหิวก็ยังสามารถแวะลงไปอะไรกินเล่นที่คาเฟ่ของโรงแรมพลางชมนิทรรศการเก๋ๆ ภายในโรงแรมเพลินๆ ได้อีก
ภาพ: ปวรุตม์ งามเอกอุดมพงศ์
Native Cycle
Open: วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป, วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-12.00 น.
Address: 6th Floor, The Fig Lobby
Budget: Drop-in 890 บาทต่อคลาส, 3 คลาส เริ่มต้นที่ 1,800 บาท
Tel.: 06 1419 1714
Website: https://www.native-cycle.com
Instagram: https://www.instagram.com/nativecycle