KKP Research โดยกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยไตรมาส 1/63 ติดลบ และมีความเสี่ยงที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอยในกลางปีนี้ หากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ยังคงลุกลามและไม่สามารถควบคุมได้ใน 1-2 เดือนนี้ และผลกระทบต่อเนื่องต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวมอาจลากยาวไปถึงครึ่งปีหลัง
ทั้งนี้ช่วงที่ผ่านมาประเทศไทยได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 โดยเฉพาะดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับลดลงมากกว่าทุกประเทศในแถบเอเชีย โดยลดลงถึง 15% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา สะท้อนถึงการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะได้รับผลกระทบรุนแรงมากกว่าทุกประเทศจากโรคโควิด-19 จากโครงสร้างเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงกับภาคการท่องเที่ยวและจีนสูง อีกทั้งพื้นฐานเศรษฐกิจก่อนสถานการณ์ไวรัสก็อ่อนแอมากอยู่แล้ว โดยไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมาโตเพียง 1.6% YoY นับเป็นการโตรายไตรมาสที่ต่ำที่สุดในรอบ 5 ปี
ขณะเดียวกัน KKP Research ประเมินว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลต่อรายได้ของคนไทย, ความมั่งคั่ง เช่น การลดลงราคาสินทรัพย์ (อสังหาริมทรัพย์, พอร์ตหุ้น ฯลฯ) กระทบต่องบดุลภาคธุรกิจ โดยความสามารถในการทำกำไรอาจลดลง รวมถึงส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป เช่น เมื่อมีโรคระบาดควรเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องพบคนจำนวนมาก อาจยกเลิกการท่องเที่ยว การซื้อของ และอื่นๆ อย่างไรก็ตาม การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังส่งผลต่ออุปสงค์และอุปทานของเศรษฐกิจไทยใน 4 ช่องทาง ได้แก่
1.ภาคธุรกิจและบริการที่ต่อเนื่องจากภาคการท่องเที่ยว ประเมินว่าช่วง 2-3 เดือนจากนี้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติน่าจะลดลงถึง 50-60% และทั้งปี 2563 อาจจะลดลงราว 10-13% โดยภาคธุรกิจหลักที่ได้รับผลกระทบหนัก 5 อันดับแรกจะอยู่ในภาคบริการที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว ได้แก่ โรงแรมที่พัก การค้าปลีก ภัตตาคาร การขนส่งทางบก และการขนส่งทางอากาศ
2.ผลกระทบจากการหยุดชะงักของภาคการผลิตในจีน ปัจจุบันภาคการผลิตของประเทศไทยเชื่อมโยงกับห่วงโซ่อุปทาน (รวมถึงภาคการผลิต) ของจีนอยู่มาก หากจีนไม่สามารถส่งออกสินค้าได้เพราะการปิดโรงงาน การขาดคนงาน ส่งออกวัตถุดิบไม่ได้จะส่งผลกระทบต่อไทย โดยหมวดที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดคือสินค้าในหมวดคอมพิวเตอร์ อิเล็กทรอนิกส์ และออปติกส์ สินค้าเกษตรและประมง รวมทั้งเฟอร์นิเจอร์ไม้และสินค้าที่ทำจากไม้และกระดาษ
3.ผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและเศรษฐกิจโลก ทำให้ความต้องการซื้อสินค้าและบริการรวมถึงการลงทุนลดลงทั้งในจีนและประเทศอื่นๆ กลายเป็นปัจจัยลบต่อภาคการส่งออกไทยที่ผูกโยงกับเศรษฐกิจโลกสูง สินค้าที่เสี่ยงได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการลดลงของการอุปโภคบริโภคในจีนคือ สินค้าเกษตรและประมง เฟอร์นิเจอร์ไม้ และสินค้าที่ทำจากไม้และกระดาษ โดยเฉพาะสินค้าเกษตรที่มีสัดส่วนการส่งออกไปจีนเกินครึ่งหนึ่งของการส่งออกทั้งหมด
4.กรณีมีการแพร่ระบาดในประเทศ (Local Transmission) ทำให้เห็นการยกเลิกการจัดงานอีเวนต์ กิจกรรมกีฬา และนันทนาการต่างๆ ผู้คนทั่วไปพยายามหลีกเลี่ยงการเข้าห้างสรรพสินค้าหรือไปในแหล่งที่คนพลุกพล่าน หากสถานการณ์การแพร่ระบาดลุกลามขึ้นจนทางการจำเป็นต้องยกระดับมาตรการควบคุมโรคถึงขั้นสูงสุดเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดภายในประเทศ ผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นจะยิ่งรุนแรงและขยายวงกว้างกว่าเพียงแค่ผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวและการส่งออก เพิ่มความเสี่ยงที่เศรษฐกิจไทยจะเข้าสู่ภาวะถดถอยเต็มรูปแบบในปีนี้
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
