×

Lalamove ระดมทุนเพิ่ม 100 ล้านเหรียญฯ เข้าใกล้ระดับ ‘ยูนิคอร์น’ หวังรุกหนักตลาดอาเซียน

โดย
11.10.2017
  • LOADING...

     Lalamove สตาร์ทอัพบริการขนส่งสินค้าจากฮ่องกงระดมทุนได้เพิ่มอีก 100 ล้านเหรียญสหรัฐ เตรียมขยับเข้าใกล้การเป็นยูนิคอร์นสตาร์ทอัพ (ได้รับการประเมินมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐหรือราว 33,200 ล้านบาท)

     เมื่อวานนี้ (10 ตุลาคม 2017) เว็บไซต์ Forbes และ TechCrunch รายงานตรงกันว่า Lalamove ได้รับการระดมทุนในครั้งล่าสุดนี้ถึง 100 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 3,320 ล้านบาทจากสถาบันการลงทุน ShunWei Capital ซึ่งมีนาย Lei Jun ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท Xiaomi เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง

     ช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา พวกเขาได้รับการระดมทุนด้วยเงินจำนวนกว่า 30 ล้านเหรียญสหรัฐไปแล้วครั้งหนึ่ง ส่วนในครั้งนี้เชื่อกันว่าเงินจำนวนดังกล่าวจะถูกใช้ไปกับการขยายขนาดขององค์กร โดยจะเพิ่มการว่าจ้างงานบุคลากรในบริษัทของพวกเขาที่ฮ่องกงจำนวน 200 คน และตั้งเป้าขยายขอบเขตการให้บริการจากเดิม 110 เมืองเป็น 200-250 เมือง

     อย่างไรก็ดี Blake Larson ผู้บริหารบริษัท Lalamove สัญชาติอเมริกันกล่าวว่า พวกเขาไม่ได้รู้สึกยินดียินร้ายกับการเข้าใกล้การเป็นยูนิคอร์นสตาร์ทอัพแต่อย่างใด ทั้งยังกล่าวติดตลกอีกด้วยว่า “เมื่อใดที่คุณต้องการเงิน ไม่มีใครยื่นมันให้คุณหรอก แต่เมื่อไหร่ที่คุณไม่ต้องการมันคุณจะได้รับข้อเสนอเอง”

     ทั้งนี้ Lalamove จะให้ความสำคัญในการเจาะตลาดอาเซียนในกลุ่มประเทศเดิมๆ เช่น มาเลเซีย, อินโดนีเซีย และไทยให้มากขึ้นกว่าแต่ก่อน แทนที่จะเป็นการเปิดตลาดในประเทศและทวีปใหม่ๆ เหมือนที่สตาร์ทอัพคู่แข่งจากประเทศเดียวกันอย่าง GoGoVan เลือกทำเมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา

     ทุกวันนี้ Lalamove มีจำนวนคนขับพาหนะส่งสินค้าราว 2 ล้านคนในพื้นที่ให้บริการตามเมืองหลักๆ จำนวน 50 แห่งในจีน และอีก 6 เมืองในประเทศกลุ่มอาเซียน ซึ่งในจำนวน 97% ของผู้ใช้บริการส่วนใหญ่ของพวกเขาเป็นผู้ประกอบการในกลุ่มธุรกิจ SME

     ปัจจุบันตลาดธุรกิจโลจิสติกส์ในประเทศจีนนับว่ามีมูลค่าสูงมาก โดยจากการประเมินมูลค่าเบื้องต้นโดยนาย Shing Chow ผู้บริหารสูงสุดและผู้ร่วมก่อตั้ง Lalamove เจ้าตัวเชื่อว่าตลาดนี้น่าจะมีมูลค่าเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 1.7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐต่อปี สืบเนื่องมาจากความเฟื่องฟูของตลาดอีคอมเมิร์ซภายในประเทศ

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising