ความเครียดมีอยู่ทุกที่ โดยเฉพาะในยุคสมัยนี้ที่ชีวิตของเราส่วนใหญ่ผูกติดกับโลกดิจิทัลที่ทุกอย่างต้องเร่งรีบไปหมด ยิ่งปล่อยให้ความเครียดก่อตัว สะสมไปนานๆ ก็มีแต่บั่นทอนสุขภาพจนถึงขั้นเบิร์นเอาต์ และอาจลุกลามเป็นปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงได้ ในศักราชใหม่นี้ THE STANDARD LIFE เลยขอรวบตึง 20 กิจกรรมที่จะช่วยให้ผู้อ่านได้ฮีลใจ ค้นพบความสงบพร้อมรีชาร์จพลังไปในตัวมาฝาก เชื่อเถอะว่าการหมั่นฟังเสียงร่างกายและหัวใจตัวเอง แล้วรับมืออย่างทันท่วงทีจะช่วยให้คุณมีสุขภาพองค์รวมที่แข็งแรงได้อย่างยั่งยืน
1. Sound Healing
เทรนด์ Sound Healing หรือการบำบัดด้วยเสียงยังคงมาแรงไม่มีตก และมีแต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ด้วยประโยชน์ที่ดีต่อทั้งร่างกายและสภาพจิตใจ ซึ่งการบำบัดด้วยเสียงในปัจจุบันมีด้วยกันหลายรูปแบบ เช่น Singing Bowl, Gong, Crystal Bowl ที่มีความถี่เสียงและคุณประโยชน์ที่แตกต่างกันออกไป โดยหลักแล้วคลื่นเสียงจะเข้าไปทำงานกับกล้ามเนื้อ ของเหลว และต่อมไร้ท่อภายในร่างกาย ช่วยในการปรับสมดุล เพิ่มความผ่อนคลายและความสงบภายในจิตใจ
แนะนำให้ลองไปเข้าคลาส Shakti Sound Bath กันที่ Akasha Wellness Bangkok เพราะเป็นคลาสที่ให้คุณได้ลองสัมผัสประสบการณ์กับเสียงทุกรูปแบบ และบรรยากาศของสตูดิโอเองก็ปลอดโปร่งสบายสุดๆ
ราคา: เริ่มต้นที่ 2,000 บาทต่อคลาส 60 นาที
รายละเอียดเพิ่มเติม: https://akashawellnessbangkok.com/
2. Reiki
เรกิเป็นศาสตร์การเยียวยาบำบัดด้วยพลังงาน (Energy Healing) รูปแบบหนึ่งที่มีต้นกำเนิดจากญี่ปุ่น โดยมีวิธีการรักษาด้วยการถ่ายโอนพลังงานจากฝ่ามือของผู้รักษาไปยังผู้รับการบำบัดเพื่อปรับสมดุลระดับในระดับกาย จิตใจ อารมณ์ และจิตวิญญาณ ซึ่งศาสตร์นี้เชื่อว่า พลังงานที่โอนถ่ายจะสามารถบรรเทาความเครียด ความวิตกกังวล ตลอดจนการรักษาความเจ็บป่วยทางกายภาพและจิตใจได้ ที่ Bangkok Healing Haven มีบริการบำบัดด้วยศาสตร์เรกิที่ยูนีก เป็นการคัสตอมแบบ 1 ต่อ 1 และยังมีออปชันให้เพิ่มการบำบัดด้วยหินคริสตัลอีกด้วย
ราคา: 2,500 บาทต่อคลาส
รายละเอียดเพิ่มเติม: https://bangkokhealinghaven.org/
3. Ceramics & Pottery
เวิร์กช็อปปั้นเซรามิกยังคงเป็นกิจกรรมยอดฮิตที่ไม่เพียงแต่มอบความสนุก ความเพลิดเพลิน แต่ยังช่วยเสริมความคิดสร้างสรรค์ เพิ่มประสิทธิภาพของกล้ามเนื้อมัดเล็กกับปลายนิ้วที่สัมผัสกับดินปั้นตลอดเวลา และแน่นอนว่ายังช่วยให้เราได้ฝึกสมาธิ จดจ่ออยู่กับสิ่งตรงหน้า เชื่อเถอะว่าคุณจะรู้สึกใจเย็นขึ้น ที่ Sanit Handmade มีคลาสให้เลือกทั้งแบบปั้นมือและแป้นหมุนตามความชอบ โดยมีทั้งสาขาหมู่บ้านสัมมากรและภายในโรงแรม The Fig Lobby
ราคา: เริ่มต้นที่ 990 บาท
รายละเอียดเพิ่มเติม: www.facebook.com/sanithandmade
4. Flower Workshop
ฮีลใจและผ่อนคลายกันต่อกับเวิร์กช็อปจัดดอกไม้ที่ Furawa Desu ร้านดอกไม้ที่อบอวลไปด้วยความรักและแพสชันในการจัดดอกไม้อย่างเต็มล้น โดยเอกลักษณ์ของทางร้านคือการหยิบนำเอาศาสตร์ศิลปะของญี่ปุ่นมาผสมผสานกับศาสตร์ตะวันตก สิ่งที่เจ้าของร้านชอบ รวมถึงสิ่งรอบตัวที่บางครั้งเราอาจมองว่าไม่น่าจะไปด้วยกันได้
เวิร์กช็อปของที่นี่จัดแทบจะทุกเดือน และเวียนเปลี่ยนรูปแบบของชิ้นงานไปตามซีซัน ในส่วนของราคาเวิร์กช็อปนั้นจะมีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน บางครั้งก็เป็นเวิร์กช็อปที่ไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งเป็นความตั้งใจของเจ้าของร้านที่อยากให้ทุกคนได้แวะมาพักใจและสนุกไปกับประสบการณ์ใหม่ๆ เอาเป็นว่าใครอยากทั้งฮีลใจแถมยังได้ดอกไม้สวยๆ ฝีมือตัวเองกลับบ้านต้องลองแวะมาดูสักครั้ง
รายละเอียดเพิ่มเติม: www.instagram.com/furawadesu
5. Mandala Drawing
ไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานก็ทำได้กับการวาดภาพแบบแมนดาลา ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยทำสมาธิ ผ่อนคลายความเครียด โฟกัสกับตัวเองได้มากขึ้น อย่างช่วงที่ผ่านมาที่ Tentacles ก็ได้เชิญศิลปินชาวเกาหลี จียุนพัค มาสอนวาดอีกด้วย ถือเป็นเวิร์กช็อปที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
ราคา: 1,600 บาท
รายละเอียดเพิ่มเติม: www.facebook.com/TentaclesN22
6. Splash Painting
สาดสีพร้อมสลัดความเครียดให้มันหมดไปกับ Splash Painting กิจกรรมสุดมันที่ไม่มีคำว่าผิดหรือถูก มีแต่ความครีเอทีฟ (ปนความสะใจ) ล้วนๆ และแน่นอนว่าได้ผลงานชิ้นโบว์แดงที่ไม่เหมือนใครกลับบ้านอีกตามเคย สำหรับที่ Fickle Lifestyle จะมีภาพแคนวาสให้ขนาด 60 x 80 เซนติเมตร พร้อมสีให้เลือกถึง 42 เฉด โดยมีเวลาให้เนรมิตผลงานนานถึง 1-1.30 ชั่วโมง
ราคา: สีธรรมดา 1,500 บาท / สีนีออน 1,800 บาท
รายละเอียดเพิ่มเติม: www.instagram.com/fickle.lifestyle
7. Tufting Gun
ยังคงเป็นคลาสที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องสำหรับ Tufting Gun หรือการยิงไหมพรมเนรมิตสีสันและลวดลายบนพรมตามจินตนาการ ได้พรมสวยๆ ที่มีชิ้นเดียวไปประดับบ้าน หากใครเน้นที่ที่เดินทางสะดวก เราแนะนำให้แวะไปคลาสที่ Craft Creator ซึ่งอยู่ติดกับ MRT สถานีกำแพงเพชร ทางออกที่ 1 โดยที่นี่จะสอนนักเรียนรอบละ 5 คน เวลา 11.00-16.00 น.
ราคา: 2,800 บาท (พร้อมอุปกรณ์)
รายละเอียดเพิ่มเติม: www.facebook.com/craftcreatorthailand
8. Art Therapy
ศิลปะถือเป็นอีกศาสตร์ที่ช่วยฮีลใจได้มากกว่าที่คิด อย่างที่โรงเรียนศิลปะเพื่อดูแลจิตใจอย่าง Studio Persona เองได้หยิบศิลปะหลากหลายแขนงมาจัดเป็นเวิร์กช็อปที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Life’s Elements เพื่อจัดวางองค์ประกอบชีวิตสำหรับใครที่กำลังรู้สึกคลุมเครือกับชีวิตในปัจจุบัน, Intro to Watercolor Abstract คลาสสีน้ำที่ช่วยให้มองเห็นตัวเอง สร้างการตระหนักรู้ถึงความรู้สึกตัวเอง ฯลฯ
ราคา: เริ่มต้นที่ 2,000 บาท
รายละเอียดเพิ่มเติม: www.facebook.com/studiopersonabkk/
9. Music Therapy
เมื่อมีศิลปะบำบัดแล้วแน่นอนว่าก็ต้องมีดนตรีบำบัดด้วยเช่นกัน ดนตรีเปรียบเสมือนยาวิเศษที่ช่วยฟื้นฟูรักษาร่างกายและจิตใจ รวมถึงพัฒนาด้านอารมณ์ อย่างที่โรงพยาบาลนวเวชจะมีการพูดคุยรับรู้ถึงปัญหาและวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสมโดยนักดนตรีบำบัด โดยจะมีกิจกรรมมากมาย เช่น การเล่นดนตรีแบบสร้างสรรค์, Improvisation, การฝึกพูดด้วย Melodic Intonation Therapy
รายละเอียดเพิ่มเติม: www.navavej.com
10. Tea Therapy
การชงชาก็เป็นอีกกิจกรรมที่ช่วยฮีลใจได้เช่นกัน สำหรับที่ TE™ (ที) นั้นมีเวิร์กช็อปที่น่าสนใจอย่าง TE Therapy ที่เปิดโอกาสให้เราได้แจกโจทย์ที่ตัวเองต้องการ โดยทาง Tea Designer จะช่วยเลือกวัตถุดิบส่วนผสม แล้วให้ผู้รับบริการสามารถผสม เลือกสัดส่วนของแต่ละวัตถุดิบได้เองตามใจชอบ จบงานนี้คุณอาจจะตกหลุมรักชามากกว่าเดิมก็ได้นะ
ราคา: ค่าบริการกับ Master Tea Designer ราคา 549 บาท / ค่าบริการกับ Tea Designer ราคา 349 บาท
รายละเอียดเพิ่มเติม: www.instagram.com/thetepot/
11. Cake Painting
ทั้งสนุกทั้งอร่อย! สายหวานคุ้มแน่นอนกับเวิร์กช็อปนี้ เพราะผลงานศิลปะที่คุณบรรจงรังสรรค์นั้นกินได้! ใช่แล้ว นี่คือการวาดภาพลงบนหน้าเค้กด้วยครีมหลากสี โดยที่ Tentacles จะสอนตั้งแต่องค์ประกอบศิลป์และวงจรสีแบบเข้าใจง่าย การตีครีม รวมถึงเทคนิคการวาดภาพแบบเดียวกับการวาดภาพสีอะคริลิกและสีน้ำมัน จบคลาสก็นำเค้กใส่กล่องกลับบ้านได้เลย
ราคา: 2,500 บาท
รายละเอียดเพิ่มเติม: www.facebook.com/TentaclesN22
12. Glass Art
อย่ามาเล่นกับไฟ แต่ถ้าเป็นไฟนี้ก็เล่นได้อยู่กับ Glass Art ศิลปะแก้วที่แน่นอนว่าจะทำให้คุณได้ฝึกสมาธิจดจ่ออยู่กับผลงาน แถมยังได้ความตื่นเต้นลุ้นระทึกกับหน้าตาผลงานที่จะออกมาอีก โดยที่ BGC Glass Studio จะมี 2 หลักสูตรหลัก ได้แก่ Glass Blowing การเป่าแก้ว และ Flame Working การใช้ไฟหลอมแก้ว เอาเป็นว่าใครที่อยากเล่นกับไฟก็ต้องไปลองหน่อย
ราคา: Flameworking ราคา 7,900 บาท / Glass Blowing ราคา 8,900 บาท
รายละเอียดเพิ่มเติม: https://www.facebook.com/BGCglassstudio/?locale=th_TH
13. Online Counseling
หลายครั้งการสะสมปัญหาไว้คนเดียวมีแต่จะบั่นทอนจิตใจและกลายเป็นบาดแผลที่ฝังลึกในระยะยาว การได้ลองเปิดใจพูดคุยกับคนที่ไว้ใจได้ถือเป็นอีกวิธีที่ช่วยบรรเทาความเครียดและฮีลใจได้เช่นกัน ปัจจุบันมีบริการ Online Counseling มากมายให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น iSTRONG, ooca, chiwii ซึ่งอำนวยความสะดวกและยังลดความกังวลใจให้กับใครที่ไม่สะดวกพบหน้ากับนักจิตบำบัด/จิตแพทย์ได้ดี
14. Onsen
ช่วงไหนที่รู้สึกปวดเมื่อยกล้ามเนื้อไปทั้งตัว แถมยังเครียดสะสมไปหมด ลองไปแช่ออนเซนดูสักครั้ง นอกจากจะช่วยผ่อนคลาย บรรเทาความเครียด อาการปวดกล้ามเนื้อ ยังมีส่วนช่วยในการบำรุงผิวพรรณ แถมยังทำให้หลับสบายขึ้นอีกต่างหาก ที่ PAÑPURI Wellness ตึกเกษรถือเป็นอีกออนเซนคุณภาพด้วยบริการและบรรยากาศที่สบาย เดินทางง่าย แช่เสร็จก็ยังสามารถออกมานั่งจิบชา กินขนม พักกายพักใจยาวๆ ได้ทั้งวัน
ราคา: 750 บาท
รายละเอียดเพิ่มเติม: https://panpuri.com/
15. Aromatherapy Massage
อะไรจะดีไปกว่าการนวดน้ำมันฟินๆ ชั่วโมงสองชั่วโมง เหตุที่เราแนะนำให้ลองไปนวดแบบอโรมามากกว่าการนวดแบบแผนโบราณก็เพราะความผ่อนคลายทั้งในด้านผิวสัมผัส รวมถึงกลิ่นหอมจากน้ำมันที่จะช่วยจรรโลงจิตใจให้ลืมความวุ่นวายไปชั่วขณะ อย่างที่ Ikigai Spa Bangkok นั้นถือว่ามีโปรแกรมทรีตเมนต์ที่หลากหลาย และบรรยากาศยังมีกลิ่นอายญี่ปุ่น ให้ความรู้สึกอบอุ่นที่ครั้งที่เข้ามา
รายละเอียดเพิ่มเติม: www.instagram.com/ikigaispabangkok/
16. Social Detox Trip
เคยใช้ชีวิตติดโซเชียลจนรู้สึกว่ามันท็อกซิกไหม? หากภาระหน้าที่การงานทำให้เราต้องคอยอัปเดตข่าวสารตลอดเวลา เราแนะนำให้ลองทำ Social Detox โดยการเอาตัวเองไปอยู่ในที่สภาพแวดล้อมที่ช่วยอำนวยอีกทาง อย่างที่ Kamalaya สมุยนั้นเป็นรีสอร์ตที่คุณจะได้มีโอกาสตัดขาดจากโลกโซเชียลไปได้ชั่วขณะ เพราะการไม่ใช้เครื่องมือสื่อสารและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภทถือเป็นกฎเหล็กของที่นี่เลย
รายละเอียดเพิ่มเติม: www.kamalaya.com
17. Freediving
ดร.วอลเลซ เจ. นิโคลส์ นักชีววิทยาทางทะเลและนักเขียน เคยบัญญัติคำว่า ‘จิตใจสีฟ้า’ ขึ้นมาเพื่ออธิบายสภาวะการทำสมาธิที่สมองของเราเข้าสู่เมื่ออยู่ใกล้ ในน้ำ บน หรือใต้น้ำ ซึ่งเป็นสภาวะที่มีความสงบ ผ่อนคลาย การได้ดำน้ำใต้ท้องทะเลถือเป็นอีกวิธีที่ช่วยฟื้นฟูจิตใจ ฝึกสมาธิและสติได้เป็นอย่างดี
18. Yoga
เป็นที่รู้กันว่าโยคะเป็นการออกกำลังกายที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกายหลายด้าน ไม่ว่าจะเรื่องความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ คลายความตึงตัวของกล้ามเนื้อ เพิ่มความยืดหยุ่นของร่างกาย และยังช่วยลดฮอร์โมนความเครียดไปในตัว สำหรับใครที่มองหาสตูดิโอโยคะ ลองแวะไปที่ EQUILAB พรีเมียมฟิตเนสสตูดิโอย่านสาทรใหม่เอี่ยม ตกแต่งเรียบหรู ซึ่งในช่วง Soft Opening นี้เองก็มีราคาพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่อีกด้วย
รายละเอียดเพิ่มเติม: https://equilab.fit/
19. Pilates
มีโยคะแล้วแน่นอนว่าต้องมีพิลาทิส อีกรูปแบบของการออกกำลังกายเพิ่มความยืดหยุ่นให้ร่างกายที่ค่อนข้างถูกใจสาวๆ ในยุคนี้ ถ้าใครที่ชอบความเป็นส่วนตัว แนะนำให้ลองแวะไปที่ Hills Pilates สตูดิโอที่บรรยากาศสบายเหมือนอยู่สปา และยังตกแต่งสไตล์มินิมัลแบบเกาหลี ถูกใจสายคอนเทนต์แน่นอน
รายละเอียดเพิ่มเติม: https://www.instagram.com/hillspilates.th/
20. Connect with Nature
อะไรจะดีและง่ายไปกว่าการหาเวลาเชื่อมต่อกับธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการเดินในสวนสาธารณะ ปั่นเรือเป็ด แคมปิ้ง เชื่อเถอะว่าการได้ปล่อยให้ตัวเองได้สูดอากาศบริสุทธิ์จากธรรมชาตินอกตัวอาคารจะช่วยลดความเครียด ฟื้นฟูสภาพจิตใจที่ห่อเหี่ยวเหนื่อยล้าให้กลับมาสดใสและมีชีวิตชีวายิ่งขึ้น