ต่อไปนี้คือ 13 หนังสือที่สามารถช่วยจัดการความวิตกกังวลของคุณได้ แนะนำโดย เว็บไซต์ Healthline
คนเราเผชิญความวิตกกังวลในหลายรูปแบบ และแต่ละคนก็อาจได้รับผลกระทบต่างกันไป หากคุณกำลังรับมือกับความวิตกกังวล ขอบอกเลยว่าคุณไม่ได้อยู่เพียงลำพัง ความวิตกกังวลเป็นปัญหาสุขภาพจิตที่พบมากที่สุดในชาวอเมริกัน โดยมีผู้ใหญ่ประมาณ 40 ล้านคน หรือราว 18% ของประชากรที่ได้รับผลกระทบจากความวิตกกังวล
โรควิตกกังวลมีหลายประเภท เช่น โรควิตกกังวลทั่วไป (GAD), โรควิตกกังวลทางสังคม, โรคตื่นตระหนก และโรคกลัวเฉพาะเรื่อง และคนที่เผชิญความวิตกกังวลทุกคนรู้ดีว่ามันส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพชีวิต ข่าวดีคือ ไม่ว่าความวิตกกังวลจะอยู่ในรูปแบบใดก็รักษาได้ทั้งนั้น วิธีการรักษาโรควิตกกังวลที่พบบ่อยที่สุดคือ การทำจิตบำบัด, เทคนิคการจัดการความเครียด, ยา และการออกกำลังกายแอโรบิก แต่ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว คุณอาจต้องผสมผสานเทคนิคต่างๆ เพื่อควบคุมอาการ
การอ่านหนังสือช่วยเหลือตัวเองเป็นวิธีที่ดีที่จะได้เรียนรู้เทคนิคใหม่ๆ หรือลองสิ่งที่ใช้ได้ผลดีกับคนอื่น หนังสือที่จะแนะนำต่อไปนี้เสนอวิธีการสร้างสรรค์ที่หลากหลายในการจัดการกับอาการวิตกกังวลจากมุมมองที่แตกต่างกัน จะมีเล่มไหนน่าสนใจบ้าง ไปดูกันเลย
หมายเหตุ: หนังสือบางเล่มเขียนโดยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต ขณะที่บางเล่มเขียนโดยผู้ที่ผ่านประสบการณ์และเอาชนะความวิตกกังวลได้ด้วยตัวเอง
1. At Last A Life
เมื่อคุณต้องเผชิญภาวะตื่นตระหนกและวิตกกังวลเรื้อรัง อาจรู้สึกเหมือนหมดอำนาจควบคุมชีวิต การมองอนาคตที่ปราศจากความวิตกกังวลอาจเป็นเรื่องยาก Paul David ผู้เขียน ใช้หนังสือเล่มนี้เล่าเรื่องราวการฟื้นตัวของเขา และปลุกความหวังให้ผู้อื่นว่าเป็นไปได้ที่จะเรียกคืนชีวิต หนังสือผสมผสานเรื่องราวส่วนตัวและงานวิจัยเกี่ยวกับความวิตกกังวลที่เขาศึกษามา
ข้อดี
- ประกอบด้วยเรื่องราวส่วนตัวและงานวิจัยที่ได้รับการสนับสนุนจากวิทยาศาสตร์
- มีความเห็นจากผู้อ่านจำนวนมากว่าหนังสือเล่มนี้เปลี่ยนชีวิตพวกเขา
ข้อด้อย
- ราคาแพง
2. Dare
Barry McDonagh ผู้เขียน ท้าทายให้ผู้อ่าน ‘กล้า’ เผชิญหน้ากับความวิตกกังวลให้ถึงที่สุด หนังสือเล่มนี้เน้นการเผชิญหน้าและท้าทายความคิดวิตกกังวล แทนที่จะปล่อยให้หมกมุ่นหรือพยายามเมินเฉย โดยเทคนิคของ McDonagh อิงตามหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และประสบการณ์ 10 ปีในการช่วยเหลือผู้คนที่มีความวิตกกังวล หนังสือเล่มนี้ให้แอปและหนังสือเสียงฟรีมาเป็นเครื่องช่วยผ่อนคลายและบรรเทาความวิตกกังวลด้วย
ข้อดี
- อิงตามหลักฐานทางวิทยาศาสตร์
- มาพร้อมแอปและหนังสือเสียงฟรี
ข้อด้อย
- ผู้เขียนรีวิวบอกว่า หนังสือนี้เป็นฉบับย่อของทฤษฎี CBT ไม่มีข้อมูลใหม่
3. Declutter Your Mind
หลายคนคงได้ยินมาว่า การจัดบ้านให้เป็นระเบียบมีประโยชน์แค่ไหน หนังสือเล่มนี้นำแนวคิดเดียวกันนี้มาใช้กับพื้นที่ในจิตใจด้วยหลักการที่ว่า ความคิดด้านลบและความวิตกกังวลเปลืองพื้นที่สมองอันมีค่า หนังสือนี้เขียนโดย Barrie Davenport และ S.J. Scott มุ่งสอนสมาธิจดจ่อโดยการปรับกรอบความคิดใหม่ให้มองโลกในแง่ดี ใช้เทคนิคที่ช่วยให้คุณอยู่กับปัจจุบันขณะและควบคุมกระบวนการคิดได้
ข้อดี
- เหมาะกับผู้ที่สนใจการฝึกสมาธิ
- อ่านจบไว
ข้อด้อย
- ผู้อ่านบางคนบอกว่า การเขียนไม่ค่อยดึงดูดความสนใจเท่าไร
4. Hardcore Self Help: F**k Anxiety
ถ้าคุณไม่โดนใจกับหนังสือแนวช่วยเหลือตนเองทั่วไป และอยากสบถคำบางคำใส่ความวิตกกังวลที่มันก่อกวนคุณ หนังสือเล่มนี้อาจเหมาะกับคุณ นี่คือปรัชญาของหนังสือเล่มนี้ ที่พยายามบอกว่าการอ่านหนังสือช่วยเหลือตนเองไม่ควรเป็นเรื่องน่าเบื่อ Robert Duff ผู้เขียน ได้พูดตรงๆ และใช้คำหยาบในการเขียนในบางครั้ง พร้อมกับเสริมอารมณ์ขันสอดแทรกข้อมูลและเคล็ดลับที่ลงมือทำได้จริง
ข้อดี
- เพลิดเพลินกับการอ่าน
- มีหนังสือภาคต่อเกี่ยวกับภาวะซึมเศร้า
ข้อด้อย
- เนื้อหาสั้น ไม่ลึกซึ้งมาก
5. The Anxiety and Phobia Workbook
การเผชิญหน้ากับความวิตกกังวลต้องใช้ความพยายาม หากไม่มีคำแนะนำที่ดี หลายคนอาจไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหน หนังสือเล่มนี้เป็นคู่มือทำงานตามชื่อนั้นเลย มันออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้อ่านได้เรียนรู้เครื่องมือและทักษะในการจัดการอาการวิตกกังวลได้อย่างมีประสิทธิภาพ นักกิจกรรมบำบัดสติปัญญาเป็นผู้เขียนคู่มือนี้ ซึ่งอิงตามงานวิจัยทางคลินิกล่าสุดเกี่ยวกับความวิตกกังวลและวิธีการบำบัด
ข้อดี
- เขียนโดยนักกิจกรรมบำบัดสติปัญญา
- พิมพ์ปรับปรุงในปี 2020 โฟกัสที่งานวิจัยล่าสุด
ข้อด้อย
- ราคาสูงกว่าหนังสือประเภทเดียวกัน
6. The Anti-Anxiety Food Solution
การกินอาหารไม่สมดุลไม่เพียงส่งผลต่อคอเลสเตอรอลและความดันโลหิต หนังสือเล่มนี้บอกว่า อาหารยังมีผลต่อสารเคมีในสมองและอารมณ์ด้วย หนังสือเล่มนี้ให้คำแนะนำวิธีรับสารอาหารให้มากขึ้น และลดความอยากอาหาร นอกจากนี้ยังมีเคล็ดลับการใช้ชีวิตเพื่อบรรเทาอาการวิตกกังวล และอาหารที่เรากินมีบทบาทต่ออาการเหล่านั้นอย่างไรด้วย
ข้อดี
- ให้คำแนะนำที่ลงมือทำได้จริงสำหรับไลฟ์สไตล์และอาหาร
- เขียนโดยพยาบาล
ข้อด้อย
- เป็นข้อมูลตามหลักสุขภาพทั่วไป
7. My Age of Anxiety
ความวิตกกังวลเป็นประสบการณ์ส่วนตัวอย่างมาก ผู้คนจำนวนมากประสบปัญหานี้ในรูปแบบที่แตกต่างกัน Scott Stossel ผู้เขียน ได้ถ่ายทอดประสบการณ์ความวิตกกังวลของตัวเองมาสำรวจประวัติศาสตร์ของโรคนี้ พร้อมทั้งนำความเห็นจากนักวิทยาศาสตร์ นักปรัชญา และนักเขียนคนอื่นๆ มาประกอบเป็นเนื้อหาด้วย นอกจากการได้ย้อนไปถึงการรักษาจำนวนมาก รวมถึงเรื่องบางอย่างที่แปลกประหลาดที่พัฒนาขึ้นเพื่อบรรเทาอาการวิตกกังวล หนังสือเล่มนี้ยังบอกเล่าเรื่องราวส่วนบุคคลของผู้ที่ประสบความสำเร็จในการควบคุมอาการของตนด้วย
ข้อดี
- แชร์เรื่องราวส่วนตัวด้วยน้ำเสียงที่ซื่อสัตย์และตรงไปตรงมา
- มีข้อมูลวิจัยที่ได้รับการสนับสนุนจากวิทยาศาสตร์
ข้อด้อย
- ผู้อ่านบางคนรีวิวหนังสือเล่มนี้ว่าเป็นแค่การ “ให้ความรู้ทางประวัติศาสตร์”
8. The Highly Sensitive Person
หากคนอื่นเคยบอกว่าคุณอ่อนไหวเกินไปหรือขี้อายเกินไป ตามคำอธิบายของ Elaine N. Aron นักจิตบำบัด คุณอาจเป็นบุคคลที่ไวต่อความรู้สึกก็ได้นะ หนังสือของ Aron ออกแบบมาเพื่อช่วยให้คุณเข้าใจลักษณะเหล่านี้ และปรับใช้ในชีวิตประจำวันและความสัมพันธ์ส่วนตัวให้ดีขึ้น นอกจากนี้ Aron เองก็ระบุตัวเองว่าเป็นบุคคลที่ไวต่อความรู้สึก มุมมองของนักเขียนจึงมาจากความเข้าใจอย่างถ่องแท้จากประสบการณ์ตรง
ข้อดี
- เขียนโดยนักจิตบำบัดที่ระบุตัวเองว่าเป็นบุคคลที่ไวต่อความรู้สึก
- ให้ข้อคิดที่นำไปปฏิบัติได้จริง
ข้อด้อย
- ขาดงานวิจัยสนับสนุน และข้อมูลอาจล้าสมัยไปหน่อย
9. From Panic to Power
อาการตื่นตระหนกอาจทำให้คุณรู้สึกหมดพลังและสิ้นหวัง ใน From Panic to Power ผู้เขียน Lucinda Bassett บอกเล่าประสบการณ์ส่วนตัวในการใช้เทคนิคต่างๆ เพื่อจัดการความวิตกกังวลและเรียกพลังในชีวิตกลับคืนมา เธอนำเสนอทักษะและวิธีต่างๆ ที่ช่วยให้คุณรับมือกับความคิดวิตกกังวลและการพูดกับตัวเองในแง่ลบได้
ข้อดี
- อ้างอิงจากประสบการณ์ตรงของผู้เขียน
- ขายได้กว่า 72,000 เล่ม จัดว่าเป็นหนังสือยอดนิยม
ข้อด้อย
- ผู้รีวิวรู้สึกว่า หนังสือไม่มีคำแนะนำและแหล่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากพอ
10. Hope and Help for Your Nerves
อาการทางกายที่เกิดจากความวิตกกังวลอาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับคนที่ไม่เคยประสบมาก่อน แต่สำหรับคนที่ต้องเผชิญความวิตกกังวลทุกวัน มันสร้างความแตกต่างอย่างมากต่อคุณภาพชีวิต Dr.Claire Weekes ผู้ล่วงลับ ได้ใช้ประสบการณ์หลายปีในการช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีความวิตกกังวลมาเขียนแนวทางทีละขั้นตอนในเล่มนี้ Hope and Help for Your Nerves สอนเทคนิคในการวิเคราะห์และทำความเข้าใจความวิตกกังวลของคุณเอง เพื่อมุ่งเน้นไปที่การจัดการและบรรเทาอาการ
ข้อดี
- แนะนำเทคนิคเพื่อช่วยลดความวิตกกังวล
- ครอบคลุมหลายสถานการณ์เฉพาะที่พบบ่อยในผู้ที่มีความวิตกกังวล
ข้อด้อย
- ข้อมูลและการวิจัยอาจล้าสมัย
11. When Panic Attacks
ความคิดวิตกกังวลชอบหลอกหลอนเราเหลือเกิน แม้จะไม่ตั้งอยู่บนความจริง แต่เวลาเผชิญมันกลับรู้สึกเหมือนเป็นเรื่องจริง หนังสือ When Panic Attacks เน้นช่วยให้ผู้อ่านจดจำและเผชิญหน้ากับความคิดวิตกกังวลได้ Dr.David Burns เป็นผู้สนับสนุนการรักษาความวิตกกังวลโดยไม่ใช้ยา เขาแชร์งานวิจัยล่าสุดเกี่ยวกับยารักษาความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้า รวมถึงเหตุผลที่เขารู้สึกว่า บางครั้งยาอาจสร้างอันตรายมากกว่าประโยชน์
ข้อดี
- ให้เทคนิค 40 ข้อที่มีประโยชน์ต่อการลดความวิตกกังวล
- มีแบบสำรวจและคำถามในสไตล์เวิร์กบุ๊ก
ข้อด้อย
- ข้อมูลอาจล้าสมัย
12. Panic Attacks Workbook
โรคตื่นตระหนกน่ากลัวมากหากคุณไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร แม้เมื่อคุณคุ้นเคยกับมันแล้ว มันก็ยังทำให้รู้สึกสิ้นหวังและไร้อำนาจ หนังสือ Panic Attacks Workbook ออกแบบมาเพื่อช่วยให้คุณเข้าใจโรคตื่นตระหนก และยับยั้งวงจรการตอบสนองที่ก่อให้เกิดอาการ โดยใช้แผนภูมิและใบงานเพื่อช่วยให้คุณฟื้นตัวขึ้นมาอย่างแท้จริง
ข้อดี
- อธิบายอย่างชัดเจนถึงกลไกการทำงานของโรคตื่นตระหนก
- ใช้ประโยชน์จากแผนภูมิและใบงาน
ข้อด้อย
- อาจใช้กับคนที่มีความวิตกกังวลทั่วไปไม่ได้
13. The Anxiety and Worry Workbook
ความคิดและพฤติกรรมบำบัด (CBT) ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า เป็นหนึ่งในการรักษาที่ได้ผลที่สุดสำหรับความวิตกกังวล Dr.Aaron T. Beck นักวิจัยทางคลินิก และ David A. Clark ผู้เชี่ยวชาญด้าน CBT ได้รวบรวมเทคนิค CBT ที่นักบำบัดใช้ไว้ในคู่มือเล่มนี้ โดยหนังสือเล่มนี้มีเทคนิคในการเข้าใจและจัดการความคิดและสิ่งกระตุ้นความวิตกกังวลได้ดีขึ้น
ข้อดี
- พัฒนาและทดสอบวิธีรักษามานานกว่า 25 ปี
- มีใบงานและแบบฝึกปฏิบัติ
ข้อด้อย
- การสลับไปมาระหว่างการเขียนหนังสือและข้อมูลอาจล้นจนเกินไป
เลือกอ่านหนังสืออย่างไรให้เหมาะกับตัวเอง?
เมื่อเลือกหนังสือช่วยเหลือตนเอง ให้จำไว้ว่าไม่มีหนังสือเล่มไหนที่เหมาะสมกับทุกคน ลองตั้งคำถามดังต่อไปนี้เพื่อช่วยในการตัดสินใจ
- หนังสือเล่มนี้เน้นปัญหาเฉพาะ (เช่น ความกังวล ความเครียด) หรือภาพรวมมากกว่า
- หนังสือเล่มนี้เน้นข้อมูลและความรู้ หรือเครื่องมือและกลยุทธ์ที่นำไปใช้ได้หรือไม่
- ผู้เขียนมีประสบการณ์และคุณสมบัติด้านการวิจัยและรักษามากน้อยแค่ไหน
- เนื้อหาสอดคล้องกับความเชื่อและมุมมองของคุณต่อการสร้างเสริมสุขภาพหรือไม่
- การเขียนและการนำเสนอน่าสนใจ อ่านเข้าใจง่ายพอสำหรับคุณหรือเปล่า
- ความยาวและรูปแบบเหมาะกับระยะเวลาและพลังงานที่คุณจะทุ่มเทให้ได้ไหม
การหาหนังสือที่ใช่อาจต้องลองผิดลองถูกบ้าง แต่การใส่ใจกับความต้องการและรูปแบบการเรียนรู้ของตัวเอง จะช่วยให้ค้นพบเพื่อนคู่คิดและเครื่องมือที่เหมาะสมในการจัดการกับความวิตกกังวลได้ในที่สุด
ภาพ: Courtesy of Brands
อ้างอิง: