อุณหภูมิเมืองไทยที่ยังร้อนระอุอย่างต่อเนื่อง ทำให้การออกกำลังกายในที่โล่งแจ้งอาจกลายเป็นวิธีที่น่าหวาดหวั่น เพราะมีหลายคนที่เสี่ยงต่ออาการวูบหรือหน้ามืดเพราะความร้อน หรือเสี่ยงต่อการเกิดอาการฮีตสโตรก
อย่างไรก็ตาม การออกกำลังกายก็ยังเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง หากผู้อ่านต้องการหลีกเลี่ยงความร้อนจากสภาพอากาศในช่วงนี้ แต่ยังต้องการออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงให้ร่างกายและจิตใจอยู่ LIFE ได้คัดสรร 10 ไอเดียการออกกำลังกายในร่มมาฝาก เพื่อเป็นหนึ่งในทางเลือกสำหรับกิจวัตรการออกกำลังกายให้ไม่เสี่ยงกับความเจ็บป่วยที่มาพร้อมกับอากาศร้อน ดังนี้
1. โยคะ (Yoga)
โยคะเป็นการออกกำลังกายในร่มที่ช่วยส่งเสริมความยืดหยุ่น ความแข็งแรง และฝึกสมาธิไปในตัว เราสามารถเข้าเรียนคลาสโยคะใกล้บ้านหรือออฟฟิศ หรือเข้าเรียนผ่านระบบออนไลน์ก็สะดวกเหมือนกัน แต่ถ้าคุณเล่นโยคะเป็นอยู่แล้ว เพียงแค่กางเสื่อโยคะ สวมเสื้อผ้าที่ใส่สบาย และหามุมสงบในบ้านที่มองเห็นวิวธรรมชาติ แล้วฝึกโยคะ ก็เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยม
2. การออกกำลังกายโดยใช้น้ำหนักของร่างกาย (Bodyweight Exercises)
การออกกำลังกายที่อาศัยน้ำหนักของร่างกาย โดยไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ เช่น วิดพื้น สควอต แทงก์ หรือแพลงก์ เป็นวิธีออกกำลังกายที่ง่าย สร้างความแข็งแรงให้ทุกส่วนของร่างกาย และสามารถทำได้จากทุกมุมสงบของบ้าน
3. กระโดดเชือก (Jump Rope)
การกระโดดเชือกเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมสูง เพราะใช้พื้นที่ไม่มากและสามารถเล่นได้ที่บ้าน การกระโดดเชือกเป็นการออกกำลังกายที่มีความเข้มข้นสูง จึงช่วยส่งเสริมสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดให้แข็งแรงขึ้นได้ นอกจากนี้ยังช่วยเสริมความว่องไว อีกทั้งยังเป็นกิจกรรมที่สนุกและเผาผลาญแคลอรีได้ดีสุดๆ
4. การเต้นออกกำลังกาย (Dance Workout)
การเต้นไม่เพียงแต่สนุกสนานและเพลิดเพลินเท่านั้น แต่ยังเป็นวิธีที่เวิร์กสุดๆ ในการฟิตร่างกาย ปัจจุบันมีวิดีโอออกกำลังกายด้วยการเต้นมากมาย ทั้งทางออนไลน์และคลาสเต้นต่างๆ ในฟิตเนส เช่น ซุมบ้า หรือฮิปฮอป การเต้นเป็นวิธีออกกำลังกายที่ไม่ต้องออกไปตากแดด แค่เต้นสวยๆ ในคลาสหรือที่บ้าน ก็ช่วยเบิร์นและฟิตหุ่นได้เป็นอย่างดี
5. ปั่นจักรยานในร่ม (Indoor Cycling)
หากคุณมีจักรยานออกกำลังกายที่บ้าน การปั่นจักรยานในร่มเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดีต่อการเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ คุณสามารถค้นหาคลาสปั่นจักรยานออนไลน์ได้มากมาย เพื่อช่วยเทรนคุณแบบส่วนตัว หรือจะแค่ปั่นจักรยานในบ้านเพื่อเน้นกระชับสัดส่วนก็เป็นไอเดียที่ดี
6. พิลาทิส (Pilates)
พิลาทิสเป็นการออกกำลังกายที่ฮิตมากในช่วงนี้ เป็นวิธีที่ใช้แรงกระแทกต่ำ แต่เน้นสร้างความแข็งแรงของแกนกลางลำตัว เพิ่มความยืดหยุ่นและฝึกสมาธิ เป็นการสร้างการรับรู้ของร่างกายที่สัมพันธ์กับจิตใจเช่นเดียวกับโยคะ
ปัจจุบันมีคลาสเรียนพิลาทิสออนไลน์มากมายที่ตอบสนองทุกระดับทักษะ และสามารถเลือกเรียนหรือฝึกเองได้ที่บ้าน หรือจะเข้าคลาสส่วนตัวก็เป็นทางเลือกที่ดี หากคุณเป็นมือใหม่ ควรมีผู้ฝึกสอนมืออาชีพคอยแนะนำอย่างถูกต้อง
7. ยกน้ำหนักดัมบ์เบลล์ (Dumbbell)
การยกน้ำหนักดีต่อสุขภาพโดยรวม จุดเด่นคือช่วยเพิ่มการเผาผลาญได้ดี ใครที่อยากเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ แนะนำให้เลือกยกน้ำหนัก จะเห็นผลดีมาก แต่ควรศึกษาท่าทางและเลือกใช้น้ำหนักที่เหมาะสม เพื่อลดอาการบาดเจ็บและไม่แบกน้ำหนักมากเกินไป
8. ออกกำลังกายแบบมีความเข้มข้นสูง (HIIT Workouts)
การออกกำลังกายแบบ High-Intensity Interval Training (HIIT) เป็นการผสมผสานระหว่างการออกกำลังกายอย่างหนักในช่วงเวลาสั้นๆ และช่วงพัก กับการออกกำลังกายที่มีความเข้มข้นต่ำ การออกกำลังกายเหล่านี้มักใช้เวลาน้อยกว่า 30 นาที และสามารถทำได้ง่ายๆ ที่บ้าน โดยมีหรือไม่มีอุปกรณ์ก็ได้ และสามารถเผาผลาญแคลอรีได้ดีมาก
9. การปีนผาในร่ม (Indoor Rock Climbing)
หากคุณมีสถานที่ปีนหน้าผาในร่มอยู่ใกล้ๆ บ้านหรือที่ทำงาน ก็เป็นการออกกำลังกายที่ไม่เหมือนใครและท้าทายดี การปีนหน้าผาจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกายส่วนบนและส่วนล่าง และได้ออกแรงแทบทุกส่วนของร่างกาย ผสานไปกับการฝึกสติและสร้างสมาธิได้ดีอีกวิธีหนึ่งเลยทีเดียว
10. ศิลปะการต่อสู้ (Martial Arts)
โรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้หลายแห่งมีคลาสเรียนออนไลน์ที่น่าสนุก สามารถเลือกวิธีออกกำลังกายแบบนี้ได้เลยหากคุณชอบการออกแรงและชอบความสนุก ไม่ว่าจะเป็นการชกมวย เทควันโด หรือคาราเต้ สามารถทำได้โดยใช้พื้นที่และอุปกรณ์น้อยมาก เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการออกกำลังกาย และช่วยคลายความเครียดได้ดี
ภาพ: Shutterstock / Absoluteboutiquefitness, Absolutecyclethailand, Smash Gym Thailand, Happygymbeyound.official, Curvebkk, Virgin Active Thailand, Thisisbebe / Instagram