×

เปิดใจ โคตะ vs. โจ๊กเกอร์ ศึก Star ดวล Street แห่งเวทีราชดำเนิน

29.06.2023
  • LOADING...
โคตะ vs. โจ๊กเกอร์

วันที่ 1 กรกฎาคมนี้ จะเป็นการแข่งขันระหว่าง โคตะ มิอุระ นักมวยชื่อดังจากญี่ปุ่นที่หวนคืนสังเวียนราชดำเนินเป็นครั้งที่ 2 มาพบกับ เหยิน โจ๊กเกอร์ หรือ โจ๊กเกอร์ แห่งสตรีทไฟต์ ภายใต้กติกาคิกบ็อกซิ่ง ชก 3 ยก ยกละ 2 นาที พัก 1 นาที และไม่มีผลแพ้ชนะอย่างเป็นทางการ แต่สามารถน็อกเอาต์ได้

 

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา THE STANDARD ได้มีโอกาสก้าวเข้าสังเวียนมวยเวทีราชดำเนินอีกครั้ง เพื่อพบปะกับ โคตะ มิอุระ นักมวยญี่ปุ่นวัย 21 ปี ลูกชายของ คาซูโยชิ มิอุระ (Kazuyoshi Miura) นักฟุตบอลระดับตำนานที่แฟนๆ จดจำกันในนาม ‘คิงคาซู’

 

โดยครั้งนี้โคตะจะมาขึ้นชกกับ เหยิน โจ๊กเกอร์ หรือ โจ๊กเกอร์ ไฟต์คลับ จากเวที Fight Club Thailand ที่โด่งดังขึ้นมาจากกการต่อสู้แบบสตรีท และไม่เคยขึ้นสังเวียนอาชีพมาก่อน มาขึ้นเวทีมาตรฐานระดับตำนานของไทยในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ ภายใต้กติกาคิกบ็อกซิ่งแบบพิเศษที่ไม่มีผลแพ้ชนะอย่างเป็นทางการ

 

THE STANDARD ได้มีโอกาสพบกับนักชกทั้งสองที่เวทีราชดำเนิน พร้อมกับนั่งลงพูดคุยถึงความฝันและความหวังกับการขึ้นชกไฟต์พิเศษในครั้งนี้ เราจึงอยากพาทุกคนไปรู้จักกับพวกเขามากขึ้นผ่านบทสัมภาษณ์พิเศษครั้งนี้

 

In the red corner โคตะ มิอุระ

 

 

หากพูดถึงสถิติการชกที่เวทีราชดำเนิน โคตะขึ้นชกเพียงครั้งเดียว และพ่ายให้กับ บัวขาว บัญชาเมฆ ตำนานมวยไทยไปแบบ TKO หรือกรรมการตัดสินใจยุติการชกในยกที่ 2 ไปเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2022

 

มาในครั้งนี้โคตะดูกดดันและดูเคร่งขรึมกว่าการเดินทางมาชกครั้งแรกที่ราชดำเนิน ก่อนจะนั่งลงพูดคุยกับเราถึงความรู้สึกในการมาชกครั้งนี้

 

เป้าหมายของการขึ้นเวทีราชดำเนินเป็นครั้งที่ 2

 

“ครั้งนี้ผมต้องการมาชนะน็อกครับ ครั้งที่แล้วมาชกไป 1 ครั้ง และแพ้น็อก 1 ครั้ง ครั้งนี้เลยจะมาขอแก้มือ”

 

 

มองคู่ชกในครั้งนี้อย่างไร

 

“ได้ดูเทปการชกของโจ๊กเกอร์มาบ้าง ไม่ได้วางแผนอะไรมาเป็นชิ้นเป็นอัน แต่แค่รู้ว่าเขาจะเป็นฝ่ายออกหมัดหรือเดินเข้าหาอยู่แล้ว ก่อนคู่ที่ผมจะชกมีคู่มวยไทยอยู่แล้วที่เป็นเทคนิคระดับสูงของ RWS ในส่วนคู่ของเขาก็อยากให้ดูการซัดกันมากกว่า ระหว่างผมกับโจ๊กเกอร์”

 

สาเหตุที่ยังคงโลดแล่นอยู่ในวงการนักมวย

 

“หลักๆ คือที่ยังทำอยู่ (ชกมวย) ก็เพราะว่าชอบ ชอบในสิ่งนี้ แล้วรู้สึกว่าตอนที่ผมชกผมจะได้ส่งข้อความไปถึงคนที่กำลังดูผมชกอยู่ แล้วก็ชอบการต่อสู้บนเวที ชอบความรู้สึกตื่นเต้นในระหว่างชก ก็เลยเลือกเดินเส้นทางนี้”

 

 

อยากฝากบอกอะไรถึงคนดูไฟต์นี้

 

“อยากให้ทุกคนได้เห็นนักชกที่มีอายุน้อย 2 คน มาต่อยกันแบบบ้าคลั่งบนเวที (ราชดำเนิน) แห่งนี้”

 

ฝากอะไรถึงโจ๊กเกอร์

 

“มาซัดกันบนเวที แล้วมาทำให้การชกครั้งนั้นเต็มไปด้วยความสนุกกันเถอะ”

 

In the blue corner เหยิน โจ๊กเกอร์

 

 

ข้ามมาที่ฝั่งของผู้ท้าชิงในครั้งนี้ โคตะจะขึ้นเวทีราชดำเนินอย่างเป็นทางการ มาพบกับนักมวยที่แตกต่างจากทุกคนที่เขาเคยพบเจอมา เพราะครั้งนี้คือ เหยิน โจ๊กเกอร์ ที่ต่อสู้ในสังเวียนข้างถนนหรือสตรีทตลอดมา และจะได้โอกาสขึ้นชกบนเวทีมาตรฐานเป็นครั้งแรกในไฟต์นี้

 

รู้สึกอย่างไรบ้างที่ได้มาอยู่บนเวทีระดับตำนานแบบนี้

 

“ความรู้สึกที่ได้มาอยู่บนเวทีมาตรฐาน เวทีระดับประเทศ รู้สึกเป็นเกียรติ อันดับแรกเป็นเกียรติ อันดับที่สองคือตื่นเต้น ตื่นเต้นมากครับ

 

“ไม่เคยคิดเลยครับ ได้แต่มีความหวังว่าเราอยากจะเป็นนักมวย ได้ขึ้นเวทีมาตรฐานสักเวทีหนึ่ง แต่ยังไม่มีโอกาส แต่อยู่ดีๆ จับพลัดจับผลูมาได้ยังไงก็ไม่รู้ เตรียมตัวไม่ทันเหมือนกันครับ”

 

 

เมื่อรู้ว่าต้องพบกับโคตะ

 

“รู้สึกตื่นเต้นครับ รู้สึกว่าเราจะสู้ได้เหรอ เขาใหญ่กว่าเราเยอะเลย แล้วเขาเคยชกกับพี่บัวขาว ความเป็นมวยมันคนละเรื่องกัน แต่ใจเราสู้ แล้วก็ปรึกษากับทางผู้ใหญ่ กับทางครู ว่าไหวไหม เราซ้อมได้ไหม มีแผนอะไร สุดท้ายก็ร่วมมือร่วมใจกันครับ”

 

 

จากคนงานก่อสร้างสู่เวทีมาตรฐาน จากสตรีทมาปะทะกับสตาร์

 

“รู้สึกเป็นเกียรติครับ เวทีใหญ่ คู่ชกระดับโคตะ เขาไม่ต้องมาสนใจเราก็ได้ เราแค่มดตัวเล็กๆ เขาจะเหยียบเรา ทำอะไรเราก็ได้ แต่เขากลับดึงเราขึ้นมา ก็ขอบคุณครับ”

 

 

ในฐานะตัวแทนสตรีทอยากแสดงอะไรให้ทุกคนเห็น

 

“ก็อยากจะพิสูจน์หลายๆ เรื่อง มวยสตรีทที่ใครจะมาชกมันไม่ได้มีรางวัลจูงใจอะไร คือเขามากันด้วยใจ ต่อยกันไม่เป็นด้วยซ้ำ แล้วไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเจ็บตัวหรือเปล่า แต่เขามาด้วยใจ เพราะฉะนั้นผมขึ้นเวทีมาตรฐาน อันดับแรกคือผมมีใจครับ และผมก็มีวินัยในการฝึกซ้อม


“และอยากจะให้เห็นเรื่องวินัยครับ คือผมไม่ได้ต่อยมวยตั้งแต่เด็ก การซ้อมของผมมันก็เหมือนกับมืออาชีพ ซึ่งมันหนักมาก ก็อยากจะให้รู้ว่าผมมีวินัย ผมมีวินัยที่ต้องตื่นเช้า ต้องมาซ้อมเย็นอะไรแบบนี้ครับ”

 

 

จากต่อสู้ยกเดียวสู่สามยก เตรียมตัวมาอย่างไร

 

“ก็มีความกังวลครับ เพราะว่าเรื่องแรง (พละกำลัง) เราอาจจะถึงอยู่แล้ว แต่อาจจะเป็นเรื่องการผ่อน เวลาการผ่อนจังหวะ การซ้อมเราก็ซ้อมหนักกว่าเดิม ซ้อมหนักพักน้อย ก็ไม่น่ากังวลครับ”

 

สิ่งที่คนดูจะได้เห็นวันที่ 1 กรกฎาคมนี้

 

“ก็น่าจะชกกันนานๆ ครับ นานๆ จะได้มาชก ผมก็กะจะเอาให้ครบทั้ง 3 ยกไปเลย จะเลี้ยงเกมหรือจะเอาให้ครบทั้ง 3 ยกครับ แต่มีน็อกแน่ โคตะผมน็อกคุณแน่

 

“และก็อยากให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้ผมชนะ และเป็นกำลังใจให้โคตะด้วยครับ ฝากเช็ดน้ำตาเขาด้วยครับ”

 

ฝากอะไรถึงโคตะก่อนชก

 

“ก็อยากจะฝากโคตะนะ อยู่บนเวทีราชดำเนินมันมีแค่ 4 มุม เพราะฉะนั้นหนีให้ทัน อย่าจนมุม ไม่งั้นโดนแน่นอน”

 

 

สำหรับการแข่งขันในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ ที่เวทีราชดำเนิน ระหว่าง โคตะ มิอุระ vs. โจ๊กเกอร์ จะเป็นการแข่งขันในกติกาคิกบ็อกซิ่งแบบพิเศษในรายการ RWS: Legend of Rajadamnern

 

โดยกติกาการแข่งขันจะเป็นการใช้ศิลปะการต่อสู้แบบคิกบ็อกซิ่ง แข่งขันกันทั้งหมด 3 ยก แบ่งเป็นยกละ 2 นาที พัก 1 นาที ไม่มีผลแพ้ชนะอย่างเป็นทางการ แต่สามารถชนะน็อกคู่ชกได้

 

รูปมวยของทั้งสองต้องยอมรับว่าหากเทียบประสบการณ์บนเวทีมาตรฐาน โคตะจะได้เปรียบ เนื่องจากคุ้นเคยกับการชกตามกฎกติกามากกว่าหนึ่งยก แต่โจ๊กเกอร์เคยผ่านการชกแบบสตรีท ซึ่งจะแข่งขันกันเพียงยกเดียวมาตลอด

 

 

ดังนั้นเมื่อผ่านยกแรกไปแล้ว โจ๊กเกอร์จะต้องรักษาความฟิตเพื่อยืนระยะให้ครบ ไม่งั้นจะมีโอกาสโดนโคตะน็อกได้ก่อน

 

แต่ขณะเดียวกันโจ๊กเกอร์ก็มีจุดแข็งที่ประสบการณ์จากสตรีทที่ชกกันหลากหลายรูปแบบและดุเดือด ซึ่งโคตะยอมรับว่าโจ๊กเกอร์จะเดินทางบุกเข้าใส่เขาอย่างแน่นอน และโจ๊กเกอร์เองก็มั่นใจว่าเขาจะสามารถรับมือกับแรงหมัดและลูกเตะของโคตะได้

 

 

โดยแฟนมวยสามารถหาซื้อบัตรได้ที่ rajadamnern.com หรือติดตามชมการถ่ายทอดสดได้ทางทีวี ช่องเวิร์คพอยท์ 23 รวมทั้งยังมีช่องทางรับชมเพิ่มเติมทาง YouTube: WorkpointOfficial และ Facebook: Workpoint Entertainment

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising