×

ด้วยความคิดถึงจากลูกๆ ในลอนดอนถึงในหลวงรัชกาลที่ 9

26.10.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

6 Mins. Read
  • ความในใจของลูกๆ ชาวไทย ผู้แม้ตัวอยู่ไกล แต่หัวใจยังส่งมาถึงในหลวงรัชกาลที่ 9

     ครั้งหนึ่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เคยเสด็จพระราชดำเนินเยือนกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 19-23 กรกฎาคม 2503 โดยมีสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร และดยุกแห่งเอดินบะระ พระราชสวามี ถวายการต้อนรับที่สถานีรถไฟวิกตอเรีย จนเป็นภาพที่น่าจดจำของราชวงศ์ทั้งสองประเทศ

     เนื่องจากความสัมพันธ์อันยาวนานของไทยและอังกฤษ ทำให้มีชาวไทยไปพำนักอาศัยอยู่ในกรุงลอนดอนถึง 50,000 คน (จากการรายงานของสถานกงสุลไทยในปี 2555)

     และนี่คือความรู้สึกของคนไทยในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9

     ที่แม้อยู่ไกล แต่ใจยังคงนึกถึงพระองค์

 

 

“ผมเสียพ่อตั้งแต่เด็ก แต่ในงานวันพ่อ ผมรู้สึกว่ามีพ่ออีกคนให้ไหว้”

     “แม้ว่าผมจะอยู่ลอนดอน แต่ผมก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นลูกตัวเล็กๆ ของพระองค์คนหนึ่ง ทุกคนในร้านอาหารไทย เมื่อได้ทราบก็ติดตามข่าวกันจนวินาทีสุดท้าย เพราะในใจเราหวังให้มันไม่เป็นเรื่องจริง วินาทีที่คนที่บ้านโทรมาบอก พวกเราทุกคนในร้านก้มลงกราบที่พื้น ถึงแม้แผ่นดินนี้จะไม่ใช่แผ่นดินเกิดเราก็ตาม

     “ผมเสียพ่อไปตั้งแต่เด็ก ในงานวันพ่อ เมื่อสุดท้ายไม่มีใคร ผมก็รู้สึกว่ามีพ่ออีกคนให้ไหว้ ผมเติบโตมากับการเห็นพระองค์ทรงงานหนักมาตลอด ผมอยู่ที่นี่มานาน มีหน้าที่ มีครอบครัวที่นี่ ครั้งหนึ่งผมต้องกลับไปเกณฑ์ทหาร ผมคิดว่าทำไมผมต้องกลับไปเป็นทหารที่ประเทศไทย ทั้งที่ชีวิตของผมอยู่ที่นี่ แต่พอได้ทำจริงๆ ผมได้ช่วยเหลือคนมากมาย ผมจึงได้รู้ว่าทำไมถึงต้องกลับไปเกณฑ์ทหาร ส่วนตัวเพราะผมเคยเป็นทหาร ผมจึงรู้ว่าพระองค์ทรงงานหนักจริงๆ

     “สิ่งที่ผมจำได้ขึ้นใจคือคำสอนของพ่อให้อยู่อย่างพอเพียง รู้จุดที่เหมาะสมกับตัวเรา ไม่คิดอิจฉาคนอื่น ทำสิ่งที่ไม่เดือดร้อนคนอื่นและตัวเอง และให้ซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมยึดถือมาตลอดครับ”

 

 

“จะทำหน้าที่ของเราให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมให้มากที่สุด หวังว่าจะทำให้พระองค์ภูมิใจ”

     “ช่วงเดือนนี้ของปีที่แล้ว ทุกสิ่งรอบตัวหมองหม่น เราจำได้ว่าตั้งแต่เด็กก็ได้ยินชื่อพระองค์มาตลอด เราเห็นพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์ติดอยู่ที่บ้าน ตอนนั้นเราไม่เข้าใจว่าความรักที่เกิดขึ้นมาทั้งหมดนั้นเพราะอะไร แต่ทุกวันนี้เข้าใจแล้ว

     “แม้ยังไม่ได้มีโอกาสนำพระราชดำรัสมาปฏิบัติอย่างจริงๆ จังๆ แต่เราคิดเสมอว่าจะทำหน้าที่ของเราให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมให้มากที่สุด

     “และหวังว่าจะทำให้พระองค์ภูมิใจ”

 

 

“คำสอนของพระองค์เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตมาตั้งแต่เด็กจนทุกวันนี้”

     “พอรู้ข่าวก็ใจหายและเสียใจ คนไทยในเมืองที่เราเรียนอยู่ก็รวมตัวกันจุดเทียนรำลึกถึงพระองค์ นักเรียนไทยทุกคนก็มารวมตัวกันด้วยความโศกเศร้า ตอนนั้นมีคนจำนวนไม่น้อยที่ร้องเพลงไปทั้งน้ำตา

     “ช่วงนั้นแม้จะอยู่ที่อังกฤษ แต่พวกเราก็ร่วมแต่งกายถวายอาลัย แม้เราจะไม่มีโอกาสได้ไปร่วมพระราชพิธีฯ ที่ประเทศไทย แต่ก็ทำเท่าที่คนไทยในต่างแดนจะสามารถทำได้

     “แม้ว่าเราจะเป็นคนรุ่นใหม่ แต่คำสอนของพระองค์ได้แทรกซึมเข้ามาในชีวิตของเราตั้งแต่เด็ก แม้แต่ที่โรงเรียนก็มีการสอนถึงโครงการในพระราชดำริต่างๆ ของพระองค์ ที่เป็นหลักและจำไว้ไม่เคยลืมคือเรื่องของ ‘เศรษฐกิจพอเพียง’ ให้คนไทยอยู่อย่างพอกินพอใช้ ให้รู้จักกับความพอดี ซึ่งมันเป็นเรื่องที่เราสามารถปรับใช้กับชีวิตประจำวันได้ในทุกวัน

     “คำสอนของพระองค์เรียกได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตมาตั้งแต่เด็กจนถึงทุกวันนี้”

 

 

“ตอนที่ท่านเสด็จสวรรคต เรารู้สึกเหมือนสูญเสียคนในครอบครัว”

     “รู้สึกเสียดายที่ไม่ได้เข้าไปกราบพระบรมศพเป็นครั้งสุดท้ายที่พระบรมมหาราชวัง ได้แต่ติดตามพระราชพิธีฯ ผ่านทางเฟซบุ๊กอยู่เป็นประจำ เป็นไปได้ก็อยากกลับไปร่วมพระราชพิธีฯ ค่ะ ตอนที่ท่านเสด็จสวรรคต เรารู้สึกเหมือนสูญเสียคนในครอบครัว เราอยู่ไกล แต่พอได้รู้ข่าวก็ไม่อยากเชื่อคำพูดจากปากของคนอื่น จนได้มาดูแถลงการณ์จริงๆ

     “เมื่อสัปดาห์ที่แล้วยังมีโอกาสไปเมืองโลซานน์ที่พระองค์เคยประทับ โลซานน์เป็นเมืองที่สงบ เราได้ไปเห็นแล้วก็นึกถึงพระองค์ อยากให้พระองค์ได้กลับมาพักจากการทรงงานหนักบ้าง เพราะเห็นแต่ว่าพระองค์ทรงงานหนักมาก ไม่เคยเห็นพระองค์ได้พักเลย

     “ความพอเพียงเป็นสิ่งที่เราได้เรียนรู้จากพระองค์มากที่สุด เพราะคนเราให้ความสำคัญกับวัตถุ ไม่รู้จักพอ เรามีพระองค์เป็นต้นแบบที่ทำให้รู้สึกอยากประหยัดมากขึ้น และพระองค์ทรงสอนเสมอให้คนไทยรักและสามัคคีกัน ให้รู้จักยอมรับในความแตกต่างทางความคิด แต่อยู่ด้วยกันได้อย่างสงบสุข”

 

 

“พระองค์เปรียบเหมือนผู้ชายคนหนึ่งที่มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่และเป็นแบบอย่างที่ดี”

     “ในความรู้สึกเรา พระองค์เปรียบเหมือนผู้ชายคนหนึ่งที่มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่และเป็นแบบอย่างที่ดีทั้งด้านการงาน ครอบครัว และความรัก เปี่ยมด้วยพระปรีชาสามารถในหลายแขนงทั้งศาสตร์และศิลป์ ทั้งยังเป็นผู้ชายที่มีสไตล์ในการเลือกฉลองพระองค์อีกด้วย

     “ในฐานะคนรุ่นใหม่ เราอยากพัฒนาตัวเองและคนในครอบครัวให้เป็นประชากรที่มีคุณภาพในสังคม นำความรู้ความสามารถที่มีมาช่วยขับเคลื่อนประเทศให้ไปในทางที่ดีในทางใดทางหนึ่ง และยึดมั่นในความเพียรพยายาม ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคและปัญหา”

 

 

“คนไทยรักในหลวงรัชกาลที่ 9 มาก เพราะพระองค์เปรียบเสมือนพ่อของแผ่นดิน”

     “การเรียนอยู่ต่างประเทศทำให้ไม่สามารถกลับไปกราบพระบรมศพที่ไทยได้ คนไทยในอังกฤษจึงจัดกิจกรรมจุดเทียนที่ Trafalgar Square และทางมหาวิทยาลัยก็ได้จัดงานจุดเทียนและร้องเพลง ต้นไม้ของพ่อ ร่วมกันค่ะ

     “เรารำลึกถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 ว่า ธ ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงมีพระปรีชาสามารถ และครองราชย์ยาวนานที่สุดในโลก

     “คนไทยรักในหลวงรัชกาลที่ 9 มาก เพราะพระองค์เปรียบเสมือนพ่อของแผ่นดิน

     “พระองค์ทรงดำเนินชีวิตอย่างพอเพียงและเป็นแบบอย่างให้ประชาชนได้ยึดเป็นแนวทาง ให้ลูกๆ ของพระองค์ทั้งประเทศรู้จักใช้อย่างพอเพียง ไม่ฟุ่มเฟือย และพอใจในสิ่งที่มี”

 

 

“ปรัชญา ‘ความพอเพียง’ ที่พระองค์ทรงสอน คือแนวคิดที่สามารถต่อกรกับเศรษฐกิจโลกที่มุ่งเน้นให้คนลุ่มหลงวัตถุนิยมและบริโภคนิยม”

     “เรารักพระองค์เหมือนที่เรารักและเคารพพ่อแม่ของเรา เพราะพระองค์ทรงเป็นห่วงเป็นใยพสกนิกรไทยเสมอมา ทั้งยังทรงสอนให้คนไทยประพฤติปฏิบัติตามทำนองคลองธรรม

     “ปรัชญา ‘ความพอเพียง’ ที่พระองค์ทรงสอน นับเป็นหลักคำสอนที่เหมาะสมจะนำมาปรับใช้กับสังคมระบบทุนนิยมในยุคร่วมสมัยมากที่สุดแล้ว นี่คือแนวคิดที่สามารถต่อกรกับแรงบีบคั้นโลกาภิวัตน์และเศรษฐกิจโลกที่มุ่งเน้นให้คนลุ่มหลงวัตถุนิยมและบริโภคนิยมเช่นที่ปรากฏในสังคมปัจจุบันอย่างมาก และควรนำมาปรับใช้เป็นแบบอย่าง แม้พระองค์จะจากไปแล้วก็ตาม”

 

 

“ผมเคารพพระองค์ในฐานะพระราชาที่ไม่กลัวลำบาก มีความเป็นนักวิทยาศาสตร์ และมีความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาประเทศอย่างจริงจัง โชคดีที่เราเกิดมาใต้ร่มพระบารมี”

     “แม้ไม่ได้อยู่ประเทศไทยในช่วงงานพระราชพิธีฯ แต่ก็รู้สึกโหวงๆ ทุกครั้งที่เห็นฟีดในโซเชียลมีเดียเต็มไปด้วยการคุมโทน สีสันจากเพื่อนๆ ในโซเชียลมีเดียหายไปหมด ผมสัมผัสได้ถึงความเศร้าโศก หลงเหลือแต่ความจริงที่คนไทยทุกคนต้องเผชิญ

     “ผมรู้ว่าอย่างไรก็ตามวันนี้ก็ต้องมาถึง พระเดชพระคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 มีมากมายเหลือเกิน จากที่เห็นภาพในโลกออนไลน์ก็รู้สึกได้ถึงความยิ่งใหญ่สมพระเกียรติการครองสิริราชสมบัติ 70 ปีของพระองค์ และผมอยากเข้าไปร่วมแสดงความเสียใจกับพี่น้องคนไทยอย่างถึงที่สุด ที่ลอนดอนเองก็มีการจัดงานถวายความอาลัยที่วัดไทยในวันเดียวกันกับพระราชพิธีฯ จริง ผมเองก็จะไปอยู่ที่นั่น ไปร่วมถวายความอาลัยกับพี่น้องคนไทยที่เกิดในรัชกาลที่ 9 ทุกคน

     “การมาเรียนต่อ ได้มาเจอวัฒนธรรมและชนชาติที่หลากหลาย ต้องยอมรับว่าประเทศไทยไม่ได้เป็นที่รู้จักมากนักในด้านธุรกิจ เทคโนโลยี หรือวิทยาศาสตร์เมื่อเทียบกับเวทีโลก แต่น่าแปลกที่เพื่อนต่างประเทศทุกคนรู้จักประเทศไทยจาก ‘ในหลวงรัชกาลที่ 9’ เพื่อนนานาชาติหลายคนยังมาแสดงความเสียใจกับการสูญเสียครั้งนี้ของคนไทย ผมถึงกับตะลึง แปลว่าชื่อเสียงและสิ่งที่พระองค์ทรงทำมันช่างยิ่งใหญ่จนคนในเวทีโลกให้การยอมรับและติดตาม เป็นการตอกย้ำว่าในหลวงรัชกาลที่ 9 ของเราเป็น ‘พ่อที่เก่งและเท่’ ผมเคารพพระองค์ในฐานะของการเป็นพระราชาที่ไม่กลัวลำบาก มีความเป็นนักวิทยาศาสตร์ และมีความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาประเทศอย่างจริงจัง ถือว่าเป็นความโชคดีที่เราเกิดมาใต้ร่มพระบารมี และเราทุกคนควรนำไปใช้เป็นแบบอย่าง

     “ผมคิดว่าคงไม่มีอะไรที่ชัดเจนไปกว่าการ ‘ลงมือทำ’ ของพระองค์อีกแล้ว ไม่ว่าคุณจะเป็นนักวิชาการ นักการเมือง เจ้าทฤษฎี รู้มาก รู้เยอะ แต่ถ้าคิดแล้วไม่ลงมือทำ ประเทศเราก็คงพัฒนาไปไม่ได้ เราคนไทยทุกคนคงได้เคยเห็นภาพพระราชกรณียกิจมากมาย ภาพที่พระองค์บุกป่าลุยเขา เสด็จฯ ไปเยี่ยมเยียนราษฎรและคุยกับผู้บริหารท้องถิ่น ปฏิเสธไม่ได้ว่าพระองค์ไม่เพียงแต่เป็นนักคิดที่มีระบบระเบียบ แต่ยังทรงทำให้ทุกคนเห็นอีกด้วย เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมคิดว่าสำคัญที่สุดมากกว่าการคิดคือการ ‘ลงมือทำ’

     “เด็กรุ่นใหม่อย่างพวกเราต้องรวมพลังกันเพื่อช่วยพัฒนาประเทศ เราสามารถดำเนินรอยตามในหลวงรัชกาลที่ 9 และช่วยกันทำให้ประเทศชาติดีขึ้นได้”

 

 

“หากทุกคนนำคำสอนมาปฎิบัติ นอกจากจะช่วยพัฒนาตนเองแล้วยังช่วยพัฒนาประเทศชาติได้ด้วย”

     “เดือนนี้เมื่อปีที่แล้ว ผมได้จากบ้านมาศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษพอดี และได้ทราบข่าวเกี่ยวกับการเสด็จสวรรคตของในหลวงรัชกาลที่ 9 ในเวลานั้นรู้สึกช็อกและเสียใจเป็นอย่างมาก รู้สึกอยากกลับบ้าน เพราะพระองค์เป็นมากกว่า ‘พ่อ’ หรือใครคนหนึ่ง พระองค์ทรงเป็นพ่อของคนไทยทั้งประเทศ

     “เดือนที่แล้วผมได้มีโอกาสไปถวายสักการะพระบรมศพ ความรู้สึกตอนนั้นเต็มไปด้วยความตื้นตันใจ เพราะได้เห็นปวงชนชาวไทยจากทุกสารทิศพากันมาทำความดีด้วยหัวใจ และที่ขาดไม่ได้ ต้องขอขอบคุณคณะผู้จัดงานและจิตอาสาทุกท่านที่มาช่วยกันทำงานอย่างเต็มความสามารถ

     “แม้พระองค์จะไม่อยู่แล้ว แต่สิ่งที่พระองค์ได้ทิ้งไว้ให้แก่ปวงชนชาวไทยคือพระราชดำรัสหลักคำสอน ซึ่งล้วนแต่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ในชีวิตประจำวัน เช่น หลักความพอเพียง รู้จักหน้าที่ของตัวเอง รู้จักนับถือในความรู้ ซึ่งสิ่งต่างๆ ที่พระองค์ทรงสอนนั้น หากทุกคนนำไปปฏิบัติ นอกจากจะช่วยพัฒนาตนเองแล้วยังสามารถช่วยพัฒนาประเทศชาติของเราได้อีกด้วย

     “ผมในฐานะส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งของคนไทย จะนำพระราชดำรัสต่างๆ ของพระองค์มาใช้ร่วมกับความรู้ที่มีในการพัฒนาชาติบ้านเมืองเพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณของพระองค์”

 

ขอขอบคุณ: อภิสรา ศิริวัฒน์โยธิน

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising