×

KKP รับสินเชื่อปีนี้โต 5% ย้ำหากเศรษฐกิจไทยไม่มีวัคซีน GDP ปี ‘64 อาจติดลบ 1.2%

02.02.2021
  • LOADING...
KKP-รับสินเชื่อปีนี้โต-5-ย้ำหากเศรษฐกิจไทยไม่มีวัคซีน

อภินันท์ เกลียวปฏินนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) กล่าวว่า ปี 2564 นี้คาดว่าสินเชื่อของบริษัทฯ จะขยายตัวอย่างน้อย 5% จากปี 2563 ซึ่งแตกต่างจากปี 2563 ที่สินเชื่อโต 12% เป็นเพราะปีก่อนมีมาตรการพักชำระหนี้ ส่งผลให้สินเชื่อที่ยังคงค้างชำระค่อนข้างสูง แต่ปีนี้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยยังเปราะบาง ส่งผลต่อสถานการณ์ลูกหนี้ด้วย ดังนั้นยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อคุณภาพสินเชื่อ

 

ทั้งนี้ ปี 2564 มีความไม่แน่นอนสูงจากหลายปัจจัย จึงจะมุ่งขยายสินเชื่อรายย่อยที่มีหลักประกัน ซึ่งมีการปรับนโยบายเครดิต และสินเชื่อที่มีความเสี่ยงน้อยกว่าอย่างสินเชื่อบรรษัทขนาดใหญ่ ซึ่งมีความสามารถรองรับสถานการณ์ที่มีความไม่แน่นอนสูงได้ในปัจจุบัน รวมถึงสินเชื่อลูกค้าผู้มีสินทรัพย์สูงผ่านการให้สินเชื่อเพื่อสร้างความมั่งคั่ง ขณะที่ซอฟต์โลนที่มีวงเงินจำกัด ต้องเข้าใจว่าสินเชื่อส่วนนี้ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาด้านเครดิต แต่เป็นเรื่องสภาพคล่องเท่านั้น ซึ่ง KKP ยังมีการปล่อยสินเชื่อให้ลูกค้าที่มีศักยภาพ

 

อย่างไรก็ตามทาง KKP จะรักษาสมดุลรายได้ทั้งจากธนาคาร วาณิชธนกิจ อย่างการทำ IPO และกลุ่มลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูง โดยในส่วนตลาดทุน ปีที่ผ่านมาเห็นธุรกรรมค่อนข้างสูง ซึ่งในภาวะที่ตลาดมีความผันผวนก็สามารถหารายได้จากส่วนนี้ได้เช่นกัน 

 

“ปีนี้เดือนมกราคมมีลูกค้ารายย่อยขอรับความช่วยเหลือแล้ว 1 หมื่นราย น้อยลงจากปีก่อนที่มีถึง 2 แสนราย ส่วนลูกค้าธุรกิจยังได้รับความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง เพราะความไม่แน่นอนต่างๆ ซึ่งทั้งหมดนี้เราต้องติดตามอย่างใกล้ชิด” 

 

ขณะที่หนี้เสียหรือ NPL คาดว่าจะเห็นตัวเลขชัดเจนในไตรมาส 1 ปี 2564 เพราะช่วงปีที่ผ่านมามียอดการพักชำระหนี้ และมีการบริหารจัดการหนี้ไปบ้างแล้ว ส่วนทั้งปีนี้จะควบคุมให้ไม่เกิน 4.5% ของสินเชื่อรวม โดยต้องติดตามสถานการณ์ของลูกหนี้ผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หลังพ้นระยะของมาตรการช่วยเหลือ ขณะเดียวกันมองว่า การตั้งสำรองปีนี้จะไม่ได้เพิ่มจากปีก่อนที่ตั้งสำรองไปมากแล้ว 

 

อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจไทยปี 2564 แม้ผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดระลอกใหม่ไม่เท่ารอบก่อน แต่ความไม่แน่นอนและความเปราะบางนี้จะไม่จบเร็ว ดังนั้นมีความจำเป็นต้องคงสภาพคล่อง และมีเงินกองทุนในระดับสูง ขณะเดียวกันหาก ธปท. มีการปรับลดเงินนำส่ง FIDF ไม่น่าจะส่งผลต่อกำไรของธนาคารเพิ่มขึ้น เพราะจะต้องส่งผ่านไปที่ลูกค้าอยู่แล้ว 

 

พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ KKP Research บล.เกียรตินาคินภัทร กล่าวว่า ปี 2564 นี้ทาง KKP ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจไทยโตเหลือ 2% จากเดิม 3.5% ซึ่งเศรษฐกิจไทยทรุดลงจากการท่องเที่ยวที่มีสัดส่วน 10-12% ของ GDP ซึ่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยไม่ใช่เม็ดเงินก้อนใหญ่เหมือนประเทศอื่นเลยยังไม่ฟื้นตัว  

 

อย่างไรก็ตามหากการระบาดระลอกใหม่ยังรุนแรงขึ้น และมาตรการควบคุมโควิด-19 ลากยาวถึงไตรมาส 2/64 ซึ่งการฉีดวัคซีนในปริมาณมากจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวได้ แต่หากปีนี้ไม่สามารถเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวได้ ทำให้รายได้ภาคการท่องเที่ยว การใช้จ่าย และการบริโภคไม่ฟื้นกลับมา อาจทำให้กรณีเลวร้ายที่สุด GDP ปี 2564 ติดลบ 1.2%

 

การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันพุธนี้มองว่า กนง. ควรลดดอกเบี้ยนโยบาย และลดการนำส่ง FIDF เพราะเศรษฐกิจต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมและการกระตุ้น แต่จากการสื่อสารของ กนง. ที่ผ่านมา เห็นสัญญาณว่า ธปท. พยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และจะเก็บกระสุนไว้ก่อน

 

ทั้งนี้ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ วงเงินกู้ 1 ล้านล้านบาทยังไม่หมดไป ซึ่งเขาเห็นว่า ควรต้องใช้อย่างตรงจุด มีประสิทธิผลสูงสุด และไม่รั่วไหลให้มากที่สุด 

 

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising