สิ่งที่เราต้องเผชิญในวัยที่เพิ่มมากขึ้นคือร่างกายที่เปลี่ยนไปตามธรรมชาติ ไม่ว่าจะความแข็งแรงที่ไม่เหมือนก่อน รู้สึกเหนื่อยง่ายขึ้น กระดูกเริ่มลั่นเป็นครั้งคราว จากที่เคยอึดถึกทนต่อการอดนอนแล้วใช้ชีวิตปกติ ปัจจุบันแค่นอนน้อยลงหน่อยสมองก็ไม่ฟังก์ชันไปทั้งวัน กินเท่าเดิมแต่รอบเอวกลับเพิ่มขึ้น แถมผิวยังดูร่วงโรยไวขึ้นแบบติดจรวดแม้ว่าจะทาสกินแคร์ที่ใครว่าดีแล้วก็ตาม
อย่างที่บอกว่าทั้งหมดนี้มันคือกลไกธรรมชาติที่เราต่างต้องเผชิญ แต่ใช่ว่าจะไม่มีทางรับมือได้ หนึ่งในวิธีที่ดี ปลอดภัย แถมยังไม่เสียทรัพย์สักบาทคือ การปรับเวลานอน ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับคำว่า ‘นาฬิกาชีวภาพกัน’ ก่อน
นาฬิกาชีวภาพหรือใครอาจคุ้นชินกับคำว่า ‘นาฬิกาชีวิต’ ล้วนมีความหมายเหมือนกัน ซึ่งก็คือวงจรของระบบการทำงานที่ถูกติดตั้งในร่างกายเราที่คอยควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ ตั้งแต่การตื่น การนอนหลับ การเผาผลาญ ระบบภูมิต้านทานโรค ฯลฯ ซึ่งปัจจัยสำคัญที่สุดในการควบคุมนาฬิกาชีวภาพคือ แสงสว่าง ที่น่าอัศจรรย์คือร่างกายเรามีตาที่ 3 ที่เรียกว่า ต่อมไพเนียล (Pineal Gland) ซึ่งเป็นต่อมเหนือสมองที่คอยรับรู้แสงและความมืด แล้วคอยส่งสัญญาณให้เรารู้ว่าเวลาไหนควรตื่นหรือควรนอน ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ร่างกายเราจะรู้สึกง่วงเพลียเมื่อพลบค่ำ ในทางกลับกันหากเราฝืนร่างกาย ไม่นอนในเวลาที่ควรนอน หรือหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ร่างกายก็จะเสียสมดุลไม่ฟังก์ชันเหมือนเก่า
นาทีทองแห่งการฟื้นคืนความอ่อนเยาว์
รู้หรือไม่ว่าในแต่ละคืนร่างกายของเราจะมีการหลั่ง ‘Growth Hormone’ ที่ถูกขนานนามว่าเป็นฮอร์โมนแห่งความอ่อนเยาว์ เพื่อทำหน้าที่กระตุ้นให้เกิดการสร้างและซ่อมแซมเนื้อเยื่อส่วนต่างๆ ของร่างกายให้เจริญเติบโต ซึ่งช่วงเวลาที่ร่างกายจะเริ่มหลั่ง Growth Hormone นั้นจะอยู่ที่เวลา 23.00 น. ดังนั้นเราควรเข้านอนตั้งแต่ช่วงเวลา 22.00 น. เพื่อกอบโกยนาทีทองแห่งการฟื้นคืนความหนุ่มสาวนั้นให้ทัน และควรนอนหลับพักผ่อนให้ได้ 7-9 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูได้อย่างเต็มที่
หากใครที่ออกกำลังกายหรือยกเวตเป็นประจำ Growth Hormone ก็จะช่วยในการฟื้นฟูและเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ช่วยในเรื่องการทำงานของระบบเผาผลาญร่างกาย ลดการสะสมของไขมัน และแน่นอนว่ามีประโยชน์ต่อด้านผิวพรรณอีกด้วย ปัญหาผิวที่แห้ง หยาบกร้าน ร่วงโรย หรือสารพันริ้วรอยต่างๆ ที่ถามหาตามวัยที่เพิ่มมากขึ้น ก็จะได้รับการฟื้นฟูให้ดูอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้น
ใครที่เคยชินกับการนอนดึกมาโดยตลอด หรือมีปัญหาหลับยาก มาลองทำตาม 5 วิธีดังต่อไปนี้กันดู หากลองปรับพฤติกรรมไประยะหนึ่งแล้วไม่ดีขึ้น เราแนะนำให้ลองไปพบแพทย์เพื่อรักษาและป้องกันการเจ็บป่วยในระยะยาว
5 วิธีที่ช่วยให้หลับง่ายขึ้น
1. จุดเทียนหอมในช่วงที่อาบน้ำ
เหนื่อยล้าจากการทำกิจกรรมมาทั้งวันแล้ว ลองเปลี่ยนบรรยากาศก่อนเข้านอนด้วยการจุดเทียนหอมระหว่างที่อาบน้ำ พร้อมเปิดเพลงสบายๆ ซึ่งเพลงแจ๊สถือเป็นตัวเลือกที่ดี วิธีนี้จะช่วยปรับมู้ดให้รู้สึกผ่อนคลายได้ดีอย่างเหลือเชื่อเลยล่ะ
Panpuri One Night in Bangkok Ambiance Candle (1,980 THB / 250 g) – เทียนหอมกลิ่นใหม่ที่โดดเด่นด้วยความหอมเย้ายวนจาก Tuberose และ Black Pepper ตอบโจทย์ช่วงเวลายามค่ำคืนสมชื่อ
DAVVI Natural Soy Wax Candle Night Blooming (629 THB / 250 g) – ใครที่ชอบกลิ่นหอมหวานโรแมนติกแต่ไม่หวานจนเกินไปจะต้องถูกใจกับเทียนกลิ่นนี้ ที่ให้ความหอมหวานซ่อนเปรี้ยวลงตัวด้วยโน้ตจากดอกลิลลี่ เบอร์รี วานิลลา และมัสก์
2. เลี่ยงมื้อหนัก 3-4 ชั่วโมงก่อนนอน
การกินอาหารมื้อใหญ่จัดเต็มแล้วเข้านอนในขณะที่ยังไม่ย่อยดี นอกจากจะทำให้รู้สึกอึดอัดไม่สบายตัวจนนอนไม่หลับแล้ว ยังเสี่ยงเป็นกรดไหลย้อนอีกด้วย หากเลี่ยงมื้อใหญ่ไม่ได้ แนะนำให้เดินย่อยหลังอาหารก่อน อาจทำกิจกรรมในบ้านอย่างการทำความสะอาด จัดห้องไประหว่างรอเวลาก็ยังได้
3. ลดการใช้สมาร์ทโฟนก่อนนอน
ผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดพบว่า แสงสีฟ้าจากหน้าจอมือถือสามารถส่งผลกระทบต่อคุณภาพการนอนหลับได้ ทางที่ดีคือการงดใช้สมาร์ทโฟนล่วงหน้าสัก 1 ชั่วโมงก่อนเข้านอน เพื่อให้สมองและสายตาได้พัก เตรียมปรับเข้าสู่โหมดแห่งการพักผ่อนอย่างเต็มที่
4. ฝึกการหายใจแบบ 4-7-8
เทคนิคการฝึกลมหายใจแบบ 4-7-8 นั้นถูกคิดค้นโดย Andrew Weil แพทย์และนักพฤกษศาสตร์ชื่อดังจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ที่พิสูจน์แล้วว่าช่วยให้ผ่อนคลายได้จริง โดยเริ่มจากการปิดปากให้สนิท สูดหายใจเข้าทางจมูกโดยนับ 1-4 ในใจ จากนั้นเก็บลมหายใจ กลั้นไว้ 7 วินาที จากนั้นพ่นลมออกทางปากให้มีเสียง ‘พู่’ 8 วินาที นับเป็น 1 รอบ แล้วทำซ้ำอีก 3 รอบ
5. รับประทานอาหารเสริมที่ช่วยให้หลับสบายขึ้น
อีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้หลับสบายขึ้นคือการพึ่งพาอาหารเสริมที่มีส่วนผสมจากสารสกัดที่ช่วยให้ผ่อนคลาย ซึ่งสิ่งที่ต้องคำนึงเป็นอันดับแรกคือเรื่องของความปลอดภัยทั้งในด้านผลวิจัย การผลิต และผ่านการรับรองจากคณะกรรมการอาหารและยาแห่งประเทศไทย (FDA Thai)
Methodology Dreemery Rest + Restore (1,490 บาท / 60 เม็ด) – อาหารเสริมที่เน้นกระบวนการ Rest, Restore และ Nourish ด้วย 10 สารสกัด โดยหนึ่งในส่วนผสมที่น่าสนใจคือ Tart Cherry Extract ที่อุดมไปด้วยเมลาโทนินจากธรรมชาติ สารต้านอนุมูลอิสระ ลดอาการอักเสบ ลดอาการง่วงระหว่างวัน ให้ความรู้สึกไม่เพลียหลังตื่นนอน
SharisRelax (590 บาท / 10 เม็ด) – วิตามินแบรนด์แรกและแบรนด์เดียวในประเทศไทยที่มีสารสกัด Saffron จากแบรนด์ Affron® ประเทศสเปน และ GABA จากแบรนด์ PharmaGABA® ที่มีงานวิจัย Human Clinical Study รองรับประสิทธิภาพว่าช่วยให้การนอนหลับเป็นเรื่องง่ายขึ้น รวดเร็ว หลับลึกยิ่งขึ้น อีกทั้งสารสกัดพรมมิและเชอร์รีทาร์ต ที่ช่วยผ่อนคลายและเพิ่มเมลาโทนินตามธรรมชาติ
อ้างอิง:
- https://hms.harvard.edu/news-events/publications-archive/brain/screen-time-brain
- https://www.risescience.com/blog/screens-before-bed
- https://www.bangkokinternationalhospital.com/th/health-articles/disease-treatment/diseases-of-sleep-misuse
- https://www.samitivejhospitals.com/th/article/detail/นาฬิกาชีวภาพ
- https://resourcecenter.thaihealth.or.th/article/สูตรการนอนแต่ละช่วงวัย-1
- https://www.samitivejhospitals.com/th/article/detail/นอนไม่พอ
- https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/29073398/
- https://www.nakornthon.com/article/detail/สุขภาพดีง่ายๆเริ่มจากการนอน
- https://www.risescience.com/blog/screens-before-bed
- https://www.drweil.com/videos-features/videos/breathing-exercises-4-7-8-breath/