‘ต้องเก่ง ต้องประสบความสำเร็จ ต้องทำงานให้มีประสิทธิภาพตลอดเวลา’
เคยไหมที่รู้สึกอึดอัดเมื่อเห็นฟีดจากคนเก่งมากมายในสังคมที่พยายามกระตุ้นเราแบบนี้ แต่จริงๆ แล้วการไล่ตามความคาดหวังเหล่านี้โดยไม่หยุดพักอาจเป็นเส้นทางสู่ภาวะหมดไฟที่มาเร็วกว่าที่คิด จากการศึกษาของ The American Psychological Association พบว่า คนที่พักผ่อนอย่างเพียงพอและให้เวลากับตัวเอง มีประสิทธิภาพในการทำงานสูงกว่าและมีความคิดสร้างสรรค์มากกว่าคนที่ทำงานติดต่อกันหลายชั่วโมง
เมื่อเรายอมรับว่า ‘เราไม่จำเป็นต้องเก่งตลอดเวลา’ ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนที่ลดความเครียดและความดันเลือดลดลง ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดีขึ้น ที่สำคัญ การยอมพักไม่ใช่ความล้มเหลว แต่เป็นกลยุทธ์สำคัญในการดูแลตัวเองให้เดินทางได้ไกลกว่าเดิม
สิ่งที่เราอยากบอกทุกคนที่กำลังเหนื่อยเพราะพยายามจะเป็นคนเก่งก็คือ “ไม่เป็นไรนะ ถ้าวันนี้ยังไม่ไหว ใจดีกับตัวเองก่อนแล้วค่อยไปต่อ สิ่งที่สำคัญในตอนนี้คือระหว่างทางของความพยายามเรามีความสุขไหม อย่าลืมว่าคุณค่าที่สูงกว่าการเป็นคนเก่งที่ประสบความสำเร็จคือสุขภาพกายใจของเราต้องไม่พังก่อนที่จะไปถึงเป้าหมายนั้น”
การปลูกฝังแนวคิดว่าเป็นคนยุคนี้ ‘ต้องเก่งตลอดเวลา’ ไม่ได้แค่ทำให้เราเหนื่อยล้า แต่ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพกายและใจในระยะยาว เมื่อเราตั้งคำถามกับค่านิยมที่ว่า ‘ยิ่งยุ่งยิ่งมีคุณค่า’ เราจะเริ่มมองเห็นทางเลือกใหม่ในการใช้ชีวิตที่สมดุลและมีความสุขมากขึ้น
จากบทความของ Talkspace กล่าวถึงผลกระทบทางลบของวัฒนธรรม Hustle ที่ยกย่องความเหนื่อยล้าจากการทำงานหนักเป็นเครื่องมือวัดความสำเร็จ ทำให้คนรุ่นใหม่เผชิญกับภาวะหมดไฟเร็วขึ้นถึง 40% เมื่อเทียบกับคนรุ่นก่อน การทำงานหนักโดยไม่พักจึงไม่ใช่ความขยัน แต่คือการทำร้ายตัวเองอย่างช้าๆ และอาจไม่ได้นำไปสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน
ศิลปะของการยอมรับความธรรมดาและการพัก
- กล้าที่จะบอกว่า “วันนี้ทำไม่ไหว” ความกล้าที่แท้จริงไม่ใช่การฝืนทำทุกอย่างจนสำเร็จ แต่คือความสามารถในการรับรู้ขีดจำกัดของตัวเอง และกล้าที่จะพูดว่า “พอแล้ว” เมื่อร่างกายและจิตใจต้องการการพักผ่อน การฟังเสียงเตือนจากร่างกายเป็นสัญญาณของความเข้าใจตัวเองที่ลึกซึ้ง ไม่ใช่ความอ่อนแอ
- ให้นิยามใหม่กับคำว่า ‘เก่ง’ ลองตั้งคำถามกับตัวเองว่า ‘เก่ง’ ในความหมายของเราคืออะไร? หากคำนิยามนั้นเน้นแต่ผลงาน ความสำเร็จ หรือความเห็นของคนอื่น อาจถึงเวลาที่ต้องทบทวนใหม่ คนที่เก่งอย่างแท้จริงคือคนที่รู้จักดูแลตัวเอง เข้าใจว่าเมื่อไรควรเดิน เมื่อไรควรวิ่ง และเมื่อไรควรหยุดพัก
- ฟังเสียงของตัวเอง ไม่ใช่เสียงของสังคม ลองถามตัวเองว่าสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ เราทำเพราะอยากทำจริงๆ หรือทำเพราะกลัวจะไม่ดีพอ? เรากำลังวิ่งไล่ตามอะไร และสิ่งนั้นมีความหมายกับเราจริงหรือไม่? บางครั้งเราอาจพบว่าเราใช้พลังงานมากมายไปกับความคาดหวังที่ไม่ใช่ของเราเอง
วิธีพักอย่างมีพลัง
การพักไม่ใช่การเกียจคร้าน แต่เป็นการชาร์จพลังที่จำเป็น เปรียบเสมือนการเติมน้ำมันให้รถที่วิ่งมาไกล ไม่มีรถคันไหนวิ่งได้โดยไม่ต้องเติมน้ำมันฉันใด ร่างกายและจิตใจของเราก็ไม่สามารถทำงานได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดฉันนั้น
วิธีพักอย่างมีคุณภาพที่ทำได้ง่ายๆ
- การเดินเล่นในที่มีธรรมชาติ แม้เพียง 20 นาที ก็ช่วยลดฮอร์โมนความเครียดได้ถึง 30%
- ปิดการแจ้งเตือนและโซเชียลมีเดีย อย่างน้อยวันละ 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้สมองได้พัก
- ทำกิจกรรมที่ไม่ต้องคิดมาก เช่น วาดรูป ระบายสี ทำอาหาร ฟังเพลง หรือทำงานฝีมือ
- นั่งนิ่งๆ ไม่ทำอะไร แค่ 10 นาที ลองสังเกตลมหายใจและความรู้สึกที่เกิดขึ้น
- นอนหลับให้เพียงพอ การพักผ่อนที่ดีที่สุดคือการนอนหลับอย่างมีคุณภาพ
การยอมรับว่าเราไม่จำเป็นต้องเก่งตลอดเวลาไม่ใช่การยอมแพ้ แต่เป็นการเลือกที่จะรักตัวเองมากขึ้น เมื่อเรารู้จักพัก เราจะพบว่าเรามีพลังมากพอที่จะเดินต่อไปได้อีกไกล และที่สำคัญ การเดินทางนั้นจะมีความสุขมากขึ้น
เราอยากบอกผู้อ่านว่า คุณค่าของเราไม่ได้อยู่ที่ว่าเราทำงานได้มากแค่ไหน แต่อยู่ที่เรามีความสุขกับชีวิตมากเพียงใด คุณมีสิทธิ์ที่จะเลือก และการเลือกพักเมื่อจำเป็นอาจเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดที่สุดที่คุณทำเพื่อตัวเอง