14 ปีบนถนนสายบันเทิงได้หล่อหลอมให้นักแสดงสาวใบหน้าสวยเฉี่ยวอย่าง ดาว-พิมพ์ทอง วชิราคม เติบโตขึ้นในทุกมิติ ผ่านบทบาทที่หลากหลายและบทเรียนชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้
เมื่ออายุเดินทางมาถึงเลข 33 ดาวค้นพบว่าเป้าหมายที่แท้จริงของเธอไม่ใช่เรื่องใหญ่โตภายนอก ไม่ใช่ชีวิตที่ดูฟู่ฟ่า แต่คือการสร้าง ‘ความสงบ’ ให้กับจิตใจตัวเองท่ามกลางความวุ่นวายในยุคแห่งการแข่งขัน และนี่คือแก่นความคิดที่เธอใช้สร้างสมดุลให้กับชีวิตในวันนี้
ชีวิตในช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง
ดาว: เริ่มเข้าปี 2025 รู้สึกว่าเหมือนตัวเองมีความต้องการอีกแบบ จากคนที่เคยแบบ เฮ้ย! ฉันสนุกกับการทำงานจังเลย ฉันสนุกกับการทำคอนเทนต์จังเลย กลายเป็นคนที่อยากอยู่กับอะไรที่มันสงบกว่าเดิม คือเหมือนค้นหาความสงบ ความง่าย แล้วก็ความมั่นคง แล้วเราก็มีความรู้สึกอยากแต่งงาน อยากเป็นคุณแม่ หรือเพราะช่วงนี้คนรอบข้างเราแต่งงานเลยอาจจะเป็นความคิดชั่ววูบก็ได้
เหมือนอยู่ในจุดที่อยาก Settle
ดาว: ใช่ ประมาณนั้น รู้สึกอยาก success แล้ว แล้วปีนี้ 33 แล้วด้วย
Success ในนิยามของดาวคืออะไร
ดาว: Success ของดาวคือ ทำอะไรก็ได้โดยไม่ต้องคิดเรื่องเงิน ไม่ได้หมายถึงว่า เราจะใช้เงินอย่างไรก็ได้นะ แต่มันหมายถึงว่า เรามีความสุข เราสามารถหาความสุขได้ทุกอย่างโดยที่ไม่ต้องมานั่งกังวลว่า วันนี้เราต้องหาเงิน พรุ่งนี้เราต้องทำอันนี้ อยากทำในสิ่งที่ตัวเองทำได้เต็มที่ เช่น ออกกำลังกายเต็มที่ ได้ปลูกต้นไม้เต็มที่ เลี้ยงสัตว์ได้เต็มที่ ตกแต่งบ้านได้เต็มที่ อยู่กับตัวเองมากขึ้น
ตั้งแต่ต้นปีมาจะรู้สึกแบบนั้น อยากสงบมากกว่าที่จะสนุกสนาน ไปเที่ยว กินข้าว แต่ว่าตัวเองก็ยังพยายามพาตัวเองออกไปเจอเพื่อนบ้าง ออกไปเจอสังคม ออกไปใช้ชีวิตทุกอย่างเหมือนเดิม แต่เพียงแค่มันไม่รู้สึกมีความสุขเหมือนเมื่อก่อน
แล้วความรู้สึกที่อยู่ดีๆ ต้องการมองหาความสงบในชีวิตมากขึ้น มันส่งผลอะไรกับตัวเองบ้างไหม
ดาว: ส่งผล เพราะว่าเราอยู่ในเมืองตลอดเวลา ความสงบมันไม่ได้หาได้ง่ายขนาดนั้น และมันมีการแข่งขันเยอะแยะมากมายเต็มไปหมด
ยิ่งทุกวันนี้อินฟลูเอนเซอร์เยอะมาก KOL เยอะมาก ดาราเยอะมาก มันยังมีการแข่งขันในเรื่องของการใช้ชีวิตที่เรายังต้องอยู่ เรายังต้องทำตรงนี้อยู่ แต่มันไม่ได้หมายถึงอยู่ตรงนี้แล้วมันจะสงบได้ ด้วยสภาพแวดล้อมต่างๆ ก็คือเราไม่ได้สงบกับมัน แต่จริงๆ เรื่องความสงบมันอยู่แค่ข้างในจริงๆ นะ ดาวถึงไปเที่ยวคนเดียว ใส่หูฟัง มันก็คือความสงบอีกรูปแบบหนึ่ง แต่มันอาจจะไม่เหมือนกัน ถ้าข้างในเราสงบแล้วรอบนอกเราสงบด้วยมันจะเป็นอะไรที่ดีมากเลย
ดาวเลยชอบที่จะไปต่างประเทศ มันรู้สึกว่าได้เปลี่ยนมุมมอง เปลี่ยนการมองเห็นต่างๆ
ล่าสุดดาวไป Copenhagen มา ดาวชอบไวบ์เขามาก! เหมือนชีวิตของเขาไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องการทำงาน คือชีวิตของคนเรามันจะคิดแค่ว่า การทำงานเป็นเรื่องหลักถูกไหมคะ ต้อง Success ในเรื่องของการทำงาน ต้องเลื่อนขั้น ต้องได้รับความชื่นชม ต้องได้เป็นซีอีโอ หรือต้องดีที่สุด แต่ว่าคนที่นั่นเขาทำงานแบบ ‘Just ทำงาน’ การทำงานไม่ใช่พอยต์หลักของเขา พ้อยต์หลักของเขาคือ การพบปะพูดคุย มารวมกันที่สวนสาธารณะ มีแม่น้ำ มีภูเขา มีทุ่งหญ้า มีคนเดินไปเดินมา มีอาหารอร่อยๆ เขาก็นั่งพูดคุยกัน ทุกคนไม่ได้หยิบโทรศัพท์เล่นกัน หรือว่าไม่ต้องมานั่งเครียดเรื่องงาน เลยชอบไวบ์ของ Copenhagen มากๆ
View this post on Instagram
แล้วถ้าดาวไม่สามารถเดินทางไปต่างประเทศได้ในช่วงนั้น ดาวมีวิธีการหาความสงบให้ตัวเองอย่างไร
ดาว: เก็บของในบ้านค่ะ แค่นั้นเลย หยิบอันนี้มาจากตรงนี้ ทำเครื่องดื่ม ทำขนม ทำอาหารบ้าง หาเมนูกุ๊กกิ๊กๆ เราไม่ใช่คนทำอาหารเก่ง แต่แค่รู้สึกว่า เราเบี่ยงเบนความสนใจให้ตัวเองรู้สึกสงบมากขึ้น
เราดูคอนเทนต์ได้ เราดูโซเชียลมีเดียได้ แต่ว่าเราต้องใช้มันให้เป็นประโยชน์มากที่สุด เช่น พรุ่งนี้ฉันจะกินอะไร แล้วก็เลื่อนดู อุ๊ย มีอะโวคาโด จะซื้อหนมปังเอามาหั่นๆ อย่างนี้นะ
เราก็แค่โฟกัสกับปัจจุบันให้ได้มากที่สุด หาอะไรทำให้มันดูมีประโยชน์สำหรับตัวเองมากที่สุด
มีจุดที่รู้สึกว่าตัวเองกำลังเบิร์นเอาต์ไหม
ดาว: จะมีในเรื่องของการทำคอนเทนต์ ก็คือเบิร์นเอาต์จริง เราแบบพอแล้วเนอะกับการทำคอนเทนต์ต่างๆ ให้คนมาสนใจ อาจจะ Algorithm ช่วงนี้มันไม่ค่อยดีด้วย อาจจะอะไรหลายอย่างที่ทำให้เราอยากอยู่นิ่งๆ ถ้าช่วงนี้จะไม่เห็นรับงานในเรื่องของคอนเทนต์มากนัก
จากที่ดาวแชร์ว่าอินฟลูเอนเซอร์ในเมืองไทยเยอะมาก การแข่งขันกันสูงมาก แต่ก็เบิร์นเอาต์ไม่อยากทำคอนเทนต์ ตอนนี้ดาวหาบาลานซ์เจอหรือยัง
ดาว: ไม่อยากทำแต่ต้องทำ สิ่งที่จะมาบาลานซ์ได้ก็คือ ต้องเป็นสิ่งที่รู้สึกว่า ฉันอยากทำอันนี้ สินค้าตัวนี้ไม่ได้จ้าง เราใช้ เราชอบ เรารัก เราอิน เราอยากพรีเซนต์ว่าอันนี้มันดีจริงๆ แล้วยอดมันจะไม่เหมือนการทำงานที่ถูกจ้างมา
หลังๆ เราก็จะบอกลูกค้าว่า ขอในส่วนที่เป็นของตัวเองได้ไหม No Hashtag ก็คือไม่ขาย ถ้าคนอยากดูคลิปจริงๆ มันขายตัวของมันเอง
การที่เราเลือกทำแบบนี้ รายได้น้อยลงไหม
ดาว: รายได้น้อยลงค่ะ เราเริ่มจากการที่เรารักใช่ไหม ไม่มีใครจ่ายอยู่แล้ว เพราะว่าของที่เรารัก บางทีเขาไม่ได้รักเรา ถ้าเราใช้แล้วเรารักจริงๆ เราอยากรีวิว เราอยากเอามาทำคอนเทนต์ เราอยากเอามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต เราก็ทำ ไม่เป็นไร ครั้งหน้าเขาอาจจะเห็นคุณค่าหรืออะไรค่อยว่ากัน
View this post on Instagram
บทเรียนสำคัญที่ดาวได้เรียนรู้จากวงการบันเทิงในวันนี้คืออะไร
ดาว: บทเรียนที่ชัดเจนก็คือ ใจเย็นลงมาหน่อย เพราะว่านี่เป็นคนใจร้อนมาก ตั้งแต่เด็กคือเป็นคนใจร้อน คิดปุ๊บทำปั๊บ แล้วก็เหมือนแบบไม่คิดไตร่ตรอง 1 2 3 4 5 เป็นคนที่วู่วามมากๆ ก็มีเรื่องราวต่างๆ ทั้งข่าวอะไรต่างๆ ออกมามากมาย ข่าวจริง ข่าวไม่จริง มันเยอะมากๆ
สุดท้ายมันก็เกิดขึ้นจากตัวเราเอง ก็คือการใจร้อน มันไม่มีอะไรดีอยู่แล้ว ทุกวันนี้ก็ยังคงเป็นคนใจร้อนอยู่ แต่ก็พยายามแบบ ช่างมัน อย่าคิด คือจะห้ามใจไม่ให้คิดเลยก็ไม่ได้หรอก แต่พยายามหาทางอื่นแทน
อย่างยิมนี่อยู่ประจำเลย อยู่ทั้งวัน บางทีมาบ่ายสอง กลับสองทุ่ม เราเจอสังคมที่มันไวบ์เดียวกับเรา พูดคุยเรื่องเดียวกัน มาออกกำลังกาย มาแชร์ประสบการณ์กัน เราก็เอามา adapt ใช้กับชีวิตเราได้
การมาอยู่ที่นี่มันทำให้เราได้โฟกัสที่ตัวเอง 100% เลย ก็เลยรู้สึกว่าความใจเย็นมันมาจากการที่เราเริ่มออกกำลังกายทีละเล็กทีละน้อย
เรียกว่าการออกกำลังกายก็ช่วยปรับเราเหมือนกัน
ดาว: ปรับได้เยอะมากเลยค่ะ ปรับทุกอย่างเลย ถ้าในเรื่องของบอดี้ก็ดูดีขึ้น ปรับในเรื่องของสมอง สุขภาพ ดาวป่วยยากมากตั้งแต่เริ่มออกกำลังกาย
จากการเป็นคนมีชื่อเสียงในแวดวงบันเทิงมานานนับสิบปี ทุกวันนี้ดาวรับมืออย่างไรเมื่อเจอคอมเมนต์ในแง่ลบ
ดาว: พูดตรงๆ ว่าไม่เคยทำใจได้เลย ก็ยังคงอ่านอยู่เสมอ คนรอบข้างก็พยายามพูดว่า ถ้ารู้สึกว่าตัวเองทำไม่ได้ ไม่หายนอยด์ ก็อย่าอ่านเลย แต่บางทีเราไม่ได้อยากอ่านนะ มันเห็นเอง พอมันเห็นมันก็แบบ…ฉันทำอะไรไม่ดีขนาดนั้นเลยเหรอ ฉันก็ใช้ชีวิตของฉันปกติ แบบคนปกติจริงๆ ทำไมทำไอ้นี่ก็ไม่ดี ทำไอ้นั้นก็โดนว่า ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็แล้วแต่ คือมันเป็นเรื่องที่เราโดนอยู่ตลอดเวลา แต่เราต้องมองมุมคนอื่นด้วย เลื่อนดูไปเถอะ อีกกี่โซเชียลทุกคนโดนหมด แล้วก็เป็นคนคนเดียวกันที่คอมเมนต์แบบนี้
เอาเป็นว่าเราสงสารเขาดีกว่า เขาไม่มีอะไรทำ เราไปทำอย่างอื่น ไม่ต้องไปใส่ใจ ก็คิดอย่างนี้ว่า เออ ไม่ใส่ใจแล้วกัน ช่างมัน ไม่เป็นไร วันนี้หงุดหงิดพรุ่งนี้ก็ไม่นอยด์แล้ว บางทีก็บล็อกเลยค่ะ เรากดดีลีต บล็อกง่ายกว่าเขาที่จะทำแอ็กเคานต์ใหม่ แค่กด 2 ปุ่ม จบเลย
อยากบอกอะไรกับดาวในวัย 33
ดาว: อยากบอกตัวเองว่า เหนื่อยมามากแล้วนะ แต่ก็รู้สึกว่าเหนื่อยต่อไปได้อีก เพียงแค่ว่าเลือกที่จะเหนื่อยแต่มีความสุขดีกว่า ให้เลือกในสิ่งที่ดี เลือกตัวเองก่อนไม่ว่าจะอะไรก็ตาม
มันก็ไม่ผิดด้วยใช่ไหมที่เราจะเลือกตัวเองก่อน
ดาว: ไม่ผิดในทุกๆ เรื่องเลยค่ะ เราเลือกตัวเองในที่นี้คือ เราแค่เอาตัวเองให้มีความสุขที่สุดแต่ก็ต้องอยู่ในทางที่ดีด้วยนะ คำพูดมันค่อนข้างแบบดาบสองคมเนอะว่าเอาตัวเองก่อน ดูเห็นแก่ตัว เอาแต่ใจ ไม่ใช่ เอาตัวเองก่อนในที่นี้คือดึงตัวเองออกมาจากสิ่งที่ร้ายๆ เลือกตัวเองก่อน แล้วพาตัวเองไปในสิ่งที่ดีๆ