นี่คือโปรเจกต์ใหม่ล่าสุดของทีมงานเดียวกันจากร้านกะเพราเผ็ดมาร์ค พูดแค่นี้หลายคนก็น่าจะพร้อมพุ่งตัวไปที่ร้านแล้วแน่ๆ เพื่อลองพิสูจน์กับปากว่าเบอร์เกอร์ของ ‘BigMark Burger’ จะเจ๋งสักแค่ไหน
เพราะผู้อยู่เบื้องหลังร้านทั้งสองคือ ‘แทน-เทพ-มาร์ค’ สามผู้ก่อตั้งบริษัท AroiMark ที่เดบิวต์ด้วยการเปิดร้านกะเพราสเปเชียลตี้ และพวกเขาบอกว่ามันจะไม่จบอยู่แค่นี้ เนื่องจากความตั้งใจจริงๆ ของทั้งสามคนคืออยากพัฒนาวงการอาหาร โดยเฉพาะเมนูที่พวกเรากินอยู่ทุกวันๆ ให้มันดี ให้มันอร่อย ถ้าคนต่างชาติมากินก็ต้องจดจำได้ว่านี่แหละคือ The Best จากฝีมือคนไทย
“แต่ถ้าเป็นเบอร์เกอร์ เราไม่บอกว่าของเราดีที่สุดนะ เพราะมันขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน แต่ที่เรากล้าบอกได้คือนี่คือเบอร์เกอร์ที่ดีที่สุดในสไตล์ของพวกเรา” แทน-กิตติเดช วิมลรัตน์ หรือ แทนไร้เทียมทาน หนึ่งในทีมผู้ก่อตั้งบอก โดยข้างๆ มี เทพ-พงศ์เทพ อนุรัตน์ หรือ AKA ผู้ชายลัลล้า นั่งอยู่ข้างๆ ด้วย
“ที่จริงร้าน BigMark มีหุ้นส่วนอีก 2 คน คือ มาร์ค วีนส์ (Mark Wiens) ยูทูเบอร์สายกินระดับโลก กับเชฟกิ๊ก เจ้าของร้านเลิศทิพย์ แต่ว่าสองคนนี้เดินทางอยู่” เทพบอก
The Vibe
แค่เดินเฉียดก็รู้แล้วว่า BigMark เป็นร้านเบอร์เกอร์สไตล์อเมริกัน ทั้งสองคนบอกว่าเพราะเปิดร้านนี้เพื่อ มาร์ค วีนส์ โดยเฉพาะ จึงตั้งใจออกแบบทั้งบรรยากาศ โลโก้ และตกแต่งร้านให้เป็นสไตล์ American Dining โดยคนทำหน้าที่ออกแบบลายการ์ตูน โลโก้ร้านต่างๆ มาตั้งแต่เผ็ดมาร์คก็ไม่ใช่ใคร แต่เป็นเทพ ผู้เคยเป็นอาร์ตไดเรกเตอร์มาก่อน
BigMark จะเด่นด้วยหน้าร้านสีขาวแดง มีตัวการ์ตูนเด่นหราให้มองแล้วจำได้ เมื่อเปิดเข้ามาสิ่งที่พวกเขาตั้งใจโชว์ให้เตะตาทุกคนก่อนอื่นใดคือ ร้านคราฟต์ไอศกรีม Sweet Kitti (สวีท กิตติ) ที่เปิดอยู่ตรงชั้นลอย ถ้าใครมากินเบอร์เกอร์จะได้ไม่ลืมว่ายังมีของหวานรออยู่ ส่วนพื้นที่นั่งกินเบอร์เกอร์จะอยู่ชั้นล่างทั้งหมด
“ที่นี่เรียกว่าเป็น Headquater ของพวกเราด้วย ทั้งตึกจะมี 3 ชั้น อีก 2 ชั้นที่เหลือจะเก็บไว้ทำโปรเจกต์อื่นอีก” เทพบอก
The Taste
BigMark เสิร์ฟเบอร์เกอร์สไตล์อเมริกัน แต่เป็นอเมริกันในสไตล์ของพวกเขาแต่ละคน เพราะนอกจาก แทน-เทพ-มาร์ค ร้านนี้พวกเขายังพาร์ตเนอร์กับ Bun Meat and Cheese ที่มาช่วยดูเรื่องเบอร์เกอร์ และมีเชฟกิ๊กเข้ามาช่วยดูเรื่องรสชาติและสูตรอาหาร
“ต้องเล่าก่อนว่าบริษัท AroiMark ตั้งใจทำเกี่ยวกับร้านอาหารนี่แหละ แต่พวกเราสามคนจะไปจับมือกับเชฟต่างๆ เพื่อทำแต่ละร้านขึ้นมา” แทนเล่าให้ฟัง
เบอร์เกอร์ BigMark จึงน่าสนุกตรงที่แต่ละเมนูเกิดจากความชอบของพาร์ตเนอร์แต่ละคน ใครชอบกินแบบคนไหนก็สั่งเมนูตามชื่อคนนั้น เพราะพวกเขาเองก็ชอบกินเบอร์เกอร์ที่มีส่วนประกอบคนละแบบ
ทุกเมนูมีวัตถุดิบบอกไว้แบบเข้าใจง่าย และมีให้เลือกทั้งหมูและเนื้อดรายเอจจากจังหวัดสกลนคร อย่างเช่น คนไม่ชอบกินผักให้สั่ง ‘iTAN Burger (229-249 บาท)’ เพราะใส่แค่แพตตี้ ชีส เบคอน และซอสซิกเนเจอร์ BigMark แต่ถ้าอยากเพิ่มผักก็จะกลายเป็นเมนูซิกเนเจอร์ ‘BigMark Burger (229-249 บาท)’ โดยบันของร้านจะใช้บันมันฝรั่ง แม้แทนจะบอกว่าหน้าตาน่าเกลียดหน่อย แต่เราว่านี่แหละ ดูแค่สายตาก็รู้แล้วว่าต้องนุ่มมาก
สายเนื้อที่ชอบกัดเบอร์เกอร์เนื้อแน่นๆ ต้องกิน ‘LunlaMan Burger (359-399 บาท)’ เบอร์เกอร์สไตล์พี่เทพที่ใส่ทุกอย่าง และดับเบิลแพตตี้เป็น 2 ชิ้น กลายเป็นเบอร์เกอร์ชิ้นโตๆ ที่เพิ่มผักดอง เห็ดผัด หอมคาราเมลไรซ์ และซอสเสือร้องไห้สูตรของร้าน
แค่นี้ยังไม่พอ พวกเขาบอกว่าต้องดิปเบอร์เกอร์กับ ‘ซอสพริกมะเขือเทศ’ ที่ร้านคิดสูตรขึ้นมาเองด้วย ทุกคนจะเห็นขวดตั้งโชว์อยู่ในร้าน และสามารถเติมได้ตลอด เราแนะนำให้สั่งของกินเล่น ‘Tater Tots (99 บาท)’ กับ ‘Nugget (159 บาท)’ ที่ร้านทำเองมาดิปคู่กับซอส ยิ่งกินยิ่งเพลิน นึกถึงซอสพริกวัยเด็ก และถ้าใครติดใจก็ซื้อกลับไปได้ด้วย
“ถ้าถามว่าเบอร์เกอร์ที่ดีสำหรับพวกเราเป็นยังไง ผมไม่มีคำตอบให้จริงๆ เพราะคำว่าดีของแต่ละคนต่างกัน สิ่งที่เราทำในร้านนี้ถือว่าดีแล้ว นี่คือเบอร์เกอร์ที่พวกเราโคตรชอบ และเชื่อว่าไม่เหมือนที่อื่นด้วย” แทนตอบเราเมื่อถามว่าเบอร์เกอร์ของที่นี่เจ๋งตรงไหน
Good for
ในฐานะที่เราเป็นคนชอบกินเบอร์เกอร์ อยากแนะนำให้ทุกคนลองสั่งเมนูซิกเนเจอร์ BigMark มาลองดูก่อน เพราะเบอร์เกอร์ของที่นี่เราว่าเท็กซ์เจอร์น่าสนใจ ตั้งแต่ขนมปังมันฝรั่งที่กัดไปแล้วนุ่มๆ ไม่แน่น ไม่หนา พอเจอกับเบคอนและแพตตี้สแมชที่ตรงขอบกรอบๆ ตรงกลางฉ่ำๆ เคี้ยวไปแล้วรสเนื้อจึงชัด ทุกอย่างเข้ากันพอดี เพราะไม่โดนขนมปังกลบ
แล้วหากพอใจกับสิ่งนี้เหล่านี้ ให้ขยับมาสั่งเบอร์เกอร์แบบดับเบิล เพราะรสเนื้อดรายเอจจะชัดขึ้นเยอะ มีความหอม เผ็ดร้อนพริกไทยจางๆ คนชอบเบอร์เกอร์ฉ่ำๆ บันหอมๆ ต้องติดใจ
อ้อ แล้วอย่าลืมเก็บที่ว่างไว้กินของหวานด้วยนะ เพราะที่นี่ตั้งใจนำไอศกรีมซันเดย์ที่หลายคนคิดถึงกลับมา
BigMark Burger
Open: เปิดทุกวัน เวลา 10.00-21.30 น.
Address: ซอยสุขุมวิท 28
Contact: Bigmarkbkk หรือ @bigmarkbkk
Budget: เริ่มต้น 199 บาท
Map: