หนึ่งกิจกรรมน่าสนใจสำหรับการเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่นอกจากกางเต็นท์นอน ส่องสัตว์ในยามค่ำคืนแล้ว คือการเดินป่าระยะสั้นแบบไม่ค้างคืน หรือ Hiking ซึ่งใช้วันว่างเพียงแค่ครึ่งวัน พร้อมอุปกรณ์เดินป่าแบบง่ายๆ ก็สามารถผจญภัยได้แล้ว
อุทยานแห่งชาติใหญ่เขาใหญ่ เป็นอุทยานแห่งแรกของประเทศไทย กินพื้นที่ 11 อำเภอ 4 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ปราจีนบุรี สระบุรี และนครนายก มีความสำคัญทั้งต่อประเทศไทยและระดับโลก จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ภายใต้ชื่อ ‘พื้นที่กลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่’ ในปี 2005 แน่นอนว่าความกว้างใหญ่และอุดมสมบูรณ์ย่อมก่อให้เกิดความหลากหลายของสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ที่นี่จึงมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติแบบระยะสั้นมากถึง 7 เส้นทาง ตลอดทั้งปี เริ่มตั้งแต่ 1.2-8 กิโลเมตร บางเส้นทางสามารถเดินได้ตัวเอง บางเส้นทางต้องติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อนำทาง โดยแต่ละเส้นทางมีเสน่ห์ต่างกัน มาดูกันสิว่าทั้ง 7 เส้นทาง มีเส้นทางไหนที่น่าสนใจ และเราสามารถเดินทางตอนไหนได้บ้าง
เส้นทางที่ 1: ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว-น้ำตกกองแก้ว
เส้นทางเดินป่าระยะสั้นที่สุดและเดินง่ายที่สุด เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวทุกเพศวัย ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมงในการเที่ยวชมธรรมชาติ เส้นทางนี้คุณจะได้ลัดเลาะป่าดิบชื้นสลับกับป่าดิบแล้ง ระหว่างทางจะได้พบไม้กฤษณา ซึ่งเป็นไม้หอม มีคุณค่าของไทย นอกจากนี้อาจจะพบกับชะนีมือขาว ชะนีมงกุฎ นกนานาชนิด และน้ำตกกองแก้ว ซึ่งเป็นน้ำตกที่เกิดจากหินภูเขาไฟ และป่าพรุน้ำจืดเป็นจุดหมายปลายทาง
ระยะทาง: 1.2 กิโลเมตร เส้นทางเดินทางเดียว วนกลับมาที่เดิม
ระยะเวลา: 45 นาที – 1 ชั่วโมง
เจ้าหน้าที่: ไม่จำเป็น
ช่วงเวลาที่เปิด: ตลอดทั้งปี
เส้นทางที่ 2: 160 ปี ความสัมพันธ์ไทย-เยอรมนี (น้ำตกผากล้วยไม้-น้ำตกเหวสุวัต)
เส้นทางศึกษาธรรมชาติที่เชื่อมระหว่าง 2 น้ำตก ได้แก่ น้ำตกผากล้วยไม้กับน้ำตกเหวสุวัต เสน่ห์ของเส้นทางนี้คือการเดินลัดเลาะไปตามลำห้วยลำตะคอง ผ่านป่าไผ่สลับป่าดิบ-แล้ง ตลอดเส้นทางจะได้ยินเสียงน้ำตกดังกึกก้อง หากเดินในหน้าแล้งจะเห็นร่องรอยของธารลาวาเมื่อหลายร้อยล้านปีก่อน รวมทั้งดอกไม้หินและหวายแดง
ระยะทาง: 3 กิโลเมตร เส้นทางเดินทางเดียว
ระยะเวลา: 2 ชั่วโมง
เจ้าหน้าที่นำทาง: ไม่จำเป็น
ช่วงเวลาที่เปิด: เดือนตุลาคม-กรกฎาคมของทุกปี
เส้นทางที่ 3: 90 ปี ความสัมพันธ์ไทย-สวิตเซอร์แลนด์ (กม.33-หนองผักชี)
เส้นทางเดินป่าที่เน้นความหลากหลายของประเภทป่าต่างๆ ได้แก่ ป่าดิบแล้ง ป่ารุ่นสอง และทุ่งหญ้า โดยมีไฮไลต์ของเส้นทางเป็นต้นไทรและต้นหว้าขนาดใหญ่ ต้นกะเพรายักษ์ที่มีเฉพาะป่าดงพญาเย็น และร่องรอยของช้างและกระทิงที่สามารถเห็นได้ตลอดทาง
ระยะทาง: 3.3 กิโลเมตร เส้นทางเดินทางเดียว
ระยะเวลา: 2 ชั่วโมง 50 นาที – 3 ชั่วโมง
เจ้าหน้าที่นำทาง: จำเป็น
ช่วงเวลาเปิด: เดือนพฤศจิกายน-สิงหาคมของทุกปี
เส้นทางที่ 4: ดงติ้ว-อ่างเก็บน้ำสายศร
เส้นทางศึกษาธรรมชาติที่มุ่งหน้าสู่อ่างเก็บน้ำสายศร ซึ่งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกสวยที่สุดแห่งหนึ่ง ตลอดเส้นทางนักเดินทางจะได้พบกับความงามของต้นไม้ในป่าดิบแล้ง ป่ารุ่นสอง พบดอกไม้หลากชนิดในฤดูฝน ไม่ว่าจะเป็น หงส์เหิน บีโกเนีย ชาฤาษี เป็นอาทิ อย่าลืมถ่ายภาพกับต้นสมพงยักษ์ ไม้ยืนต้นอายุหลายร้อยปีที่มีขนาดหลายคนโอบด้วย
ระยะทาง: 2.7 กิโลเมตร เส้นทางเดินทางเดียว
ระยะเวลา: 1 ชั่วโมง 50 นาที – 2 ชั่วโมง
เจ้าหน้าที่นำทาง: จำเป็น
ช่วงเวลาเปิด: เดือนสิงหาคม-พฤษภาคมของทุกปี
เส้นทางที่ 5: ดงติ้ว-หนองผักชี
เส้นทางศึกษาธรรมชาติที่เน้นความหลากหลายของประเภทป่าไม้คล้ายกับเส้นทางไทย-สวิส แต่มีระยะทางไกลกว่า เส้นทางนี้มีจุดเริ่มต้นตรงดงติ้ว เส้นทางเดียวกันกับเส้นที่ 4 ตลอดสองข้างทาง นักเดินป่าจะได้พบกับความอุดมสมบูรณ์ของป่าดิบแล้ง ป่ารุ่นสอง และทุ่งหญ้า ลักษณะเส้นทางเป็นทางราบลุ่มสลับกับเขาชัน ไฮไลต์ของเส้นทาง คือต้นสมพงยักษ์ที่มีอายุหลายร้อยปี เส้นทางนี้เป็นเส้นทางหากินของสัตว์หลายชนิด เช่น ช้างป่า หมี นกเงือก และชะนี
ระยะทาง: 5 กิโลเมตร เส้นทางเดินทางเดียว
ระยะเวลา: 3 ชั่วโมง
เจ้าหน้าที่นำทาง: จำเป็น
ช่วงเวลาเปิด: เดือนกันยายน-เมษายนของทุกปี
เส้นทางที่ 6 ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว-น้ำตกเหวสุวัต
เส้นทางศึกษาธรรมระยะยาวที่สุดในเส้นทางทั้งหมด กินระยะทางทั้งหมด 8 กิโลเมตร ใครที่เลือกเส้นทางนี้ต้องมีเวลาและเตรียมพร้อมนิดหนึ่ง เส้นทางนี้เดินผ่านป่าดิบชื้นดิบแล้ง สลับกับป่าไผ่ในบางช่วง มีความสลับซับซ้อน เจอพันธุ์ไม้มีค่าหลายชนิด เช่น ต้นพะยูง ต้นกฤษณา รวมถึงดงเฟิร์นขนาดใหญ่ มีสัตว์ป่าชุกชุม เช่น ช้าง ชะนี หมีควาย นกเงือก จำเป็นต้องใช้เจ้าหน้าที่ชำนาญเส้นทาง
ระยะทาง: 8 กิโลเมตร เส้นทางเดินทางเดียว
ระยะเวลา: 6 ชั่วโมง
เจ้าหน้าที่นำทาง: จำเป็น
ช่วงเวลาที่เปิด: เดือนกันยายน-เมษายนของทุกปี
หมายเหตุ: ควรเริ่มเดินไม่เกิน 10.00 น. และเตรียมอาหารไปด้วย
เส้นทางที่ 7: 200 ปี ความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐอเมริกา
เส้นทางใหม่ล่าสุด เพื่อฉลองความสัมพันธ์อันยาวนานของไทยและสหรัฐอเมริกา เส้นทางนี้เดินไม่ยาก ระหว่างทางจะได้สัมผัสกับความงามของนิเวศป่าไม้ ได้แก่ ป่าดงดิบแล้ง ป่ารุ่นสอง และทุ่งหญ้ากว้าง สัตว์ป่าที่พบบ่อยระหว่างเส้นทาง เช่น ไก่ฟ้าพญาลอ ไก่ฟ้าหลังขาว ชะนี นกเงือก
ระยะทาง: 2 กิโลเมตร เส้นทางเดินทางเดียว วนกลับมาที่เดิม
ระยะเวลา: 1 ชั่วโมง 50 นาที
เจ้าหน้าที่นำทาง: ไม่จำเป็น
ช่วงเวลาที่เปิด: เปิดเส้นทางตลอดปี
ภาพ: Shutterstock
อ้างอิง:
- อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
