อาจต้องเข้าซอยมาลึกสักหน่อย แต่เราเชื่อว่าทุกคนที่อยากนั่งจิบกาแฟชิลๆ ในบรรยากาศสงบๆ ร่มรื่น ต้องชอบความโฮมมี่ของ ‘Bark Bangkok’ คาเฟ่สไตล์เกาหลีในซอยสุขุมวิท 49 ที่มีเจ้าของเป็นชาวเกาหลีใต้แท้ๆ แต่เขาพูดไทยคล่องปรื๋อ เพราะอยู่ที่นี่มานาน 5 ปีแล้ว
“ชื่อร้านว่า Bark มาจากนามสกุลของผม เพราะจริงๆ แล้วนามสกุล ‘พัค’ ของคนเกาหลีต้องสะกดด้วยตัว B ผมเลยเอานามสกุลมาตั้งเป็นชื่อร้าน” พัคซังฮยอบ เจ้าของคาเฟ่เล่าให้ฟังหลังจากปล่อยให้พวกเราชิมหลายเมนูจนอิ่ม
The Vibe
Bark Cafe เปิดอยู่ในบ้านสองชั้นใจกลางพร้อมพงษ์ ที่นี่มีทั้งความร่มรื่น พื้นที่โปร่งกว้าง และต้นไม้สีเขียวทุกมุมที่ทำให้บ้านหลังนี้ดูสงบ น่านั่งจิบกาแฟ เอาหนังสือมาอ่านด้วยสักเล่ม
ส่วนด้านในตกแต่งสไตล์ Mid-Century ที่กำลังนิยม เน้นใช้เฟอร์นิเจอร์ทำจากไม้ ผสมเฟอร์นิเจอร์งานดีไซน์ต่างๆ ที่ทำให้คาเฟ่มีหลายมุมขึ้นมา และเมื่อถึงช่วงค่ำก็จะกลายเป็นร้านนั่งจิบไวน์
แล้วในพื้นที่เดียวกันยังมีร้านทำเล็บ ชั้นบนเป็นพิลาทิสสตูดิโอแบบส่วนตัว (Namu Pilates) ที่สอนโดยแฟนเจ้าของร้านเอง Bark เลยเป็นเหมือนกึ่งคอมมูนิตี้ที่น่าชวนเพื่อนมานั่งแฮงเอาต์ด้วยกันได้ทั้งวัน
The Taste
Bark Cafe จะเน้นเมนูกาแฟ เบเกิล และอาหารเกาหลี พัคซังฮยอบ บอกว่าคนเกาหลีใต้ชอบดื่มกาแฟครีมมาก ถ้าไปเกาหลีใต้จะเจอแทบทุกร้าน แต่เพราะในกรุงเทพฯ ยังไม่ค่อยมีเท่าไร เขาเลยทำกาแฟครีมเป็นเมนูซิกเนเจอร์ คือ Bark Coffee (130 บาท) กาแฟลาเต้ใส่ครีม และ Bark Coffee Black (140 บาท) กาแฟลาเต้ครีมงาดำ ซึ่งเราชอบอันหลัง เพราะมีรสหอมหวานจากงาดำด้วย กินคู่กับ Madeleine (45-55 บาท) แล้วเข้ากันดีเลย โดยเฉพาะมาเดอลีนยักกวา เป็นขนมโบราณของเกาหลีใต้ที่กำลังมาแรงสุดๆ
แต่ถ้าใครอยากลองกาแฟคลาสสิกก็มีเช่นกัน ราคาเริ่มต้น 80-140 บาท ส่วนกาแฟดริปที่ใช้เมล็ดจากเกาหลีใต้ต้องลองถามร้าน เพราะขึ้นอยู่กับเมล็ดกาแฟ
เบเกิลเป็นสูตรของร้านเอง พัคซังฮยอบบอกว่าเขาปรับให้เป็นแบบที่ชอบ กินง่าย ไม่แห้งหรือนุ่มเกินไป Bagel (60-80 บาท) ของร้านจะมีให้เลือก 3 แบบ สั่งได้ทั้งสไตล์ เบเกิลแซนด์วิช (280 บาท) หรือกินคู่กับครีมชีสที่มีให้เลือก 4 รสชาติ (50-60 บาท)
เราชอบอาหาร เจ้าของร้านบอกว่าเป็นรสชาติสไตล์ Home Recipe ที่เขาทำกินเองจริงๆ รสชาติจึงไม่เหมือนตามร้านอาหารเกาหลีทั่วไป เช่น ข้าวผัดกิมจิ (240 บาท) ที่รสเข้มข้นน้อยกว่า แต่รสชาติกินง่ายกว่า ไม่เค็มไปหรือหวานเกินจำเป็น อีกเมนูก็คือ ข้าวหมูบุลโกกิซอสโคชูจัง (260 บาท) ที่เข้มข้นสไตล์เกาหลี มีทั้งความเค็มหวาน ทั้งสองเมนูมาพร้อมไข่ดาว
Good for
เป็นอีกหนึ่งคาเฟ่บรรยากาศดีที่เราอยากกลับไปนั่งดื่มกาแฟ อ่านหนังสือในวันหยุดชิลๆ เพราะที่นี่มีครบทั้งอาหาร กาแฟ ของกินเล่น แถมยังพาสัตว์เลี้ยงมาได้ด้วย แล้วในอนาคต พัคซังฮยอบบอกว่าเขาจะเปิดเป็นร้านนั่งดื่ม เสิร์ฟไวน์ เบียร์ และวิสกี้ หรือถ้าใครเรียกหาโซจูมาดื่มคู่อาหารเกาหลี เขาก็มีเหมือนกัน โดยจะเริ่มตั้งแต่ 5 โมงเย็นเป็นต้นไป แต่จะเริ่มเมื่อไรต้องรอติดตาม
ภาพ: ปวรุตม์ งามเอกอุดมพงศ์
Bark Bangkok
Open: เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 08.00-17.00 น.
Address: ซอยสุขุมวิท 49
Contact: @bark.bangkok
Budget: 200-500 บาท
Map: https://goo.gl/maps/s2Za7qGJbuMaNR556?coh=178573&entry=tt