ต้องยอมรับว่าปีที่ผ่านมาคำว่า ‘Manifest’ มาแรงในโซเชียลมีเดียสุดๆ หลายคนมีความเชื่อว่าแค่นั่งคิดถึงสิ่งที่ต้องการ Visualize ภาพความสำเร็จบ่อยๆ แล้วจักรวาลจะส่งสิ่งดีๆ มาให้ แต่ Jodie Cariss เป็นผู้ก่อตั้ง Self Space Therapy และเป็นผู้เขียนหนังสือ How to Grow Through What You Go Through บอกว่านั่นยังไม่พอ
ดังนั้นใครที่เคยจดจ่อกับ Manifest ทุกวัน แต่กลับพบว่าชีวิตดีขึ้นแค่ในจินตนาการ อาจต้องมาแคร็กกันใหม่ว่าทำไมเรายังไม่สามารถคว้าความฝันได้แบบที่อยากได้
LIFE จึงชวนผู้อ่านมาดูกันว่าทำไม Manifest อย่างเดียวไม่พอ และเราจะเปลี่ยนความฝันให้เป็นความจริงได้อย่างไร ด้วยวิธีใดกันแน่?
ทำไม Manifest อย่างเดียวถึงไม่เวิร์ก?
เพราะการ Manifest แบบผิดๆ อาจกลายเป็นกับดักที่ทำให้เราติดอยู่กับความคิดที่ว่า ‘ถ้าเชื่อมั่นว่ามันจะเกิด มันก็ต้องเกิด’ หรือ ‘รอให้จักรวาลจัดการให้’ แทนที่จะลงมือทำเพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเอง เราอาจกลายเป็นแค่ผู้รอคอยโชคชะตา
แล้วจะทำอย่างไรให้ได้ชีวิตที่ต้องการ?
เปลี่ยนจาก Passive เป็น Active
แทนที่จะแค่นั่งวาดฝัน ลองตั้งคำถามกับตัวเองว่า ฉันจะทำอะไรได้บ้างเพื่อให้ถึงเป้าหมายนั้น? ยกตัวอย่างเช่น ถ้าอยากได้งานที่ดีกว่าเดิม นอกจากการ Manifest แล้ว เราต้องพัฒนาสกิล ส่ง CV สมัครงาน และเตรียมตัวสัมภาษณ์ด้วย
แบ่งเป้าหมายใหญ่เป็นก้าวเล็กๆ
ความฝันที่ยิ่งใหญ่ต้องเริ่มจากก้าวเล็กๆ ที่ทำได้จริง อาทิ ถ้าอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง เริ่มจากการเรียนรู้ออนไลน์ฟรี ลองขายของในโซเชียลมีเดีย หรือหาเมนเทอร์ที่เก่งด้านนี้
รับผิดชอบทั้งอดีตและอนาคต
ยอมรับข้อผิดพลาดในอดีต ไม่ใช่เพื่อโทษตัวเอง แต่เพื่อเรียนรู้และวางแผนอนาคตให้ดีขึ้น เช่น เคยล้มเหลวเรื่องการเงิน ก็เริ่มจดบันทึกรายรับ-รายจ่าย วางแผนการออมและศึกษาการลงทุน เพื่อแก้ไขสิ่งที่เคยพลาด และเดินหน้าสู่ความมั่นคงทางการเงินที่ดีขึ้นกว่าเดิม
สร้าง Action Plan ที่ชัดเจน
เริ่มจากการเขียนเป้าหมายให้ชัด แล้วแบ่งออกมาเป็นขั้นตอนย่อยๆ จากนั้นกำหนดเวลาที่จะทำให้สำเร็จ (แบบไม่ตึงเกินไปจนตัวเองทำไม่ได้) ติดตามอัปเดตความคืบหน้าของ Action Plan อย่างสม่ำเสมอ
หาแรงสนับสนุนจากคนรอบตัว
ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนที่มีเป้าหมายคล้ายกัน กลุ่มคนที่สนใจเรื่องเดียวกัน หรือโค้ชที่เก่งในด้านที่เราต้องการพัฒนา การมีคนคอยให้กำลังใจและแชร์ประสบการณ์จะช่วยให้เราเดินทางได้ไกลขึ้น
ปรับมายด์เซ็ตเรื่อง Manifest
จริงๆ แล้วการ Manifest เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่ถ้าอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงจริงๆ เราต้องลุกขึ้นมาเป็นผู้นำในชีวิตตัวเอง จากคนที่แค่ฝันให้กลายเป็นคนที่ลงมือทำ เพราะความสำเร็จไม่ได้มาจากพรวิเศษของจักรวาล แต่มาจากการลงมือทำอย่างมีแผนและไม่ย่อท้อต่างหาก