สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ เผยแพร่บทความจากแพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉิน เตือนพ่อแม่ผู้ปกครอง รวมถึงผู้ที่จัดกิจกรรมวันเด็กถึงภาวะแพ้แป้งสาลี ซึ่งเป็นส่วนผสมสำคัญในขนมขบเคี้ยว และภาวะพร่องเอนไซม์ G6PD ในเด็ก ทำให้เกิดอาการเม็ดเลือดแดงแตกเมื่อรับประทานถั่วปากอ้า
พญ.ณิชยา วัฒนกำธรกุล แพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉิน ให้ข้อมูลว่า ในเด็กบางคนจะมีภาวะแพ้อาหารบางชนิด โดยพบว่ามีจำนวนไม่น้อยที่แพ้แป้งสาลี ซึ่งเป็นส่วนผสมสำคัญในขนมขบเคี้ยวที่นิยมแจกในงานวันเด็ก หากเด็กที่แพ้แป้งสาลีรับประทานขนมพวกนี้ก็จะมีอาการแพ้ โดยจะมีผื่นลมพิษขึ้นตามตัว ตัวแดง ตาบวม ปากบวม ในรายที่รุนแรงก็จะมีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก
นอกจากนี้อีกกลุ่มอาการหนึ่งซึ่งพบได้ในเด็กคือภาวะพร่องเอนไซม์ G6PD เด็กกลุ่มนี้เมื่อกินอาหารหรือยาต้องห้ามจะทำให้เกิดภาวะเม็ดเลือดแดงแตก และอาจรุนแรงถึงแก่ชีวิตได้ อาหารที่ต้องห้ามหลักๆ คือถั่วปากอ้า โดยอาการที่เกิดขึ้นเมื่อรับประทานเข้าไปคือปัสสาวะเป็นสีน้ำตาลเข้ม ตัวจะเหลืองซีด ตาเหลือง เหนื่อย ซึ่งอาจรุนแรงจนเป็นอันตรายถึงชีวิต
“ทั้งนี้โดยปกติแล้วเด็กอาจจะไม่สามารถบอกได้ว่าตนเองนั้นแพ้อะไร ทางที่ดีคือพ่อแม่ผู้ปกครองที่พาลูกไปงานวันเด็กควรมีการติดป้ายที่เสื้อเด็กว่าเด็กคนนี้แพ้อาหารอะไร ทำให้ผู้จัดงานสามารถสังเกตได้ก่อนแจกขนมให้เด็กรับประทาน” พญ.ณิชยา กล่าว
ทั้งนี้ หากใครที่พบเด็กที่มีภาวะเจ็บป่วยฉุกเฉิน สามารถโทรแจ้งหน่วยกู้ชีพได้ที่สายด่วน 1669 ตลอด 24 ชั่วโมง
