×

เลือกตั้ง 2566 : ‘กรณ์’ จี้พรรคใหญ่หากไม่ใช่ช่วงวิกฤต อย่าเอาภาษีไปแข่งกันแจก ย้ำยุคนี้ต้องโอกาสนิยม ต่อยอดให้ทำมาหากินได้

โดย THE STANDARD TEAM
05.05.2023
  • LOADING...

วันนี้ (5 พฤษภาคม) ที่อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช กรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมทีมงาน ลงพื้นที่หาเสียงพร้อมแนะนำผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) นเรศ เกสรินทร์ (รัตนบุรี)  

 

กรณ์กล่าวว่า ประชาชนตอบรับนโยบายเศรษฐกิจเพื่อปากท้องของพรรค พวกเขาสะท้อนว่าอยากได้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งมาดูแลแก้ปัญหาให้กับเขา และค่อนข้างกังวลกับนโยบายประชานิยม โดยเฉพาะกลุ่มผู้เสียภาษีที่กลัวว่าการจะนำเงินภาษีของเขามาใช้แบบนี้ มันเป็นวิธีการที่ถูกต้องหรือไม่ 

 

ซึ่งในส่วนของพรรคชาติพัฒนากล้า พรรคเน้นสร้างโอกาส ไม่เน้นลดแลกแจกแถมหรือใช้งบประมาณด้านภาษีแต่อย่างใด การใช้เงินภาษีตนพูดเสมอว่าทำได้ในยามวิกฤต แต่ในช่วงนี้ สิ่งที่ประชาชนต้องการคือต่อยอดโอกาสในการทำมาค้าขายของเขา ถ้าเป็นเกษตรกร เขาก็อยากเห็นนโยบายที่ทำให้ราคาพืชผลทางการเกษตรของเขาสูงขึ้น ทำให้เขามีชีวิตที่มั่นคงด้วยตัวเขาเองมากขึ้น

 

จากนั้นทีมพรรคชาติพัฒนากล้าขึ้นเวทีปราศรัย โดยกล่าวกับประชาชนที่มาร่วมรับฟังว่า พรรคชาติพัฒนากล้าไม่เสนอนโยบายประชานิยม เป็นพรรคที่ส่งเสริมสิ่งที่เรียกว่าโอกาสนิยม คือสร้างโอกาสให้พี่น้องประชาชนสามารถทำมาหากินได้ แข่งขันได้ มีราคาพืชผลที่ดีได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากภาครัฐ เป็นชุดนโยบายที่เป็นธรรมกับประชาชนที่เป็นผู้เสียภาษีมากกว่า 

 

กรณ์กล่าวว่า เป็นเรื่องง่ายที่จะเอาเงินภาษีของพี่น้องประชาชนไปเป็นเครื่องมือหาเสียง นำเสนอนโยบายเชิงประชานิยม ที่ตนต้องกล้าออกมาพูดตรงๆ วันนี้ เพราะเชื่อว่าการเมืองมีแนวโน้มที่จะมีการเปลี่ยนแปลงสูงมาก อยู่ที่ว่าจะเปลี่ยนแปลงแบบไหน ตนและทีมงานอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงจึงออกมาตั้งพรรค เพราะที่ผ่านมาเรามองว่ามันมีข้อบกพร่องในการบริหารจัดการประเทศในหลายเรื่องมาก โดยเฉพาะเรื่องปากท้อง เรื่องเศรษฐกิจ เราอยากเห็นการแก้ไข

 

วันนี้นโยบายที่ประชาชนวิพากษ์วิจารณ์มากที่สุดคือ การที่พรรคใหญ่มีนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ให้กับคนไทยที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป หลายๆ คนไม่มีใครปฏิเสธหรอก เงินใครก็อยากได้กันทั้งนั้น แต่เม็ดเงินโดยรวมที่จะแจกตามนโยบายที่ใช้หาเสียงนั้น คิดออกมาเป็นเม็ดเงินก้อนใหญ่มหาศาลถึง 5.4 แสนล้านบาท ซึ่งเยอะมาก 

 

มันจึงมีคำถามจากสังคมว่า จะไปเอาเงินจำนวนนี้มาจากไหน หลังจากที่อึกอักอยู่นาน สุดท้ายก็ต้องถูกบังคับให้ตอบว่าก็คือเงินภาษีของพี่น้องประชาชน บวกกับเงินงบประมาณที่ต้องไปกู้มาแจก ซึ่งตนก็แสดงความเห็นชัดเจนว่า การแจกเงินแบบนี้ไม่ใช่ทำไม่ได้ ทำได้ แต่ต้องเป็นช่วงวิกฤต 

 

กรณ์กล่าวต่อว่า ตนเป็นคนเริ่มต้นแจกเงินเป็นคนแรกในปี 2552-2553 สมัยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ช่วงนั้นเศรษฐกิจโลกกำลังประสบวิกฤตขนาดหนักที่เราเรียกว่าวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ซึ่งมีผลกระทบต่อประเทศไทยในฐานะเป็นประเทศค้าขาย ต่างชาติเขาไม่มาซื้อของเรา จึงมีความจำเป็นที่จะต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ 

 

“ผมได้คิดวิธีการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการออกเช็คช่วยชาติ มูลค่า 2,000 บาท ให้กับประชาชนที่มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาทต่อเดือน โดยยิงตรงสู่กระเป๋าพี่น้องประชาชน แต่นั่นเป็นเพราะเราอยู่ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจจริง และอีกวิกฤตคือโควิด รัฐบาลก็ได้แก้ปัญหาด้วยการแจก ผมก็สนับสนุน แต่วันนี้ไม่ใช่วิกฤต การนำเงินมาแจกจึงไม่สมควร” กรณ์กล่าว

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising