บางคนรู้จักชื่อของ Laufey ในฐานะนักร้องดาวรุ่งเจ้าของรางวัล Grammy Awards สาขา Best Traditional Pop Vocal Album ในปีที่ผ่านมา หรือบางคนอาจจะรู้จักเธอจากผลงานสไตล์แจ๊สในเพลง Valentine หรือเพลงของคนแอบรักเพื่อนข้างเดียวอย่าง From The Start ซึ่งไม่ว่าเราจะรู้จักเธอจากอะไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่บ่งบอกได้ชัดเจนคือศิลปินหญิงเจ้าของน้ำเสียงแสนหวานคนนี้สร้างสปอตไลต์ให้กับตัวเองในโลกดนตรีได้สำเร็จแล้ว
Laufey (ออกเสียงว่า เลเวย์) มีชื่อเต็มๆ ว่า Laufey Lín Bing Jónsdóttir เธอเป็นศิลปินลูกครึ่งไอซ์แลนด์-จีน ที่แจ้งเกิดจากน้ำเสียงอันไพเราะและผลงานเพลงแจ๊ส-คลาสสิก ที่ผสมผสานกลิ่นอายบอสซาโนวาเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบ จนสื่อหลายแห่งยกให้เธอเป็นแจ๊สไอคอนของเหล่า Gen Z และสื่อระดับโลกอย่าง Rolling Stone ก็เคยพาดหัวข่าวว่า Laufey เป็นศิลปินหญิงที่นำพาเพลงโมเดิร์นแจ๊สเข้าสู่เมนสตรีมด้วยเช่นเดียวกัน
ต้องย้อนกลับไปว่ากว่าเธอจะมาเป็นศิลปินดาวรุ่งอย่างทุกวันนี้ สาวน้อย Laufey เติบโตมาในครอบครัวที่เต็มไปด้วยนักดนตรี คุณตาและคุณแม่ก็เป็นทั้งครูและนักไวโอลินมืออาชีพ เช่นเดียวกันกับฝาแฝดของเธอชื่อ Junia ก็เป็นนักดนตรี ที่ในตอนนี้ก็เป็นครีเอทีฟไดเรกเตอร์ให้กับโชว์ของเธอด้วย ดังนั้นการที่เธอจะมีความรักต่อดนตรีนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกเลย เพราะสิ่งแวดล้อมรอบตัวหล่อหลอมมานั่นเอง
เธอเริ่มเล่นดนตรีตั้งแต่วัยเด็กจนมีโอกาสไปร่วมเล่นเชลโลให้กับ Iceland Symphony Orchestra ในวัยเพียง 15 ปี ก่อนที่จะไปแข่งรายการ Ísland Got Talent จนได้เข้ารอบสุดท้าย และในปีต่อมาเธอก็ไปรายการ The Voice Iceland และได้รองชนะเลิศ จนมาถึงปี 2022 เธอเริ่มเป็นที่รู้จักในระดับสากลจากการทำอัลบั้ม Everything I Know About Love และในที่สุดอัลบั้ม Bewitched ที่ปล่อยมาในปี 2023 ก็ทำให้เธอคว้ารางวัล Grammy Awards ตัวแรกในชีวิต จนถึงเวลานี้ Laufey กลายเป็นศิลปินที่มีผู้ฟังมากกว่า 13.4 ล้านคนบน Spotify และเพลงรักข้างเดียวยอดฮิตอย่าง From The Start ก็มียอดสตรีมสูงถึง 410 ล้านครั้งไปเรียบร้อยแล้ว
Laufey ยังเคยร่วมงานกับ Celine Song ผู้กำกับหญิงมือทองจากเรื่อง Past Lives ในมิวสิกวิดีโอเพลง Goddess ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นส่วนผสมที่ลงตัวมาก เพราะทั้งดนตรี น้ำเสียง ลุคความงามแบบเทพีในมิวสิกวิดีโอ ตลอดจนมุมมองภาพที่ถ่ายทอดผ่านสายตาของผู้กำกับมากความสามารถคนนี้ ก็ทำให้ผลงานนี้งดงามราวกับฉากหนังเรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้
เอกลักษณ์ที่เด่นชัดในเพลงของ Laufey คือการใช้น้ำเสียงแบบนักร้องแจ๊สยุคเก่า ซึ่งเธอได้รับอิทธิพลมาจากศิลปินในดวงใจสองคน นั่นก็คือนักร้องแจ๊สระดับตำนาน Ella Fitzgerald และศิลปินอย่าง Chet Baker ส่วนดนตรีหลักๆ จะเป็นแจ๊ส บัลลาด เครื่องดนตรีคลาสสิก พร้อมผสมผสานความป๊อปฟังสบายเข้าไปให้ผลงานมีความร่วมสมัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งเธอก็มองว่ายุคนี้เป็นช่วงเวลาอันเหมาะสมแล้วที่เธอจะได้เป็นนักดนตรี เพราะผู้ฟังยุคนี้เปิดกว้างมาก พวกเขาพร้อมฟังเพลงทุกแบบ และมันคงไม่ใช่เรื่องของแนวดนตรีแล้ว แต่มันเป็นเรื่องของอารมณ์ความรู้สึกมากกว่า
และครั้งหนึ่งนักดนตรีชาวแคนาดาอย่าง Tom Power ผู้เป็นโฮสต์รายการพอดแคสต์ ถามว่าเธออยากทำให้ดนตรีของเธอมีกลิ่นอายเก่าๆ หรือเปล่า? เธอก็ตอบคำถามนี้อย่างน่าสนใจว่า “Old Music? No, Timeless Music? Yes” ซึ่งก็ดูเหมือนว่าจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ เพราะถ้าหากไล่ฟังเพลงของ Laufey ในแต่ละอัลบั้ม ทุกแทร็กล้วนผ่านการร้อยเรียงออกมาให้สามารถฟังได้ตลอด และไม่ว่าจะหยิบมาฟังเมื่อไรก็จะรู้สึกถึงความโรแมนติกในทุกๆ รายละเอียดด้วย
นอกจากผลงานเพลงที่จับใจผู้ฟัง อีกหนึ่งเรื่องที่ต้องหยิบยกมาพูดถึงคือแฟชั่นของเธอ เพราะนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่ทำให้แฟนเพลงตกหลุมรักจนถึงขั้นมีคำว่า Laufeycore (สไตล์ของ Laufey) เพราะลุคต่างๆ ของเธอมักจะมาพร้อมกับผ้าลูกไม้ เนื้อผ้าสีสันพาสเทล กิมมิกโบเล็กๆ ตามเทรนด์ Coquette หรือเน้นความแวววาวระยิบระยับ ซึ่งแม้ว่าจะดูเรียบง่าย แต่มันกลับช่วยเติมเต็มการแสดงบนเวทีให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น จนเหมือนกับว่าเธอเป็นเจ้าหญิงในเทพนิยายสุดโรแมนติกด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตอนนี้เธอจะประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก แต่เธอก็เคยยอมรับว่ากว่าจะมาถึงจุดนี้นั้นไม่ง่าย เพราะตอนที่เธอเป็นเด็ก เธอรู้สึกเหมือนเป็นตัวตลกในคณะละครสัตว์ เนื่องจากเธอมีเสียงต่ำที่ไม่เหมือนคนอื่น แล้วก็ไม่ค่อยมีนักดนตรีเอเชียมากนักในตอนนั้น แต่ตอนนี้ที่เธอทำอัลบั้ม Everything I Know About Love เธอก็อยากให้มันเป็นจดหมายถึงตัวเองในวัย 13 ปี ที่แม้ว่าในตอนนั้นเธอจะคิดว่าเธอไม่เจ๋ง ไม่สวย หรือความฝันการเป็นศิลปินไม่มีวันเป็นจริง แต่ตอนนี้มันเกิดขึ้นแล้ว และเธอก็อยากจะให้แฟนๆ รุ่นเยาว์ที่ติดตามเธออยู่มีความฝันต่อไป และเธอก็จะเป็นกำลังใจให้พวกเขาด้วย
“ในฐานะที่ฉันเป็นนักดนตรี เป้าหมายของฉันคือการนำพาดนตรีแจ๊สและคลาสสิกมาสู่ผู้ฟังรุ่นฉันในหนทางที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น” นั่นคือสิ่งแรกที่เธอระบุไว้ในเว็บไซต์ของตัวเอง ซึ่งจนถึงเวลานี้ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเธอทำมันสำเร็จแล้ว เพราะเธอกลายเป็นแรงบันดาลใจให้แฟนๆ มากมายทั่วโลก และยังเป็นศิลปินที่ถางทางให้กับศิลปินแจ๊สรุ่นใหม่ซึ่งกำลังเติบโตในยุคนี้ด้วยเช่นเดียวกัน
ส่วนใครที่อยากฟังเสียงนุ่มลึกหวานหูของ Laufey เร็วๆ นี้เธอจะมาเยือนเมืองไทยเป็นครั้งแรกกับเทศกาลดนตรี Summer Sonic Bangkok ในวันที่ 23-24 สิงหาคม 2024 ใครที่อยากไปสัมผัสความโรแมนติกในน้ำเสียงและดนตรีของเธอสักครั้งต้องไม่พลาด
ภาพ: Courtesy of Laufey
อ้างอิง:
