×

สัมภาษณ์พิเศษ อียงจู ผู้กำกับ Seobok กับความลับเบื้องหลังการทำงาน และการมองหาความงดงามในชีวิต

07.04.2021
  • LOADING...
สัมภาษณ์พิเศษ อียงจู ผู้กำกับ Seobok กับความลับเบื้องหลังการทำงาน และการมองหาความงดงามในชีวิต

HIGHLIGHTS

6 mins. read
  • อียงจู ผู้กำกับที่ประสบความสำเร็จมาแล้วทั่วโลกจาก Possessed (2009) ภาพยนตร์ลึกลับสยองขวัญที่กระแสตอบรับยอดเยี่ยม, Architecture 101 (2012) ภาพยนตร์หนึ่งในดวงใจใครหลายคน และ Seobok (2021) ภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์ไซไฟเกี่ยวกับมนุษย์โคลน
  • ผมต้องลดน้ำหนักเพื่อให้เหมือนกับคนป่วยที่ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย และยังต้องถ่ายทอดอารมณ์สุดซับซ้อน จนผมคิดว่าตัวเองเป็นกีฮอนจริงๆ” – กงยู
  • “ผมเริ่มจากคีย์เวิร์ดเรื่องข้อจำกัดของมนุษย์ ความกลัวของมนุษย์ ผมเลยนึกถึงมนุษย์โคลนนิ่งที่เป็นอมตะคนแรกของโลก” – อียงจู

อียงจู ผู้กำกับภาพยนตร์ Seobok นั่งรออยู่แล้วในหน้าจอ เป็นการสัมภาษณ์ผ่านวิดีโอคอลที่ไม่ได้แตกต่างไปจากการสนทนาตรงหน้า เพราะอียงจูคุยสนุก มีวิธีตอบคำถามฉลาดๆ เข้าใจง่าย ซึ่งเป็นความสามารถในการเล่าเรื่องของเขาอยู่แล้ว

 

สำหรับใครที่ยังไม่รู้จัก อียงจู เราขอใช้พื้นที่เล่าถึงผู้กำกับคนนี้อย่างรวบรัด อียงจู เคยฝากผลงานที่ประสบความสำเร็จมาแล้วทั่วโลกจาก Architecture 101 (2012) ภาพยนตร์หนึ่งในดวงใจใครหลายคน และ Possessed (2009) ภาพยนตร์ลึกลับสยองขวัญที่กระแสตอบรับยอดเยี่ยม ที่น่าสนใจคือ อียงจูเป็นผู้กำกับที่เขียนบทเองในทุกผลงานของเขา

 

เช่นเดียวกับผลงานล่าสุด Seobok (2021) อียงจูเขียนบทและกำกับภาพยตร์เอง ฉีกแนวไปเป็นหนังบล็อกบัสเตอร์ไซไฟเกี่ยวกับมนุษย์โคลนที่เต็มไปด้วยฉากแอ็กชัน ไม่มีเลิฟไลน์ มีเพียงนักแสดงหลักกงยูและพัคโบกอมเป็นเดอะแบกหนังทั้งเรื่อง

 

Seobok เล่าเรื่องราวของ มินกีฮอน (กงยู) อดีตสายลับที่ใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวมีแต่ความทรงจำแสนโหดร้ายอยู่ในหัว จนกระทั่งเขาถูกอดีตหัวหน้ามอบหมายให้คุ้มกัน ซอบก (พัคโบกอม) มนุษย์โคลนตัวแรกของโลกไปยังที่ปลอดภัย แต่ทุกอย่างไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด เมื่อขบวนขนส่งถูกลอบโจมตี กีฮอนและซอบกหนีมาได้แต่ก็มีอันตรายรอพวกเขาอยู่ทุกหัวมุม ซอบกถูกตามล่า เพราะเขาคือมนุษย์อมตะคนเดียวที่กุมอนาคตของมนุษยชาติ

 

 

THE STANDARD POP กล่าวทักทายอียงจู เริ่มต้นบทสนทนาด้วยความชื่นชมที่มีต่อผลงานของเขาก่อนหน้า และความตื่นเต้นที่จะได้รับชม Seobok ที่เขาร่วมงานกับนักแสดงแถวหน้าของเกาหลี กงยูและพัคโบกอม

 

ธีมเรื่องมนุษย์โคลนคุณได้ไอเดียมาจากซอบกที่มีในประวัติศาสตร์จริง อยากรู้ว่าคุณได้ไอเดียนี้มาตั้งแต่ตอนไหน ย้อนเล่าให้ฟังหน่อย

“จำได้ว่านานแล้วนะครับ หลังจากฉาย Architecture 101 ในปี 2012 ผมก็เริ่มคิดว่าจะทำภาพยนตร์เรื่องต่อไป ตอนแรกผมยังไม่ได้คิดเรื่อง Seobok ทันทีนะครับ

“ช่วงเวลานั้นการวางแผนภาพยนตร์เรื่องต่อไปของผมมุ่งไปยังคำถามว่า ‘ขีดจำกัดของคนเราคืออะไร’ จากนั้นผมก็คิดไปหลายอย่าง คิดถึงความตาย มนุษย์อมตะ แล้วคิดถึงมนุษย์โคลนนิ่ง พัฒนาเรื่องไปจนนึกถึงจิ๋นซีฮ่องเต้ คิดไปถึงซอบกในท้ายที่สุด เพราะซอบกก็เป็นคนคุ้นเคยสำหรับคนเกาหลีด้วย พอได้ข้อสรุปแล้วจึงเริ่มทำการวางแผนในปี 2013 ครับ” 

 

การทำงานค่อนข้างใช้เวลาหลายปี ระหว่างทางเนื้อเรื่องเปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหน จากตอนแรก

“มีสิ่งที่เปลี่ยนแปลงนะครับ ผมจะเล่าให้ฟัง ที่จริงตอนแรกคนที่เป็นผู้ป่วยระยะสุดท้ายจะไม่ไช่มินกีฮอน (กงยู) ผมเซ็ตไว้ว่าจะเป็นลูกชายของเขา คุณพ่อทำงานเพื่อให้ลูกรอดชีวิต และมินกีฮอนจะมองซอบก (พัคโบกอม) เหมือนเป็นลูกชาย อันนี้คือแบบแรกที่ผมคิดเอาไว้ และพอประชุมกันแล้วก็ได้ข้อสรุปว่ายังไม่ดีพอ เราก็เลยแก้เรื่องให้มินกีฮอนเป็นผู้ป่วยระยะสุดท้ายเสียเอง และลดอายุของกีฮอนน้อยลง”

จริงๆ แล้วเรื่องของ Seobok ถ้าถอดเปลือกของแอ็กชันไซไฟออกไป ก็คือภาพยนตร์ความสัมพันธ์ของคนที่มีชีวิตแตกต่างกันและได้เรียนรู้กัน คุณบาลานซ์น้ำหนักของสองสิ่งนี้อย่างไร

“ไม่ได้ตั้งใจบาลานซ์นะครับ อย่างที่บอกว่าผมก็เริ่มจากมีคีย์เวิร์ดเรื่องข้อจำกัดของมนุษย์ ความกลัวของมนุษย์ นึกถึงมนุษย์โคลนนิ่ง และมนุษย์ที่เป็นอมตะคนแรกของโลก จากนั้นผมก็พยายามพัฒนาเรื่องราวของ Seobok ให้เป็นมนุษย์ที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อน หลังจากนั้นก็เพิ่มสถาบันวิจัย มีบริษัทมหาชนเพิ่มเข้ามา จนสร้างเรื่องเติมไปเรื่อยๆ

“สิ่งที่สำคัญที่สุดในภาพยนตร์เรื่องนี้คือ ในภาพยนตร์จะมีพระเอกสองคน มินกีฮอน พอได้เจอกับซอบก เขาจะกลายเป็นผู้ปกป้องและช่วยชีวิต ผมคิดว่าด้วยเรื่องความพิเศษของซอบกและปัจจัยแวดล้อมของภาพยนตร์ ฉากแอ็กชันและการเซ็ตอัพต่างๆ ทำให้มันกลายเป็นหนังบล็อกบัสเตอร์” 

 

 

ทราบว่าคุณไม่ต้องการให้ซอบกเป็นผู้หญิง เพราะไม่อยากให้กลายเป็นภาพยนตร์โรแมนติก สิ่งนี้เป็นไอเดียตั้งแต่เริ่มต้นเลยไหม

“ผมไม่สนใจเรื่องโรแมนติกเลยตั้งแต่แรกครับ เพราะความสัมพันธ์ของคนสองคน มินกีฮอนกับซอบก ผมถือว่าเป็นคีย์เวิร์ดที่สำคัญมาก ผมไม่อยากมีอย่างอื่นมาเกี่ยวข้อง อีกอย่างก็คือถ้ากงยูแสดงคู่กับซอบกที่เป็นผู้หญิง ผมเชื่อว่าผู้ชมต้องคาดหวังและคิดไปในทางโรแมนติก ทำให้ผมตัดสินใจเป็นนักแสดงนำชายสองคนตั้งแต่แรกครับ”

 

อะไรที่คุณมองเห็นในตัวพัคโบกอม และร่วมงานกับเขาในภาพยนตร์เรื่องนี้

“จริงๆ แล้วโบกอมฮอตมากครับ ตอนแคสติ้งผมดูแล้วโบกอมมีความเหมาะกับบทซอบก เพราะว่าสายตาของโบกอมใสมาก เป็นสายตาไร้เดียงสาเหมือนเด็ก และมีจุดที่มองเป็นตรงกันข้ามก็ได้

 

“ผมคิดว่าเขาเหมาะที่จะรับบทซอบก เพราะตอนผมเขียนบท ซอบกจะเป็นคนที่มีความนุ่มนวลอบอุ่น แต่บางทีก็เป็นคนน่ากลัว ผมมองหาคนแบบนี้อยู่ ตอนที่ได้เจอโบกอมก็รู้เลยว่าเป็นคนที่ตามหา และเขาจะช่วยภาพยนตร์เราได้ จึงติดต่อขอร่วมงานด้วย”

 

สำหรับกงยู ทราบมาว่าเขาต้องลดน้ำหนักสำหรับบทนี้ การทำงานกับกงยูเป็นอย่างไรบ้าง

“กงยูเป็นคนแรกที่ผมแคสต์ในบทมินกีฮอน ผมคิดมาตลอดว่าอยากร่วมงานกับกงยู เขาเหมาะกับบทนี้มาก ทั้งเรื่องอายุและความเหมาะสมหลายๆ อย่าง ผมส่งบทไปให้เขาอ่าน ซึ่งเขาก็ชอบครับ กงยูเป็นคนเสนอเองเลยว่าอยากให้ตัวละครผอมเพื่อให้เหมาะกับการเป็นผู้ป่วยระยะสุดท้าย ซึ่งผมก็เห็นด้วย

 

“แต่กงยูลดน้ำหนักเยอะกว่าที่ผมคิดไว้มาก ตอนที่เจอหน้าผมตกใจเลยครับ เขาเหมือนคนไม่สบายจริงๆ ระหว่างถ่ายภาพยนตร์ตลอด 6 เดือน กงยูเตรียมอกไก่มาทานที่กองถ่ายตลอดเลยครับ ผมชื่นชมการควบคุมน้ำหนักของเขามาก เป็นความรับผิดชอบและความตั้งใจ ทั้งเรื่องการแสดงเขาก็เป็นนักแสดงที่เก็บรายละเอียดได้ดีมากเลยครับ”

 

 

กงยูคือนักแสดงที่การันตีความสำเร็จอยู่สม่ำเสมอด้วยผลงานซีรีย์ยอดฮิต Guardian: The Lonely and Great God หรือ Goblin, ภาพยนตร์ K-Zombie ที่ประสบความสำเร็จทั่วโลก Train to Busan และล่าสุดกับโปรเจกต์แอ็กชัน-ไซไฟ บล็อกบัสเตอร์ Seobok มนุษย์อมตะ

 

“แค่ได้อ่านบทผมก็เห็นภาพแล้ว ผมว่ามันจะเป็นภาพยนตร์เรื่องพิเศษ มอบประสบการณ์ไม่เหมือนกับเรื่องไหน เพราะ Seobok มีแก่นเรื่องที่คมคาย นี่คือสิ่งที่โดนใจผม

 

“ผมต้องลดน้ำหนักเพื่อให้เหมือนกับคนป่วยที่ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย และยังต้องถ่ายทอดอารมณ์สุดซับซ้อน จนผมคิดว่าตัวเองเป็นกีฮอนจริงๆ ผมเต็มที่มากๆ เพราะทุกคนตั้งใจและพยายามมากกับโปรเจกต์นี้ พวกเขาทำให้ผมรู้สึกว่าผมจะทำให้ทุกคนผิดหวังไม่ได้” กงยูให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมตัวและการทำงาน

 

 

“งดงามจัง การใช้ชีวิต” ซอบกพูดไว้ในภาพยนตร์ สำหรับคุณสิ่งที่งดงามที่สุดของการใช้ชีวิตในปีที่ผ่านมาคืออะไร เพื่อว่าจะเป็นแรงใจให้ผู้คนที่ผ่านปียากๆ นี้

“ปีที่แล้วเป็นปีที่เหนื่อยมากเพราะโควิด-19 เลยครับ ยิ่งถ้าได้ดูภาพยนตร์จะเข้าใจความหมายของประโยคนี้นะครับ 

 

“ซึ่งบทประโยคนี้มีความหมายสองแบบ อีกแบบสำหรับตัวผมเอง เป็นความหมายที่กระตุ้นพลังในการทำภาพยนตร์ อาชีพของผมคือคิดและหาสิ่งที่มีความสวยงาม ผมมองว่าการใช้ชีวิตของคนเรานี่แหละที่งดงามที่สุด”

 

ภาพยนตร์เกาหลีมักสอดแทรกประเด็นความเป็นมนุษย์เอาไว้เสมอ อะไรคือเมสเสจของ Seobok ที่คุณอยากถ่ายทอดออกไป

“ประเด็นความเป็นมนุษย์อาจจะดูยิ่งใหญ่เกินไป เพราะจริงๆ แล้วผมเป็นคนเขียนบทและถ่ายทำภาพยนตร์เองครับ แต่สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับตัวผมคือการได้เยียวยาตัวเอง เพราะถ้าผมเข้าใจสิ่งนี้ดี ผมถึงจะเข้าใจและใกล้ชิดกับผู้ชมได้ด้วย 

 

“อย่างหนังเรื่องก่อนหน้านี้ Architecture 101 ค่อนข้างเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของผม ซึ่งเป็นเรื่องเล็กๆ แต่ตอนที่เขียนบท Seobok ผมมีความสงสัยเรื่องการใช้ชีวิตของตัวเอง สนใจว่าความเป็นจริงหรือธรรมชาติของโลกคืออะไร ซึ่งผมอยากให้คนดูเชื่อมโยงกับความคิดของผมได้ด้วย”

 

อยากให้คุณเล่าความประทับใจระหว่างการถ่ายทำให้ฟังหน่อย

“มีคนถามเรื่องนี้เยอะครับ แต่ไม่มีอะไรที่นึกออกตอนนี้ (หัวเราะ) ผมจำได้แค่ว่าช่วงถ่ายทำเรามีเวลาไม่พอตลอด ตอนทำภาพยนตร์ผมรู้สึกแบบนี้ทุกครั้งเลย ทั้งที่วางแผนไว้แล้ว แต่ไม่เคยทำได้อย่างที่คิดไว้ ถ้าทำตามแผนไม่ได้ก็ต้องเปลี่ยนแผนใหม่ แก้ไขปัญหา รวมถึงคิดวิธีการจัดตารางถ่ายทำทั้งกับทีมงาน ทีมนักแสดง 

 

“เหมือนผมถ่ายทำไปวางแผนไปตลอด ด้วยระยะเวลาที่ค่อนข้างนาน เพราะสเกลหนังที่ใหญ่กว่าเดิม ทำให้ส่วนตัวผมเองก็เหนื่อย แต่ก็ได้ประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่มากๆ ผมคงไม่มีอะไรพิเศษมาเล่าให้ฟัง แต่ด้วยกระบวนการทำหนังเรื่องนี้ทั้งหมดคือความประทับใจนะครับ ทั้งความผิดพลาดและการได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ”

 

 

คุณเป็นผู้กำกับที่เขียนบทเองด้วย อยากรู้ว่าช่วงเวลาไหนของ Seobok ที่คุณมีความสุขไปกับมันอย่างที่สุด

“เหมือนคำถามว่ารักแม่หรือรักพ่อมากกว่ากันเลยนะครับ (หัวเราะ) ตัวผมเองจะตื่นเต้นตอนเขียนบท แต่พอถึงเวลาที่ต้องเขียนบทไซไฟเหนือธรรมชาติขึ้นมาก็มีความกดดันมาก พอเขียนบท Seobok เสร็จเริ่มแคสติ้งนักแสดง ความตื่นเต้นก็กลับมาอีก

 

“แต่ช่วงระหว่างถ่ายทำผมก็อยากหนีไปให้ไกล (หัวเราะ) หลังถ่ายทำเสร็จ ช่วงโพสต์โปรดักชันเก็บงานต่างๆ ก็สนุก แต่พอถึงเวลาประชุมกับกระบวนการตัดต่อก็เหมือนตกนรก หมายความว่าบางอารมณ์ก็ตื่นเต้น แต่บางอารมณ์ก็ลำบากใจ สุดท้ายพอภาพยนตร์เสร็จแล้วผมก็ตื่นเต้นว่าจะได้พักผ่อนเสียที 

 

“พอมาเจอสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ภาพยนตร์เราไม่ได้เปิดตัว ผมก็เริ่มกลับมาเครียด แล้วยังมีแผนที่จะทำภาพยนตร์เรื่องต่อไปอีก ผมคิดว่าตอนนี้ล่ะครับที่ชีวิตผมคล้ายๆ กับชีวิตของมินกีฮอน”

FYI

สำหรับ Seobok มนุษย์อมตะ จะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ 15 เมษายน 2564 โดยมีรอบพิเศษตั้งแต่วันที่ 12 เมษายนเป็นต้นไป ผลงานกำกับโดยอียงจู ร่วมด้วยนักแสดงอย่าง กงยู, พัคโบกอม, จางยองนัม และโจอูจิน 

ตัวอย่างภาพยนตร์ Seobok: https://youtu.be/DLN_A2qHzuo

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising