×

SCB แต่งตั้ง ‘ลลิตภัทร ธรณวิกรัย’ นำทัพบริหารธุรกิจ Private Banking

10.03.2022
  • LOADING...
ลลิตภัทร ธรณวิกรัย

ธนาคารไทยพาณิชย์ประกาศแต่งตั้ง ลลิตภัทร ธรณวิกรัย ดำรงตำแหน่งรองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Private Banking เพื่อนำทีมสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจบริหารความมั่งคั่งให้กับลูกค้าบุคคลที่มีความมั่งคั่งระดับสูงในประเทศไทย   

 

อาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในการประกาศแต่งตั้ง ลลิตภัทร ธรณวิกรัย ดำรงตำแหน่งรองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Private Banking ธนาคารไทยพาณิชย์ ควบคู่กับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด เพื่อนำทีมสร้างการเติบโตในธุรกิจบริหารความมั่งคั่งระดับสูงให้กับลูกค้าในประเทศไทย

 

โดยลลิตภัทรถือเป็นบุคคลหนี่งในแวดวงการเงินการธนาคารที่มีประสบการณ์สูงในเรื่องของ Private Banking เป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญและความรู้ด้านการเงินการลงทุนที่รอบด้าน คร่ำหวอดในแวดวงธุรกิจบริหารความมั่งคั่งเป็นอย่างดี ด้วยประสบการณ์การทำงานกับธนาคารต่างชาติ และที่ธนาคารไทยพาณิชย์กว่า 20 ปี จนเป็นที่ยอมรับในกลุ่มลูกค้าที่มีความมั่งคั่งระดับสูงในประเทศไทย จึงเชื่อมั่นว่าจะนำเอาความรู้ ความเข้าใจ และความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนทั้งในและต่างประเทศมาช่วยในการสานต่อแผนยุทธศาสตร์และสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจ Private Banking ให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างแข็งแกร่งและเป็นที่หนึ่งในใจลูกค้าได้อย่างยั่งยืน

 

ด้านลลิตภัทรกล่าวว่า พร้อมที่จะช่วยขับเคลื่อนธุรกิจบริหารความมั่งคั่งให้กับลูกค้าระดับสูงของประเทศไทย ผ่านธุรกิจ Private Banking ให้เติบโตไปพร้อมกับความมั่งคั่งของลูกค้าอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ปี โดยธุรกิจ Private Banking รับบริหารสินทรัพย์เพื่อการลงทุนตั้งแต่ 50 ล้านบาทขึ้นไป (High Net Worth Individuals) ส่วนไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ รับบริหารสินทรัพย์ตั้งแต่ 100 ล้านบาทขึ้นไป (Ultra High Net Worth Individuals) เพื่อเป็นการต่อยอดบริหารความมั่งคั่งให้กับลูกค้าที่สนใจลงทุนในต่างประเทศทั้ง 100% โดยหัวใจสำคัญในการบริหารความมั่งคั่ง คือ ต้องเข้าใจลูกค้า เข้าใจตลาดการลงทุน คัดสรรผลิตภัณฑ์และโซลูชันด้านการลงทุนทั้งในและต่างประเทศให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ในทุกช่วงเวลา เพื่อให้เงินลงทุนของลูกค้างอกเงยขึ้นเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการ 

        

ทั้งนี้ SCB  Private Banking ยังคงยึด 3 แกนหลักที่เป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ  ได้แก่   

  1. การพัฒนาด้าน Wealth Preservation โดยยกระดับคุณภาพของทีมที่ปรึกษาด้านการบริหารความมั่งคั่งส่วนบุคคล (RM) ให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจ ความต้องการของลูกค้าด้านการลงทุนอย่างแท้จริง    

 

  1. การพัฒนาด้าน Wealth Creation บริการที่ปรึกษาด้านการเงินการลงทุนทั้งในส่วนบุคคลและธุรกิจของลูกค้าแบบครบวงจร มีการลงทุนแบบ Open Architecture Platform ที่สามารถเข้าถึงการลงทุนทั้งในและต่างประเทศในหลากหลายสินทรัพย์มากที่สุดในประเทศ 

 

  1. เสริมศักยภาพด้าน SCB Financial Business Group ให้เต็มรูปแบบมากยิ่งขึ้น จากความแข็งแกร่งของกลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์ที่ครบเครื่องทั้งด้านความรู้ ความชำนาญ และสินทรัพย์ที่ครบวงจร สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า ครอบคลุมทั้งเรื่องธุรกิจและการลงทุน โดยการผนึกกำลังทุกช่องทางของ SCB Group นับเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญในการเสริมศักยภาพของ SCB Private Banking
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising