อาหารจำพวกเส้นอยู่คู่กับสังคมมนุษย์มาช้านาน แต่ละชาติแต่ละประเทศต่าง ‘มีเส้น’ เป็นของตัวเอง ซ้ำยังแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการกินเส้น ถ่ายทอดเส้นของเราให้เขา ขณะเดียวกันก็นำมาประยุกต์ให้เป็นเส้นเอกลักษณ์ของตน เช่นเดียวกับสังคมไทยที่รับวัฒนธรรมการกินเส้นจากหลายชาติ แต่ที่เห็นได้ชัดและถูกปากคนไทยจำนวนมากก็คืออาหารจานเส้นแบบจีน ซึ่งแตกแขนงความอร่อยไปอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ผัดซีอิ๊ว ราดหน้า คั่ว ผัดขี้เมา และอีกสารพัดเมนูโปรด
ด้วยความ ‘กินเส้น’ ของเพื่อนสนิท 3 คน ฟ่ง-วรุน พัฒนาปัญญาสัตย์, หม่ง-ธีรพัฒน์ นิยมเจริญเพียร และ เอก-เอกวิทย์ อินทิราวรนนท์ ผู้คลุกคลีกับเมนูเส้นกันแต่เด็ก ครั้งจะนัดเจอกันที่บ้านใครทีไร ก็ต้องเป็นหน้าที่ของ หม่ง เชฟประจำกลุ่ม เป็นผู้จัดเตรียมอาหารการกินให้ทุกคนได้อิ่มหนำสำราญกันร่ำไป แถมเมนูคั่วไก่ก็เป็นจานเด็ดที่เขาชอบทำและทำได้ดีเสียด้วย ดีจนคนรอบตัวพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ไปเปิดร้านขายเถอะ” เวลาผ่านไปเนิ่นนาน จนในที่สุดเพื่อนๆ ทนเก็บความอร่อยคนเดียวไว้ไม่ไหว จึงร่วมใจกันเปิดร้านขายคั่วไก่สูตรคุณหม่งขึ้นมา จึงเปิดเป็นร้าน Kua (คั่ว)
บรรยากาศเรียบง่าย สบายๆ
The Vibe
Kua ซ่อนตัวอยู่ในตึกแถวเล็กๆ ถัดจากหัวมุมเลี้ยวแยกตรอกจันทร์ โดยปรับปรุงจากตึกเก่าอายุหลายสิบปี ปรับให้มีความโมเดิร์นมากขึ้น เพิ่มกลิ่นอายตะวันออกตั้งแต่เดินเข้าร้าน โดยมีเคาน์เตอร์หินขัด ผนังด้านหลังห้อยตู้เก็บของสี่เหลี่ยมหลายช่องเหมือนร้านขายยาจีน ที่นั่งก็จัดเป็นโต๊ะเก้าอี้ไม้ แลดูคลาสสิกแบบสตรีทโดยไม่ต้องจงใจแต่งเพิ่ม ส่วนต่อขยายร้านเล็กๆ ทางซ้าย ผลักประตูออกไปก็เป็นที่นั่งเอาต์ดอร์ เผื่อใครอยากได้บรรยากาศสตรีทจริงๆ ทั้งอาหารและอากาศ
ชั้นสองคือห้องนั่งกินข้าวที่มีโต๊ะเก้าอี้เยอะกว่าชั้นล่าง พื้นไม้ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดทุกครั้งที่มีความเคลื่อนไหว เพดานเปิดโล่ง ให้ความรู้สึกสบาย ไม่แออัด แทบจะไม่รู้สึกเลยว่ากำลังนั่งกินข้าวบนตึกแถว
บรรยากาศภายในร้าน
จะด้วยพรหมลิขิตหรือความบังเอิญคงไม่มีใครรู้ เพราะที่ตึกแถวห้องนี้เมื่อ 30 กว่าปีที่แล้วก็เคยเป็นร้านคั่วไก่มาก่อน ไม่มีหุ้นส่วนคนไหนรู้เลย จนกระทั่งหลังจากเปิดร้านวันแรกได้ไม่นาน ก็มีคนเก่าคนแก่แถวนี้โทรมาถามว่าร้านคั่วไก่ที่ขายเมื่อ 30 กว่าปีก่อนกลับมาเปิดอีกรอบแล้วหรือไร
เกาเหลาคั่วไข่ปลาหมึก และคะน้าฮ่องกงเจี๋ยนน้ำมันหอย
The Concept
แม้ว่าคั่วไก่สูตรคุณหม่งคือไอเดียหลักที่ทำให้มาเปิดร้านอาหาร แต่หากจะขายแค่คั่วไก่อย่างเดียวก็ดูไม่ค่อยมีอะไรเท่าไร ด้วยเหตุนี้คอนเซปต์อาหารที่ Kua จึงเป็นไปตามชื่อร้าน นำการคั่วมาสร้างสรรค์อาหารทุกอย่าง และยังเปิดมิติใหม่ของอาหารคั่วที่ไม่ได้เป็นแค่กับข้าวหรือคั่วเส้นอย่างเดียวอีกต่อไป เพราะเด่นด้วยศิลปะแห่งการใช้ไฟและเตาถ่านที่ไม่แพ้ที่ใด
หม่งเล่าถึงจุดเด่นของการคั่วว่า ต้องใช้เตาถ่าน สมัยนี้ร้านอาหารส่วนใหญ่ไม่มีใครใช้กันแล้ว เพราะเสียเวลา แต่การคั่วด้วยเตาถ่านและไฟแรงจะทำให้เส้นหอมกลิ่นไหม้ เก็บความร้อนได้ดี แม้จะต้องแลกกับการรอคิวอาหารที่นานขึ้น แต่ถือว่าคุ้มค่าต่อการรอคอยอย่างแน่นอน และใช้น้ำมันหมูในการคั่ว ซึ่งเป็นน้ำมันที่ทางร้านเจียวเองทุกวัน ใช้แต่ของใหม่ไม่เก็บค้างคืน กากหมูที่เหลือจากการเจียวน้ำมันหมูก็จะเอาไว้โรยหน้าก๋วยเตี๋ยวคั่วอีกทีหนึ่ง เนื้อสัตว์ที่ใส่ก๋วยเตี๋ยวคั่วก็ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นแค่ไก่หรือปลาหมึกกรอบเท่านั้น ทางร้านมีตัวเลือกเนื้อสัตว์และซีฟู้ดหลายอย่างให้ท็อปอัพได้ตามใจชอบ การปรุงรสก็ใช้แค่ซีอิ๊วขาวเท่านั้น หากต้องการรสหวานหรือเผ็ดเพิ่มเติม ก็เป็นหน้าที่ลูกค้าที่จะใส่พริกเติมน้ำตาลกันเอาเอง
เลือกจานคั่วแบบไหนดีล่ะ
The Dishes
เมนูของ Kua เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน มีของกินเล่นนิดหน่อย จานคั่ว แล้วตามด้วยเครื่องดื่ม ซึ่งไฮไลต์ก็คือจานคั่ว จะมีให้เลือก 3 ประเภท ระหว่างเส้นใหญ่ ข้าว และเกาเหลา
เส้นใหญ่ใช้แป้งข้าวเจ้าล้วน สั่งมาจากโรงงานเก่าแก่ย่านเยาวราช รับประกันความนุ่มและหอมเมื่อผัดด้วยเตาถ่าน มีให้เลือกวิธีการคั่วระหว่างคั่วกับคั่วอบ คั่วปกติจะเป็นการคั่วไข่กับเส้น คลุกเคล้าให้สุกพร้อมกัน ส่วนคั่วอบจะมีความพิเศษคือ ผัดให้เส้นกรอบ ตอกไข่ แล้วปิดฝาอบต่ออีก 10 วินาที แล้วค่อยคลุกไข่แดงให้เข้ากันกับเส้นก่อนรับประทาน
ซาลาเปาไข่เค็มลาวา และเส้นใหญ่คั่วอบกุ้ง
ข้าวคั่วพริกเกลือ เมนูพิเศษที่ต่อยอดมาจากคั่วพริกเกลือที่เป็นกับข้าว โดยมีการปรับสูตรให้ผัดข้าวแล้วรสชาติดีขึ้น และสุดท้าย เกาเหลาคั่ว สำหรับคนไม่กินเส้น เหมือนก๋วยเตี๋ยวคั่วทุกอย่างยกเว้นไม่ใส่เส้นอย่างเดียว
อาหารจานหลักทุกจานมาพร้อมซุปมะนาวดองรสชาติกลมกล่อม ต้มโครงไก่ด้วยไฟแรง เติมรสด้วยมะนาวดอง พริก กระเทียม แล้วกรองให้เหลือเฉพาะตัวน้ำซุปก่อนที่จะตักเสิร์ฟใส่ถ้วย แถมยังเติมซุปได้ไม่อั้นอีกด้วย
(บน) ฟองเต้าหู้ไส้กุ้งทอด, (ล่าง) ซาลาเปาไว้ครีมมินิ และไส้ไข่เค็มลาวา
ระหว่างที่รอคั่วไก่มาเสิร์ฟ แนะให้สั่งของกินเล่นเล็กๆ น้อยๆ มารองท้องฆ่าเวลาเผื่อหิว หากมาหลายคนแนะนำจิ้มไปอย่างละหนึ่งโลด โดยมีตั้งแต่ ฟองเต้าหู้ไส้กุ้งทอด (129 บาท) สัมผัสเหนียวนุ่มหนึบหนับ กินกับน้ำจิ้มหวานชิ้นเดียวไม่พอ ต่อด้วย ถุงทอง (89 บาท) ที่ทอดจนแป้งบางกรอบไร้ที่ติ สอดไส้กุ้งเนื้อเด้งกินเพลิน ใครติดกินแป้งต้องสั่ง ซาลาเปาไส้ครีมมินิ (69 บาท) มาแบบลูกเล็กพอดีคำ กินแล้วยังเหลือพื้นที่กระเพาะไว้ต่อคั่วไก่อย่างแน่นอน หรือจะเป็น ซาลาเปาไข่เค็มลาวา (39 บาท) รสชาติเข้มข้น แป้งนุ่มเบากำลังดี ไม่หนักท้องจนเกินไป หมั่นโถว (29 บาท) แป้งทอดกรอบนอกนุ่มใน จิ้มกินกับนมข้น
ในที่สุดสิ่งที่เราตั้งหน้าตั้งตารอก็พร้อมเสิร์ฟ คั่วไก่ (89 บาท) ก๋วยเตี๋ยวเส้นเหนียวนุ่ม ผัดไฟแรงจนแห้ง หอมกลิ่นไหม้อ่อนๆ เป็นเอกลักษณ์ คั่วพร้อมสะโพกไก่หมักชิ้นโต แต่ก่อนจะปรุง แนะให้ชิมดูก่อน เพราะคั่วมาได้รสชาติกำลังดีถูกปาก หากกลัวเลี่ยนแนะนำให้เหยาะซอสพริกศรีราชานิดหน่อยเพียงพอ
คั่วไก่ และหอยเชลล์ญี่ปุ่นคั่วพริกเกลือ
อีกหนึ่งไฮไลต์ไม่น้อยหน้าคั่วไก่ นั่นก็คือ คั่วอบกุ้ง (159 บาท) เส้นใหญ่ทอดจนเส้นกรอบเป็นแผ่น ตอกไข่แล้วอบต่ออีกนิด ยกมาเสิร์ฟร้อนหอมฉุย ตอกไข่แล้วคลุกเส้นก็อร่อยถึงใจ และไม่ต้องห่วงว่าสั่งกุ้งแล้วจะได้ตัวจิ๋ว เพราะเชฟหม่งจัดให้เฉพาะกุ้งตัวเขื่องเท่านั้น
และที่น่าประหลาดใจ หลังจากที่ขายคั่วไก่ได้สักพัก กลายเป็นว่าก๊วนเพื่อนกลุ่มนี้พบว่า เกาเหลาคั่วไข่ปลาหมึก (139 บาท) มาแรงแซงโค้ง ขึ้นแท่นเป็นอีกหนึ่งเมนูขายดี ด้วยไข่ปลาหมึกมาแบบชิ้นใหญ่เต็มปากเต็มคำ ไร้กลิ่นคาว ลืมไข่ปลาหมึกทอดตลาดนัดแบบที่เราคุ้นเคยไปได้ ไข่ปลาหมึกคั่วไฟแรงกับไข่จนสุกดี ถ้ากลัวเลี่ยนควรจิ้มซอสพริก ถ้ากลัวหมดไวก็คงต้องสั่งเบิล
คั่วอบกุ้งกับไข่แดงเยิ้มๆ และเกาเหลาคั่วไข่ปลาหมึกหอมกลิ่นไหม้นิดๆ
ไม่เพียงแต่เมนูเส้นใหญ่คั่วที่เป็นตัวชูโรงเท่านั้น ยังมีคั่วพริกเกลืออีกหนึ่งเมนูเด็ดที่ต้องลอง โดยเฉพาะ ข้าวผัดคั่วพริกเกลือกุ้ง (159 บาท) กุ้งไซส์ใหญ่คั่วพริกเกลือจนเข้าเนื้อ จากนั้นนำไปผัดข้าวจนแห้ง ผัดพริกเกลือเคลือบข้าวทุกเม็ด กลิ่นช่างเย้ายวนให้ตักกินทันทีแบบไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลง
แต่สำหรับใครที่ไม่อยากหนักท้องเกินไป ลองเป็น หอยเชลล์ญี่ปุ่นคั่วพริกเกลือ (289 บาท) ก็ดีไม่น้อย หอยเชลล์ไซส์ใหญ่ เนื้อกรุบและหนึบ คั่วกับพริกเกลือจนได้รสชาติที่เข้มข้น ตักกินเปล่าๆ ไม่ต้องมีข้าวก็อร่อยแล้ว นอกจากนี้ยังมี คะน้าฮ่องกงเจี๋ยนน้ำมันหอย (89 บาท) ไว้กินคู่กับข้าวหรือตัดเลี่ยนก็ไม่เลวเลย
ที่นี่ยังมีน้ำชาเสิร์ฟอย่าง ชาข้าวคั่ว (39 บาท) รสจืด เย็นฉ่ำ หอมกลิ่นข้าวคั่วเต็มๆ หรือจะเป็น ชาดำเย็น (39 บาท) รสชาเข้ม หวานน้อย แก้เลี่ยนได้ดีทีเดียว
What You Should Know:
- ท็อปปิ้งเนื้อสัตว์และซีฟู้ดมีให้เลือกระหว่าง ไก่, แฮม, เบคอน, กุ้ง, เนื้อหมักน้ำมันงา, หอยเชลล์ญี่ปุ่น และไข่ปลาหมึก
- อีกไม่นานจะเปิดชั้น 3 ให้เป็นห้องน้ำชา เสิร์ฟชาจีนที่คัดสรรมาให้เลือก 4-5 ประเภท พร้อมของว่าง
- จอดรถได้ที่ริมถนนฝั่งถนนจันทน์ แต่ถ้ามาหลัง 2 ทุ่มจอดริมถนนหน้าร้านได้เลย
Kua
Open: ทุกวัน 16.00-23.30 น.
Address: ปากซอยเจริญกรุง 73 (แยกตรอกจันทร์) กรุงเทพฯ
Budget: 150-350 บาท
Contact: โทร. 08 4910 8155
Facebook: www.facebook.com/KUABKK
Map:
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า