ช่วงเทศกาล หลายคนไม่ได้ตื่นเต้นกับการเลือกของขวัญเหมือนเมื่อก่อนแล้วนะ แต่กลับรู้สึกกดดันมากขึ้น ต้องซื้อให้ครบ ต้องราคาไม่ต่างกัน ต้องไม่ดูน้อยหน้าปีที่แล้ว จากความตั้งใจดีเลยกลายเป็นความเครียดแบบไม่รู้ตัว ซึ่งในทางจิตวิทยาเรียกว่า Obligation Stress คือความเครียดที่เกิดจากความรู้สึกว่า “ยังไงก็ต้องให้” เพื่อรักษาความสัมพันธ์ ทั้งที่จริงๆ ใจเราอาจจะไม่ไหวแล้วด้วยซ้ำ
หลายคนไม่ได้ไม่อยากให้หรอกนะ แต่แค่กลัวว่า “ให้ไม่ดีพอ” เราเลยเผลอเอาความรักไปผูกกับราคาของขวัญ ยิ่งแพงยิ่งเหมือนใส่ใจ ทั้งที่ความจริง ความสัมพันธ์ไม่ได้วัดกันตรงนั้นเลย ลองคิดดูสิของบางชิ้นราคาไม่สูง แต่เราจำได้ไม่ลืม เพราะมันมาจากใจจริงๆ
ถ้าไม่อยากให้การให้กลายเป็นภาระ ลองเริ่มจากคุยกันตรงๆ ด้วยนะ ว่าปีนี้อยากให้กันแบบไหน ตั้งงบไหม หรือเปลี่ยนรูปแบบไปเลยก็ได้ การคุยไม่ได้ทำลายบรรยากาศอย่างที่คิด แต่ช่วยให้ทุกคนโล่งใจมากขึ้น เพราะบางทีอีกฝ่ายก็เครียดเหมือนกัน แค่ไม่มีใครกล้าเริ่มพูด
อีกทางที่ช่วยลดแรงกดดันได้เยอะ คือเปลี่ยนจากของเป็นประสบการณ์ มื้ออาหารเล็กๆ เวลาที่ตั้งใจให้ หรือกิจกรรมที่ทำด้วยกัน มักมีค่าทางใจมากกว่าของแพงๆ ที่ซื้อมาแล้วก็เก็บ การให้แบบ IOU หรือคูปองเวลาก็ดีนะ ให้เขาเลือกเองว่าอยากใช้เวลาแบบไหน แค่นี้ก็รู้สึกว่าเราใส่ใจแล้ว
สุดท้าย ถ้าการให้แบบเดิมทำให้คุณเหนื่อย ลองอนุญาตให้ตัวเองเปลี่ยนวิธีบ้างก็ได้ ไม่ว่าจะ re-gift ตั้งกติกาใหม่ หรือสร้างธรรมเนียมง่ายๆ ที่ทำซ้ำได้ทุกปี ของขวัญไม่ควรทำให้ใครรู้สึกผิด หรือฝืนใจตัวเองเลยนะ เพราะสิ่งที่คนจำได้จริงๆ ไม่ใช่ว่าเราให้ “อะไร” แต่คือเราให้ด้วย “ความรู้สึกแบบไหน” มากกว่า


