×

บุกแคมปัส Garmin ดู DNA ความเก๋าจากแบรนด์ GPS สู่สมาร์ทวอทช์ ครบรอบ 35 ปี

03.06.2024
  • LOADING...
Garmin

HIGHLIGHTS

8 min read
  • Garmin มีจุดเริ่มต้นจากการเป็นผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยี GPS ก่อนต่อยอดมาสู่อุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการบิน (Aviator) และทางน้ำ (Marine) จากนั้นก็พัฒนาเทคโนโลยีจนสามารถย่อส่วนทุกอย่างที่ดีให้มาอยู่ในสมาร์ทวอทช์ ที่เราสามารถสวมใส่ติดตัวไปได้ทุกที่ 
  • เราพบว่าสิ่งที่ทำให้ Garmin แตกต่างจากบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่ง ได้แก่ วัฒนธรรมการทำงานขององค์กรที่ให้ความสำคัญกับ Well-being ของพนักงาน แทนที่วันๆ เอาแต่นั่งทำงาน Garmin กลับให้ความสำคัญกับการเคลื่อนไหวร่างกาย ส่งเสริมเรื่องสุขภาพ และการออกกำลังกายของพนักงาน
  • เราพบว่าหนึ่งในความสำเร็จของ Garmin คือ มีความเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ สิ่งที่ผู้บริหารหลายคนพูดอยู่เสมอคือ “พวกเขาไม่ได้แค่ผลิตอุปกรณ์ให้ลูกค้า แต่สิ่งที่ Garmin ทำคือการสร้างเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้คนไล่ตามความฝัน”

เมื่อพูดถึง Garmin (การ์มิน) คนไทยน่าจะคุ้นเคยกันดีกับการเป็นแบรนด์สมาร์ทวอทช์ ที่เหล่าคนรักการออกกำลังกายและทำกิจกรรมกลางแจ้งให้ความไว้วางใจ แต่สิ่งที่หลายคนอาจยังไม่รู้คือ แบรนด์ Garminมีจุดเริ่มต้นจากการเป็นผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยี GPS ก่อนต่อยอดมาสู่อุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการบิน (Aviator) และทางน้ำ (Marine) จากนั้นก็พัฒนาเทคโนโลยีจนสามารถย่อส่วนทุกอย่างที่ดีให้มาอยู่ในสมาร์ทวอทช์ ที่เราสามารถสวมใส่ติดตัวไปได้ทุกที่ แม้จะอยู่ในพื้นที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์เลยก็ตาม

 

ตลอดระยะเวลา 35 ปีของการก่อตั้งแบรนด์ โดย Gary Burrell และ Dr.Min Kao (จะเห็นว่าชื่อแบรนด์มาจากชื่อของสองผู้ก่อตั้งนั่นเอง) สิ่งเหล่านี้ได้พิสูจน์ให้เราเห็นถึงความสามารถอันเหนือชั้นของ Garminที่สามารถ ‘พัฒนาและปรับตัว’ ให้เข้ากับยุคสมัยได้อย่างรวดเร็ว จากผู้นำด้านเทคโนโลยี GPS ของเครื่องบินและเรือ ได้กลายมาเป็นแบรนด์สมาร์ทวอทช์ที่ครองใจคนทั่วโลก

 

 

บทความชิ้นนี้เราจึงอยากพาทุกคนไปดูเบื้องหลังความสำเร็จของแบรนด์ Garmin หลังเราได้ไปเยือนแคมปัสของพวกเขาที่โอเลเธอ ในเมืองแคนซัส สหรัฐอเมริกา และพูดคุยกับซีอีโอ Clifton Pemble ถึงสิ่งที่ทำให้แบรนด์ Garmin ประสบความสำเร็จ และสามารถเดินหน้าต่อไปได้ ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงที่หมุนไวขึ้นทุกวันได้อย่างสง่างาม

 

อาวุธลับคือความสามารถในการปรับตัว

 

คนกลาง: ซีอีโอ Clifton Pemble

 

อุตสาหกรรมเทคโนโลยีเป็นการวิ่งมาราธอน ไม่ใช่การวิ่งระยะสั้น หากบริษัทที่ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับเทรนด์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี บริษัทย่อมล้าหลังอย่างรวดเร็ว อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าจุดเริ่มต้นของGarmin ไม่ใช่สมาร์ทวอทช์ แต่เป็นอุปกรณ์ที่คนส่วนใหญ่เข้าถึงได้ ‘ยาก’ อย่างเครื่องบินและเรือ เราจึงต้องยอมรับว่า Garminนั้นเชี่ยวชาญศิลปะการปรับตัวมาก เพราะพวกเขาไม่ได้ยึดติดกับสูตรสำเร็จที่ล้าสมัย หรือความสำเร็จในอดีต

 

Garmin Garmin

 

แต่ Garminนำเทคโนโลยีหลักที่ใช้กันในเครื่องบินและเรือ มาใช้กับตลาดใหม่ที่คนทั่วไปเข้าถึงได้ง่ายขึ้น เช่น สินค้าที่สวมใส่ได้ (Wearable Product) และสมาร์ทวอทช์ที่ตอนนี้กลายเป็นสินค้าทำเงินของแบรนด์

 

ปัจจุบันตลาดของGarmin  มี 5 ประเภท ได้แก่ ฟิตเนส, กิจกรรมกลางแจ้ง, เครื่อง,บิน เรือ และ OEM ให้กับแบรนด์รถยนต์ต่างๆ ซึ่งจุดเด่นอยู่ที่ความแม่นยำ การมอบข้อมูลเชิงลึก และประหยัดพลังงาน

 

Garmin

อุปกรณ์ Garminในเรือยอชต์

 

ร่วมมือกับแบรนด์รถยนต์ผลิต OEM Automotive

 

หัวใจสำคัญอยู่ที่การโฟกัสลูกค้า (Customer Focus)

 

 

ตลอดระยะเวลาที่พบปะกับผู้บริหารและพนักงานของGarmin  เราพบว่าหนึ่งในความสำเร็จของ Garmin คือ มีความเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ สิ่งที่ผู้บริหารหลายคนพูดอยู่เสมอคือ “พวกเขาไม่ได้แค่ผลิตอุปกรณ์ให้ลูกค้า แต่สิ่งที่Garmin ทำคือการสร้างเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้คนไล่ตามความฝัน”

 

แน่นอนว่าแม้จะเป็นสินค้าเดียวกัน แต่ฟังแล้วให้ความรู้สึกที่ต่างกันเยอะ ความใส่ใจยังสะท้อนให้เห็นถึงไลน์สินค้าที่หลากหลาย เพราะพวกเขาเชื่อว่าลูกค้ามีความต้องการเฉพาะทางที่ไม่เหมือนกัน ไม่มีทางที่สมาร์ทวอทช์รุ่นเดียวจะตอบโจทย์ทุกกิจกรรมหรือทุกความสนใจ นั่นจึงเป็นที่มาของสมาร์ทวอทช์ที่มีมากมายหลายรุ่น ไม่ว่าจะสำหรับนักวิ่ง นักปั่น ดำน้ำ เดินป่า การติดตามการนอน ฯลฯ ตั้งแต่รุ่นไฮเอนด์สำหรับนักกีฬาชั้นนำ ไปจนถึงรุ่นสำหรับผู้เริ่มต้นใช้งาน

 

Garmin

Garmin มีสมาร์ทวอทช์ที่ตอบโจทย์ความสนใจ และการออกกำลังกายรูปแบบต่างๆ

ตั้งแต่ระดับเริ่มต้นไปจนถึงมืออาชีพ

 

รวมถึงอุปกรณ์ที่ออกแบบมาสำหรับความสนใจอื่นๆ เช่น ขับเครื่องบิน ล่องเรือ ตกปลา ฯลฯ คนเหล่านี้ล้วนมองหาสิ่งที่ตอบโจทย์การใช้งานของเขาจริงๆ

 

Garmin

อุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อสำรวจสภาพพื้นที่ใต้น้ำสำหรับนักตกปลา

 

Garmin

ห้องสำหรับทดสอบผลิตภัณฑ์ทางการบินของแบรนด์

 

นอกจากนั้น Garminยังมีจุดเด่นเรื่องแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้อย่างยาวนาน เพราะสินค้าส่วนใหญ่ของGarmin ใช้พลังงานต่ำ ทำให้มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานเป็นสัปดาห์ นี่ก็เป็นอีกหนึ่งจุดขายสำคัญของแบรนด์เช่นกัน

 

มีวัฒนธรรมแห่งการออกกำลังกาย (A Culture of Fitness) เป็นรากฐานของแบรนด์ 

 

 

เมื่อได้ไปเยือนแคมปัสแห่งนี้ เราพบว่าสิ่งที่ทำให้ Garminแตกต่างจากบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่ง ได้แก่ วัฒนธรรมการทำงานขององค์กรที่ให้ความสำคัญกับ Well-being ของพนักงาน แทนที่วันๆ เอาแต่นั่งทำงาน Garminกลับให้ความสำคัญกับการเคลื่อนไหวร่างกาย ส่งเสริมเรื่องสุขภาพ และการออกกำลังกายของพนักงาน 

ล่าสุดทางแบรนด์เพิ่งปรับโฉมแคมปัสครั้งใหญ่ เราได้เห็นพื้นที่อย่าง Well-being Centre ที่มีห้องฟิตเนสขนาดใหญ่มาพร้อมอุปกรณ์ทันสมัย พื้นที่ออกกำลังกายอเนกประสงค์ คลาสโยคะ คลาสปั่นจักรยาน สนาม Pickleball และสนามบาสเกตบอลในร่ม สนามฟุตบอลกลางแจ้ง ฯลฯ นอกจากนี้ในโรงอาหารยังมีอาหารสุขภาพไว้เป็นทางเลือกสำหรับพนักงานอีกด้วย

 

Garmin

ภายในแคมปัสหรือสำนักงานใหญ่ของ Garmin มี Well-being Centre สนับสนุนให้คนออกกำลังกาย

 

เหล่านี้เป็นสิ่งที่ Garminทำให้พนักงาน ซึ่งพนักงานสามารถใช้งานได้ทุกเมื่อ ไม่จำเป็นต้องแวะมาตอนเช้าก่อนเข้างาน หรือหลังงานเลิก

 

เราคิดว่าข้อดีของเรื่องนี้คือพนักงานส่วนใหญ่รักการออกกำลังกาย และใช้สินค้าของGarmin อยู่แล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงรู้จักผลิตภัณฑ์ของตัวเองดี และรู้ว่าสิ่งที่ขาดไปคืออะไร

 

นอกจากนั้น Garminยังส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งความอยากรู้อยากเห็นทางปัญญา (Culture of Intellectual Curiosity) และการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง กระตุ้นให้พนักงานท้าทายตัวเองและกล้าแหวกไปสู่แนวคิดใหม่ๆ นี่เองที่ช่วยให้ Garminพัฒนาสินค้าของตัวเองให้ดีขึ้นเรื่อยๆ

 

มองไปข้างหน้าด้วยนวัตกรรมที่มาพร้อม Human Touch

 

เราคิดว่าสิ่งสำคัญของ Garminหลังจากนี้คือ การเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าสุขภาพ การปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย และการให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำในวงการเทคโนโลยี

 

Garmin

Garmin Hangar สำหรับไฟลต์เดโมด้วยเครื่องบินที่มีอุปกรณ์Garmin

 

เราคาดหวังว่าจะได้เห็น Garminนำเทคโนโลยีอันล้ำสมัยอย่าง AI หรือปัญญาประดิษฐ์ซึ่งมีอยู่แล้วในบางฟีเจอร์ถูกนำมาใช้มากขึ้น รวมถึง Virtual Reality ที่ผสานเข้ากับผลิตภัณฑ์ของตนเอง แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงยึดมั่นในมิชชันหลักของแบรนด์ อย่างการส่งเสริมให้ผู้คนมีสุขภาพที่ดีและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

 

รวมถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม เมื่อGarmin มีแนวทางปฏิบัติที่ได้ทำไปแล้ว เช่น การลดบรรจุภัณฑ์พลาสติกในสินค้าใหม่ๆ และการรีไซเคิลอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งในอนาคตทางแบรนด์เองก็มีแผนที่จะยกระดับเรื่องนี้มากยิ่งขึ้น

 

ภาพ:Garmin

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising